วารสารไทย กับค่า Impact Factor

โดย  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรางคณา  ผลประเสริฐ

          ปัจจุบัน มีวารสารเพียงชื่อเดียวที่ปรากฏในฐานข้อมูลของ ISI และสามารถตรวจสอบค่า Journal Impact Factor ได้ คือ วารสาร Asian Pacific Journal of Allergy and Immunology ซึ่งมีค่า Impact Factor = 0.277 ส่วนวารสารไทยอื่นๆ แม้จะจัดเป็นวารสารวิชาการระดับนานาชาติและปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลสากลต่างๆ แต่เนื่องจากไม่ได้ปรากฏในฐานข้อมูลของ ISI ดังนั้น จึงไม่สามารถตรวจสอบค่า Impact Factor จากฐานข้อมูล JCR ได้

          อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้มีการจัดทำ ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย หรือ TCI Centre ขึ้น ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าว เกิดจากโครงการวิจัยภายใต้ทุนวิจัยพระจอมเกล้าธนบุรี ปี พ.ศ. 2545 เรื่อง “การศึกษาและจัดทำดัชนีผลกระทบการอ้างอิงของวารสารวิชาการภายในประเทศ” โดย ศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ และคณะฯ ได้รวบรวมข้อมูลจากวารสารวิชาการภายในประเทศจำนวน 68 รายการ เพื่อคำนวณหาค่า Journal Impact Factor (JIF) ของวารสารวิชาการไทย ผลจากการดำเนินงาน พบว่า โอกาสที่บทความวิชาการเรื่องหนึ่งๆ ที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการไทยมีโอกาสถูกนำไปอ้างอิงเท่ากับ ร้อยละ 6.9 เท่านั้น จากข้อค้นพบดังกล่าว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ได้อนุมัติทุนสนับสนุนโครงการการจัดตั้งศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทยขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับสืบค้นข้อมูลการตีพิมพ์และข้อมูลการอ้างอิงของวารสารวิชาการไทย รวมทั้งรายงานค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพวารสารวิชาการไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี การดำเนินงานของศูนย์ TCI ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา ก่อให้เกิดผลกระทบด้านบวกในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิชาการในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เช่น วารสารบางรายการ โดยเฉพาะวารสารที่มีค่า JIF ต่อเนื่อง มีจำนวนฉบับต่อปีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีจำนวนบทความส่งมาพิจารณาเพื่อการตีพิมพ์เพิ่มมากขึ้น วารสารออกตรงเวลามากขึ้น บรรณาธิการวารสารให้ความสำคัญและต้องการให้วารสารของตนเข้ามาอยู่ในฐานข้อมูล TCI มากขึ้น และวารสารมีการแข่งขันในด้านคุณภาพของบทความเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

เกณฑ์การคัดเลือกวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูล TCI ดังนี้

วารสารสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1. เป็นวารสารที่จัดพิมพ์อย่างต่อเนื่องทุกปี และออกตรงตามเวลาที่กองบรรณาธิการของแต่ละวารสารกำหนด
2. เป็นวารสารที่จัดทำขึ้นภายในประเทศทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  
3. เป็นวารสารที่มี่อายุการตีพิมพ์ไม่น้อยกว่า 3 ปี
4. เป็นวารสารที่ตีพิมพ์บทความวิจัย บทความวิชาการ บทความปริทัศน์ และบทความเรื่องสั้น
5. เป็นบทความที่มีบทคัดย่อภาษาไทย และ/หรือ ภาษาอังกฤษ
6. เป็นบทความที่มีเอกสารอ้างอิง
7. มีการตรวจสอบคุณภาพของบทความที่เสนอขอรับการตีพิมพ์โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความอย่างน้อย 2 ท่าน
8. สามารถขอรับการประเมินคุณภาพผลงานโดยศูนย์ TCI ตามระยะเวลาที่เหมาะสม

วารสารสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
1. เป็นวารสารวิชาการสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่จัดทำขึ้นในประเทศทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
2. เป็นวารสารที่ตีพิมพ์บทความวิจัย บทความวิชาการ บทความปริทัศน์ บทความเรื่องสั้นและบทแนะนำหนังสือ
3. กองบรรณาธิการของวารสารควรมีศาสตราจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิระดับปริญญาเอกจากภายนอกสถาบันที่จัดพิมพ์วารสารนั้น หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นๆ
4. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารต้องมีบทความที่ผู้เขียนมาจากสถาบันอื่น ที่มิใช่สถาบันที่จัดทำวารสารนั้นไม่น้อยกว่า 10%  ของจำนวนบทความทั้งหมด
5. เป็นวารสารที่มีอายุการตีพิมพ์ไม่น้อยกว่า 3 ปี และ / หรือจัดพิมพ์ตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง
6. ควรมีบทความที่มีบทคัดย่อภาษาไทย และ / หรือภาษาอังกฤษ
7. ควรมีการตรวจสอบคุณภาพของบทความที่นำเสนอขอรับการตีพิมพ์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความอย่างน้อย 2 ท่าน
8. สามารถขอรับการประเมินคุณภาพผลงานโดยศูนย์ TCI ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
 
ค่า Thai Journal Impact Factors 10 ลำดับแรก

วารสารสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วารสารสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์

............................................

เอกสารอ้างอิง

ศูนย์ดัชนีอ้างอิงภาษาไทย. “ประวัติความเป็นมาของศูนย์ดัชนีอ้างอิงภาษาไทย”. ค้นคืนวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 จาก http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/history.html.
โยธิน  แสวงดี. (2010).  “เทคนิคการเขียนบทความวิชาการเพื่อตีพิมพ์”. เอกสารประกอบการอบรมเรื่อง “เทคนิคการเขียนบทความทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ”. นนทบุรี : สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (เอกสารอัดสำเนา)
รุจเรขา อัศวิษณุ.  (2010). “Journal Impact Factor”.  เอกสารประกอบการบรรยายในการประชุมอบรมอาจารย์และนักวิจัยรุ่นใหม่ ครั้งที่ 3 เรื่อง "เทคนิคและกลวิธีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการ"  คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 22 กันยายน 2547.  ค้นคืนวันที่ 5 กรกฎาคม 2553. จาก http://stang.sc.mahidol.ac.th/text/impact4.htm. 

.............................................