ประโยชน์ที่ได้รับ |
|
คณาจารย์ บุคลากรของมหาวิทยาลัย และผู้สนใจทั่วไป
ได้ทราบทิศทางการดูแลสุขภาพแนวใหม่ มีความรู้ ทักษะ มีความสามารถ |
และมีกลวิธีที่เหมาะสมในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
สามารถนำความรู้ไปใช้ดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งเป็นการขยายเครือข่าย |
การสร้างเสริมสุขภาพให้กว้างขวางขึ้น
รวมทั้งมีสุขภาพกายและจิตที่ดีเพื่อการทำงานอย่างมีความสุข |
วิทยากร |
|
1. ดร.นิลวรรณ เพชระบูรนินทร์
|
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย |
|
2. อาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์ |
ผู้อำนวยการอโรคยาสถาน คลินิก การแพทย์แผนไทย |
|
3. อาจารย์ไกร มาสพิมล |
นักเคมีปฏิบัติและนักโภชนศาสตร์ ที่ปรึกษามูลนิธิแพทย์ทางเลือก |
สรุปเนื้อหาการบรรยาย |
|
ทิศทางการดูแลสุขภาพแนวใหม่ |
|
|
1. ทำนายโรค ป้องกันโรคก่อนเกิดอาการ |
|
- ทำนายด้วยการตรวจเลือด |
|
- ทำนายด้วยการตรวจวิเคราะห์ยีน |
2. ทำนายด้วยการตรวจ QUANTUM
COSMIE |
|
- ตรวจอนุภาคนาโนของร่างกาย |
|
- ตรวจความผิดปกติของ DNA |
|
บรรยายโดย ดร.นิลวรรณ เพชระบูรนินทร์ |
|
3. รู้จักกินอาหารให้เป็นยารักษาโรค
|
|
- ทำและชิมอาหารต้านโรค |
|
บรรยายโดย อาจารย์ไกร มาสพิมล |
|
4. สุขลักษณะในการดำรงชีวิตประจำวัน |
|
- การใช้ดนตรีบำบัด |
|
บรรยายโดย อาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์ |
|
|
|
|
|
เป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกอีกหนึ่งวิธีบำบัดรักษา
มีพื้นฐานมาจากการฟังการสวดมนต์ ชาวจีนโบราณค้นพบว่า อวัยวะภายในของมนุษย์ |
มีการสั่นสะเทือนตรงกับเสียงห้าเสียง คือ
กง ซัง อวี๋ เจี่ยว เจิง (หรือตรงกับเสียงโน้ต โด มี ฟา ซอล ลา ฯลฯ)
เสียงทั้งห้ามีความเกี่ยวพันกับธาตุทั้งห้า |
ในร่างกายมนุษย์ (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) ดังนั้นจึงได้นำเสียงดนตรีมารักษาโรค
โดยวิธีการใช้เสียงดนตรีร่วมกับศิลปะการออกกำลังจิตแบบจี้กง |
เพื่อช่วยส่งเสริมและถ่ายเทพลังธาตุทั้ง
5 ในร่างกายให้มีความสมดุลตามหลักของคัมภีร์อี้จิง จนก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยอัตโนมัติ |
เป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
มีท่าทางการเคลื่อนไหวที่หลากหลายรูปแบบ เช่น ยิมนาสติก โยคะ ศิลปะการต่อสู้
เต้นรำ ฯลฯ |
หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนหรือการเคลื่อนไหวแบบยากๆ
ที่ไม่มีใครสามารถทำได้ในสถานการณ์ปกติ |
|
การสวดมนต์ บำบัด
ป้องกันโรค และปรับพลังชีวิตในร่างกาย |
|
|
เป็นการสวดพระคาถาหัวใจพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
คือ นะ โม พุธ ธา ยะ เปรียบเสมือนการสวดบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์
|
|
ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ในภัทรกัป
หรือกัปปัจจุบัน โดยแต่ละคำแทนพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ดังนี้ |
|
|
นะ |
หมายถึง
|
พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถือกำเนิดในสกุลพรหมณ์
ในเขมนคร |
พระองค์ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วยรถอันเป็นยานพาหนะ |
บำเพ็ญเพียรอยู่ 8 เดือนเต็ม จึงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณที่ไม้โพธิพฤกษ์ชื่อ
ไม้ซีก |
|
|
|
|
|
|
|
โม |
หมายถึง |
พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์แห่งโสภวดีนคร
|
พระองค์ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ จึงออกบวช
โดยมีช้างเป็นพาหนะ และบำเพ็ญเพียร |
อยู่ 6 เดือน จึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่ไม้โพธิพฤกษ์ชื่อ
ไม้มะเดื่อ |
|
|
|
|
|
|
|
พุท |
หมายถึง
|
พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ในนครพาราณสี
|
พระองค์ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ จึงออกบวช
ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วัน |
จึงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณที่ไม้โพธิพฤกษ์ชื่อ
นิโคธ |
|
|
|
|
|
|
|
ธา |
หมายถึง |
พระโคตมะสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระสมณโคดม
เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดี |
พระองค์ทรงถือกำเนิดในตระกูลกษัตริย์ ในนครกบิลพัสดุ์
และทรงนิมิต 4 ประการ |
จึงทรงออกผนวชด้วยยานคือม้า ได้บำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่
6 ปี ก่อนที่จะทรงบำเพ็ญเพียร |
ด้วยทางสายกลาง จึงตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณที่ไม้โพธิพฤกษ์ชื่อ
อัสสัตถพฤกษ์ |
|
|
|
|
|
|
|
ยะ |
หมายถึง |
พระศรีอาริยะเมตไตย ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่
5 ในกัปนี้ โดยเชื่อว่า |
ในยุคพระศรีอาริยะเมตไตยนี้ จะเป็นยุคที่สภาพสังคมสมบูรณ์
ผู้คนล้วน |
มีศีลธรรมอันดีงามอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข |
|
|
และที่พิเศษคือ นอกจากคำสวดแต่ละคำจะแทนพระพุทธเจ้าแต่ละองค์แล้ว
ยังเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 ในร่างกายเรา |
|
และมีกำลังแตกต่างกันไป คือ |
|
|
|
วิธีการสวดที่ได้ผล
คือ จะต้องสวดสลับลำดับคำไล่กันไปคือ |
|
|
|
|
เมื่อสวดครบทั้ง 5 บทนี้ เรานับเป็น 1 คาบ
ให้สวดทั้งหมด 108 คาบ โดยอาจเริ่มต้นด้วยการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ก่อน
|
|
แล้วจึงสวดพระคาถานี้ต่อ เมื่อสวดจบ ก็จะถือว่าเป็นการปรับธาตุทั้ง
5 ในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด |
|
|
ใครที่ทำงานเคร่งเครียด
เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หรืออาจจะได้รับผลกระทบจากอารมณ์ทั้ง
7 |
ที่เกิดขึ้นระหว่างวัน
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีใจ เสียใจ วิตก กังวล กลัว โกรธ ซึ่งล้วนส่งผลให้ธาตุทั้ง
5 |
ในร่างกายแปรปรวนทั้งสิ้นนั้น
ลองสวดพระคาถาบทนี้ จิตใจจะได้สงบ ร่างกายสมดุลสมบูรณ์ และ |
ที่สำคัญคือใครที่มีปัญหาเรื่องนอนไม่ค่อยหลับ
หากได้สวดพระคาถาบทนี้แล้ว ก็จะนอนหลับได้อย่างสบาย |
|
|
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเสียงสวดมนต์กับร่างกายและการบำบัดรักษา |
|
|
|
การกราบพระ
การไหว้พระ |
|
|
การสวดมนต์เพื่อบำบัดโรคควรควบคู่ไปกับการกราบไหว้ที่ถูกต้อง
การกราบไหว้ที่ถูกวิธีจะมีผลต่อต่างกายคือ ช่วยในการเดินพลังปราณ |
|
หรือพลังที่อยู่ในร่างกายให้ไหลเวียนสะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อสวดมนต์เสร็จและมีการกราบไว้ควบคู่กันไป อานุภาพในการรักษาจะยิ่งทวีขึ้น |
|
|
การกราบพระหรือการไหว้พระ ล้วนแล้วแต่มีเหตุผล
มีที่มาที่ไป การกราบพระเป็นการปรับพลังงานในร่างกาย |
|
เพราะการกราบพระจะทำให้กระดูกสันหลังโค้งงอ
เวลากระดูกสันหลังโค้งงอพลังกุณฑริณีที่อยู่ตั้งแต่ฝีเย็บจะวิ่งขึ้นมาที่กระดูกสันหลัง
|
|
ผ่านต้นคอ ผ่านกลางกระหม่อม ผ่านหน้าผาก
ลงมาถึงปลายจมูก คนจีนโบราณจะเรียกเส้นทางเดินของพลังนี้ว่า เส้นลมปรณตู๋เหม่ย
|
|
และจากปลายริมฝีปากลงมา ผ่านกลางคอหอย ผ่านกลางหว่างอก
ผ่านกลางสะดือ ลงไปที่ฝีเย็บ เราเรียกว่า เจินเหม่ย |
|
|
คนโบราณรู้ว่าพลังทั้งสองสายนี้เป็นพลังประธานในร่างกาย
และจะต้องไหลเวียนเป็นวงกลมวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 50 รอบ |
|
ซึ่งการที่มนุษย์ต้องก้มๆ เงยๆ ทำอะไรต่างๆ
ในแต่ละวันย่อมีผลทำให้พลังงานไหลเวียนไม่ถึง 50 รอบ แต่เวลาที่กราบพระแล้ว |
|
หน้าผากจรดพื้นนั้น กระดูกสันหลังจะโค้งงอ
ซึ่งทำให้พลังวิ่งแรงขึ้น ดังนั้น การกราบพระจึงเป็นกุศโลบายในการรีดเส้นลมปราณ
นั่นเอง |
|
|
การพนมมือไหว้ในขณะฟังการสวดก็เช่นเดียวกัน
ในสมัยก่อนจะมีการพนมมือด้วยกันหลายรูปแบบ ตามโรคที่ผู้ป่วยเป็น |
|
ซึ่งเราเรียกว่า ตีลัญจกร การพนมมือแต่ละรูปแบบนั้นเป็นเสมือนการติดตั้งเสาอากาศรับคลื่นพลังจากธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย
|
|
เพื่อทำการบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆ ที่เราเป็นได้อย่างแม่นยำและตรงจุด
เหมือนเวลาที่เราต้องการดูช่องยูบีซีก็ต้องมีเสาอากาศ |
|
รับสัญญาณของคลื่นยูบีซีโดยเฉพาะการพนมมือก็เช่นเดียวกัน
เป็นการติดตั้งแผงวงจรบนฝ่ามือเพื่อรับคลื่นจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวเรา
|
|
โดยมีพระคาถาเป็นเสมือนไดร์สตาร์ทให้ร่างกายดูดซับคลื่นจากธรรมชาติ
เข้ามาเหนี่ยวนำการทำงานของโมเลกุลในอวัยวะต่างๆ |
|
ให้กลับมาทำงานได้ตามปกตินั่นเอง |
|
ปฏิบัติชีวิตประจำวันให้สามารถป้องกันโรค
อาจมีหลากหลายวิธีที่ปฏิบัติ เช่น |
|
|
การใช้นิ้วมือเขียนตัวหนังสือ ผลที่ได้รับคือ
กระตุ้นให้เซลล์ปลายประสาทและต่อมใต้สมอง โดยเฉพาะต่อมไธโปเทลามัส |
|
ทำปฏิกิริยาต่อสมอง ที่มีผลต่อความจำ |
|
|
ฝึกการหายใจ |
|
|
|
- นั่งกำมือ โดยให้นิ้วหัวแม่มือ อยู่ในอุ้งมือ |
|
|
|
- หายใจเข้า เอาลิ้นแตะเพดานบน แล้วหายใจเข้านุ่มๆ
- นิ่ง หยุดหายใจ กระทั่งกระบังลม คลายตัว |
|
|
|
- หายใจออก เอาลิ้นออกจากเพดานบน แล้วหายใจออกนุ่มๆ |
|
|
|
- นิ่ง หยุดหายใจ กระทั่งกระบังลม คลายตัว
|
|
|
|
การหายใจ เข้า นิ่ง การหายใจ ออก นิ่ง
ให้เวลาทั้ง 4 จังหวะ เท่ากัน ทำให้ครบ 36 ครั้ง ผลที่ได้รับคือ |
|
|
จะทำให้เลือดดี มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
ปริมาณเกล็ดเลือดในสมองมากขึ้น ทำให้เซลล์สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ดูแลสุขภาพใจ |
|
|
ได้แนะนำการดำเนินชีวิตอย่างง่ายๆ และมีความสุขว่า
โดยพื้นฐานของการดำเนินชีวิตแบบคนสมัยก่อน คือ การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย |
|
ยึดหลักศีล 5 หรือ เน้นแค่ 1. ไม่ทำความชั่ว
2. ทำแต่ความดี 3. ทำจิตใจให้ผ่องใส แค่ทำอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ข้อ
ก็ส่งผลต่อสุขภาพกาย |
|
และใจให้แข็งแรง มีความสุข เพราะเราคิดดีทำดี |
|
|