สถานการณ์แรกที่ผู้ปฏิบัติงานในส่วนราชการต่างๆ จะต้องประสบในการต้อนรับชาวต่างประเทศที่มาเยือน คือ การทักทาย ซึ่งทำได้ในหลายโอกาส ทั้งในกรณีที่เพิ่งรู้จักกันรวมทั้งได้ทราบถึงกำหนดการมาเยือนแต่ไม่เคยพบหน้าค่าตากันมาก่อน และในกรณีรู้จักมาแล้ว
การทักทายโดยทั่วไปมักใช้สำนวนดังต่อไปนี้
การทักทายตอนกลางคืน ยังคงใช้ Good evening. ไม่ใช้ Good night. ซึ่งใช้กล่าวลากันยามดึกหรือลาก่อนไปนอน โดยในบางวัฒนธรรม ยังใช้ Good night. สำหรับการกล่าวลากันตอนเย็นก่อนกลับบ้าน ทั้งนี้ต้องปรับไปตามสถานการณ์หรือสถานที่และบุคคลที่เราติดต่อสื่อสารด้วยตารางต่อไปนี้แสดงสำนวนที่มักใช้ในการทักทายกันในสถานการณ์ต่างๆ อย่างเป็นเป็นกลางๆถึงเป็นทางการ (Neutral/Formal) จนถึงสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ ตั้งแต่การเริ่มทักทาย (Greeting) การตอบและถามคำถามต่อเนื่องหรือการกล่าวตอบ (Follow-up Enquiry/Expression) และ การตอบ (Reply) รวมทั้งคำตอบการทักทายต่างๆ อย่างเหมาะสม
|
---|
ทั้งนี้ผู้ให้การต้อนรับอาจกล่าวต้อนรับสั้นๆ เมื่อพบกันครั้งแรก เช่น Welcome to the Office/Department/Ministry of …. หากเคยพบกันมาแล้วอาจใช้กล่าวว่ายินดีที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง เช่น (It’s) nice to see you again. หรือ (It’s) good to see you again. |
---|
ในกรณีที่ไม่เคยพบหรือรู้จักกันมาก่อน ผู้ต้อนรับจะต้องสามารถแนะนำตนเอง และสามารถเข้าใจและโต้ตอบการแนะนำตนเองและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานที่ทำงาน หรือตำแหน่ง นอกจากนั้นยังต้องสามารถเข้าใจการแนะนำตนเองของผู้มาเยือนได้อย่างเหมาะสม การแนะนำตนเองมักใช้สำนวนต่อไปนี้
การบอกชื่อ นามสกุล (Identification) | ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (Relevant Information) | |
ทั่วๆ ไป |
I’m (ชื่อ-นามสกุล) My name is (ชื่อ-นามสกุล) (สำนวนนี้ ใช้ในสถานการณ์เฉพาะที่ต้องการระบุชื่อตนเอง เช่น การลงทะเบียนสัมมนา หน้างาน เป็นต้น) |
I’ve just come up from (เมือง/ประเทศ). I came from (เมือง/สถานที่ทำงาน). ...from (เมือง/ประเทศ/สถานที่ทำงาน). I’m (ชื่อตำแหน่งงาน). |
เป็นทางการ (Formal) |
Let me introduce myself. I’m (ชื่อ-นามสกุล) |
I work for (สถานที่ทำงาน). I’m in charge of (หน่วยงาน/งานที่รับผิดชอบ). I’m responsible for (หน่วยงาน/งานที่รับผิดชอบ). |
ไม่เป็นทางการ |
(ชื่อ) (ชื่อ-นามสกุล) I’m (ชื่อ-นามสกุล) |
I’m (ชื่อเพื่อน)‘s friend. |
ในกรณีที่ผู้ต้อนรับจะต้องนำผู้มาเยือนไปพบบุคคลผู้อื่นในหน่วยงาน เช่น ผู้ช่วย ผู้รับผิดชอบคนอื่น หรือผู้บังคับบัญชา ผู้ทำหน้าที่ต้อนรับจะต้องสามารถแนะนำผู้มาเยือนให้รู้จักกับบุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม
สถานการณ์อีกสถานการณ์หนึ่งที่อาจพบในการแนะนำเมื่อพบกันครั้งแรกคือ การแนะนำผู้อื่นให้รู้จักกัน โดยก่อนที่จะแนะนำด้วยการบอกชื่อ – นามสกุล และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จะต้องใช้ประโยคกล่าวนำที่แสดงว่าผู้พูดต้องการแนะนำให้รู้จักบุคคลอีกผู้หนึ่ง โดยใช้สำนวนแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ต่อไปนี้
I’d like you to meet Dr. John Stevens, the Personnel Director.
Can I introduce Miss Nathalie Taylor from Seattle?
I’d like to introduce you to Khun Piyanut, our Provincial Health Officer.
Let me introduce you to Dr. Smart, Resident Advisor for Ramathibodi Hospital.
May I introduce you to Dr. Julian Bayer from New Zealand?
I want you to meet Jane , my wife.
John, have you met Kalaya, my friend?
Jake, this is Pensri, my sister.
สำหรับชื่อคนไทย ถ้าแนะนำคนไทยให้รู้จักกับชาวตะวันตกที่ไม่คุ้นเคยกับการเรียกชื่อตามธรรมเนียมไทย จะใช้คำนำหน้าชื่อคนไทยตามธรรมเนียมของเจ้าของภาษาคือ Mr./Mrs./Miss/Ms. แต่ถ้าเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับธรรมเนียมไทยแล้ว อาจใช้ คำว่า “คุณ” นำหน้าชื่อ
คนไทยเหมือนธรรมเนียมไทยเลยก็ได้
การตอบรับเมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักกับผู้อื่นอาจใช้สำนวนต่างๆ ตามสถานการณ์ดังนี้
First Greeting | Response | |
Neutral/ |
How do you do? |
How do you do? |
Informal | Hello. | Hello. |
นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกันครั้งแรกอาจแสดงความเป็นกันเองด้วยการบอกให้อีกฝ่ายหนึ่งเรียกชื่อของตนเองแทนการเรียกนามสกุล (ตามธรรมเนียมตะวันตก ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกันจะเรียกกันด้วยนามสกุล เช่น Mr. John Smith ผู้ที่ไม่คุ้นเคยจะเรียกว่า Mr. Smith แต่ผู้ที่คุ้นเคย จะเรียกว่า John เป็นต้น) สำนวนที่ใช้คือ
Please call me (ชื่อ).
You can call me (ชื่อ).
ในการต้อนรับผู้มาเยือน อาจต้องมีการเสนอความช่วยเหลือ เช่น ช่วยพาไปพบบุคคลผู้อื่น ช่วยถือสัมภาระ ช่วยถ่ายภาพ เสนอว่าจะไปรับหรือไปส่ง หรือเสนอสิ่งของ เช่น เสนอให้ยืมปากกา เสนอของว่างหรือเครื่องดื่มต่างๆ และต้องสามารถเข้าใจการตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอ เพื่อปฏิบัติตนได้ถูกต้องเหมาะสม
กรณีที่ใช้ | สำนวนภาษาที่ใช้ พร้อมตัวอย่าง | |
การเสนอความช่วยเหลือแบบกว้างๆ ทั่วไป (ไม่ระบุเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ) |
Can I help you? May I help you? What can I do for you? |
|
การเสนอความช่วยเหลือโดยระบุสิ่งที่จะช่วยทำให้ | Can I/Could I + V base form |
|
การเสนอสิ่งของ (เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรืออื่นๆ) |
Would you like + สิ่งของที่เสนอให้? |
การตอบรับการเสนอ (accepting offers) และการตอบปฏิเสธการเสนอ (declining offers)
มีสำนวนภาษาหลักๆ ดังนี้
การตอบรับ | การตอบปฏิเสธ | ![]() |
Yes, please. That would be nice, thank you. |
No, thanks. I’m OK, thanks. That’s all right, Thank you. There’s no need, thank you. |
คัดลอกจาก จรัสวัฒน์ ไตรรัตน์ เอกสารการสอนชุดวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร หน่วยที่ 3 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หน้า 140-141
ในการสนทนาอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสาร เช่น ฟังไม่ทัน ฟังไม่ถนัดชัดเจน ต้องการขอให้พูดซ้ำ พูดช้าลง หรือ ขอให้สะกดชื่อหรือคำให้ เป็นต้น สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อจุดประสงค์เหล่านี้มีหลายสำนวน ในที่นี้ขอยกบางสำนวนมาเป็นตัวอย่างดังนี้
จุดประสงค์ | สำนวนภาษา | |
เมื่อต้องการบอกว่าฟัง...ไม่ทัน ไม่ถนัดชัดเจน | I’m afraid I couldn’t quite catch… [your name/ your telephone number / the name of the book/ that (ใช้ that ได้ เฉพาะกรณีที่เป็นที่ทราบดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟังแล้วว่าเอ่ยถึงสิ่งใดอยู่)]. | |
เมื่อต้องการขอให้พูดซ้ำ | Sorry? Pardon? Pardon me? I beg your pardon? Can/Could you repeat that, please? Can/Could you say that again, please? |
|
เมื่อต้องการขอให้พูดช้าลง | Can/Could you speak slower, please? Can/Could you speak more slowly, please? |
|
เมื่อต้องการขอให้พูดดังขึ้น | Can/Could you speak louder, please? Can/Could you speak more loudly, please? |
|
เมื่อต้องการขอให้สะกดชื่อหรือคำ | Can/Could you spell your name, please? Can/Could you spell the word, please? How do you spell that, please? |
|
เมื่อต้องการตรวจสอบว่าที่ได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่ | Did you say …? |
คัดลอกจาก จรัสวัฒน์ ไตรรัตน์ เอกสารการสอนชุดวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร หน่วยที่ 3 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หน้า 172
นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการสนทนาได้แก่ การเริ่มการสนทนา การดำเนินการสนทนา และ การจบการสนทนา
Topic | Questions and Openers | |
weather | What was the weather like when you left (เมือง/ประเทศ)? Have you got used to the weather in Thailand? |
|
home town | Is (เมือง) a big town/ near the sea/ mountains? | |
journey | Was your flight on time/comfortable? | |
previous visits | Is this your first visit? Have you been to Thailand/the north before? |
|
accommodation | I hope you are comfortable.* | |
job | How long have you been in your present position? What is your present position? How long have you worked for (สถานที่ทำงาน)? |
|
family | How many children have you got? (สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว) | |
plans | How long are you planning to stay here? | |
reason for visit | I understand you are in (เมือง/ประเทศ) for (เหตุผลที่มา/ระยะเวลา) | |
other visits | Have you ever been to (เมือง/ประเทศ/สถานที่)? Are you planning any trips? |
หัวข้อการสนทนาแต่ละครั้งนั้นอาจมีได้หลายหัวข้อแล้วแต่การสนทนาจะดำเนินไปในทิศทางใด ปกติแล้วการสนทนาจะอยู่ในรูปของคำถาม-คำตอบ-คำถาม สลับสับเปลี่ยนกันไปโดยที่คู่สนทนาจะสลับกันเป็นคนถามและตอบ ปัจจัยที่ทำให้การสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ โดยไม่สะดุดหรือหยุดไปจนทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัดที่จะต้องยืนหรือนั่งอยู่ด้วยกันเฉยๆ คือ การที่ต่างฝ่ายพยายามถามและตอบคำถามของกันและกันและพยายามให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือถามข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกันจากคู่สนทนา เพื่อให้มีข้อมูลที่จะโยงไปพูดเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันได้
จะเห็นว่าการเชื่อมโยงการสนทนามีดังนี้
![]() |
![]() |
---|
ในตารางตัวอักษรที่พิมพ์ตัวเอนแสดงข้อมูลที่ให้เพิ่มเติมจากการตอบคำถาม และจะเห็นได้ว่าบทสนทนาสามารถเชื่อมโยงจากข้อมูลที่ให้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการตอบคำถาม และจากการย้อนถามข้อมูลของอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นในการสนทนาจึงไม่ควรเป็นไปในลักษณะ ที่ถามคำตอบคำ แต่ควรเสริมข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับคำถามนั้น และควรถามข้อมูลจากคู่สนทนาบ้าง โดยอาจใช้สำนวน “And you?” หรือ “What about you?” เป็นต้น
ในการยุติการสนทนา ผู้พูดจะต้องระวังไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ตามปกติมักใช้สำนวนที่แสดงว่าจำเป็นจะต้องยุติการสนทนาแล้ว และตามด้วยเหตุผลตามสถานการณ์ ดังนี้
และเมื่อจะกล่าวลาคู่สนทนาที่เพิ่งพบเป็นครั้งแรก อาจใช้สำนวนต่อไปนี้
It’s been a pleasure meeting you.
I’ve enjoyed meeting you.
It’s been interesting talking to you.
It’s been nice meeting you. I hope we meet again.