แบบประเมินตนเอง หน่วยที่ 12

 

1. การวางแผนสำนักงานอัตโนมัติคืออะไร

ก. การพัฒนาระบบสำนักงานที่มีการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีไฮเทคเพื่อให้เกิดความเป็นอัตโนมัติ
ข. การศึกษารายละเอียดของระบบสำนักงานเพื่อนำไปกำหนดแนวทางที่จะนำไปสู่การเป็นสำนักงานอัตโนมัติ
ค. การออกแบบอาคารและลักษณะการทำงานในระบบสำนักงานที่จะทำให้เกิดความเป็นอัตโนมัติ
ง. การศึกษาความต้องการขององค์การเกี่ยวกับลักษณะของระบบสำนักงานอัตโนมัติที่ต้องการ
จ. การวิเคราะห์ความคุ้มค่าของทรัพยากรที่ต้องใช้กับผลประโยชน์ที่จะได้รับกลับมาจากระบบสำนักงานอัตโนมัติ

 

2.. การวางแผนสำนักงานอัตโนมัติมีความสำคัญคือ

ก. ช่วยแบ่งเบาภาระงานของพนักงานในสำนักงานลง
ข. ระบบสำนักงานอัตโนมัติที่พัฒนาขึ้นมาจากแผนจะประสบความสำเร็จแน่นอน 100 %
ค. ทำให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ง. ช่วยให้การพัฒนาสำนักงานอัตโนมัติเสร็จเร็วขึ้นกว่าปกติโดยเฉลี่ย 2 เท่า
จ. สำนักงานอัตโนมัติที่พัฒนาตามแผนจะสามารถแบ่งเบาภาระงานของพนักงานได้มากกว่า 90 %
 

3. ข้อใดเป็นขั้นตอนของการวางแผนพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ

ก. ศึกษาสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสำนักงานปัจจุบัน ความต้องการของบุคลากรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในสำนักงานอัตโนมัติได้
ข. ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบสำนักงานปัจจุบันโดยละเอียด
ค. ออกแบบระบบสำนักงานอัตโนมัติที่เหมาะสมเพื่อลดหรือแก้ปัญหาต่างๆที่มีอยู่
ง. พัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติและจัดเตรียมบุคลากร
จ. ดำเนินการปรับเปลี่ยนจากระบบเดิมไปสู่ระบบสำนักงานอัตโนมัติ
 

4.วัฏจักรพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ หมายถึง

ก. วิธีการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานกับระบบสำนักงานอัตโนมัติ
ข. วิธีการพัฒนารูปแบบของการประเมินผลระบบสำนักงานอัตโนมัติ
ค. วิธีการตรวจสอบระบบสำนักงานอัตโนมัติเพื่อย้อนกลับไปปรับปรุงส่วนที่บกพร่อง
ง. วิธีการพัฒนาระบบสำนักงานเดิมให้เป็นระบบสำนักงานอัตโนมัติ
จ. วิธีการสร้างระบบจำลองหรือต้นแบบของระบบสำนักงานอัตโนมัติ
 

5. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของกลุ่มที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ

ก. กำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบ
ข. ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความรู้และวิชาการ
ค. สนับสนุนให้การพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติเป็นไปด้วยความคล่องตัว
ง. ให้ข้อเสนอแนะและแนวทางในการดำเนินงานด้านเทคโนโลยี
จ. ให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆในระหว่างการพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ

6. การปรับเปลี่ยนระบบจากสำนักงานปัจจุบันไปสู่สำนักงานอัตโนมัติแบบคู่ขนานมีข้อดีอย่างไร

ก. เป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับพนักงานในการทำงานกับระบบสำนักงานอัตโนมัติ
ข. พนักงานผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนจะมีความตั้งใจและพยายามเรียนรู้การทำงานกับระบบใหม่เต็มที
ค. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบใหม่
ง. ความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของการทำงานเกิดขึ้นน้อยมาก
จ. ลดความยุ่งยากและขั้นตอนในการปรับเปลี่ยนระบบลง
 

7. ข้อใดเป็นประโยชน์ที่ได้จากการพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ

ก. การทำงานในสำนักงานเป็นระบบมากขึ้น
ข. นำผลกำไรมาสู่องค์การ
ค. แบ่งเบาภาระงานและอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับพนักงาน
ง. ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ดีขั้น
จ. ระบบสำนักงานจะมีอายุการใช้งานนานกว่าสำนักงานทั่วไป
 

8. เออร์กอนอมิกส์ในสำนักงาน คืออะไร

ก. วิทยาการแขนงหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในสำนักงาน
ข. ปรัชญาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในสำนักงาน
ค. มาตรการรักษาความปลอดภัยในสำนักงาน
ง. วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับปัจจัยและสิ่งแวดล้อมต่างๆในสำนักงาน
จ. จิตวิทยาในการสร้างแรงจูงใจและมนุษย์สัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน
 

9. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อสำนักงาน

ก. ในการทำความสะอาดจอภาพคอมพิวเตอร์ไม่ควรใช้น้ำยาหรือสเปรย์ฉีดที่จอภาพโดยตรงให้ฉีดลงที่ผ้าสะอาดนุ่มๆแล้วจึงเช็ดจอภาพ
ข. การเลือกวัสดุซับเสียงจะช่วยป้องกันมิให้เสียงจากบริเวณอื่นผ่านเข้ามารบกวนการทำงานได้
ค. การจัดวางคอมพิวเตอร์ในสำนักงานควรให้จอภาพหันเข้าหาหน้าต่างเพื่อให้ได้แสงสว่างเพียงพอ
ง. ห้องทำงานที่ใช้สีโทนเย็น เช่น สีฟ้า สีเขียว จะช่วยให้บรรยากาศในห้องผ่อนคลายและโปร่งสบาย
จ. การจัดพื้นที่ทำงานควรให้เหมาะสมต่อประโยชน์การใช้สอยและมีความปลอดภัยมากที่สุดและส่งผลกระทบน้อยที่สุด
 

10. การปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บั้นเอว ซ้ำๆกันเป็นเวลานานทำให้เส้นประสาท เส้นเอ็น และกระดูกบริเวณแขน ข้อมูล และคอถูกทำลายมีสาเหตุเนื่องมาจาก

ก. การนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ที่มีแสงจ้าเกินไป
ข. การนั่งทำงานบนเก้าอี้ที่ไม่ถูกหลักเออร์กอนอมิกส์
ค. การทำงานที่ต้องใช้แขนมากเป็นประจำทุกวัน
ง. สภาพแวดล้อม อาทิ อุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง ที่ไม่ถูกหลักเออร์กอนอมิกส์
จ. การทำงานในห้องที่มีอากาศร้อนอบอ้าว อากาศถ่ายเทไม่สะดวก