การแพทย์แผนไทยกับการส่งเสริมสุขภาพ :
การนวดตนเองและการดัดตน เพื่อคลายเครียด
โดย อาจารย์พวงผกา ตันกิจจานนท์
ปัจจุบันการนวดได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่นิยม มีการศึกษาถึงผลของการนวดต่อการบำบัดเสริมทางการพยาบาล พบว่า การนวดมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ
1. ประโยชน์ของการนวด
การนวดมีประโยชน์ ดังนี้
1.1 ด้านร่างกาย การนวดจะส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย คือ
1.1.1 ผลต่อระบบไหลเวียน การนวดจะช่วยทำให้เกิดการยืดขยายหรือการคลายตัวของกล้ามเนื้อ พังผืด เอ็นยึด กระดูก และกล้ามเนื้อ เป็นการเพิ่มการไหลเวียนกลับของหลอดเลือดดำ และเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงเข้ามาแทนที่มากขึ้น
1.1.2 ผลต่อระบบกล้ามเนื้อ การนวดก่อให้เกิดผลโดยตรงต่อร่างกายในบริเวณที่ทำการนวด ซึ่งผลส่วนใหญ่จะทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ เกิดการยืด ผ่อนคลายจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
1.1.3 ผลต่อการสันดาปหรือเพิ่มการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยเฉพาะกรดแลคติคในเซลล์กล้ามเนื้อที่ตึง การนวดจะทำให้เซลล์กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ จากภาวะที่หลอดเลือดขยายตัวทำให้การเพิ่มไหลเวียนเลือดมากขึ้น
1.1.4 ผลต่อระบบผิวหนัง การนวดทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่นวดมีอุณหภูมิสูงขึ้น เลือดมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น
1.1.5 ผลต่อระบบประสาท เป็นผลที่เกิดโดยอ้อมจากการนวด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท ปฏิกิริยาที่เป็นผลมาจากการกระทำต่อระบบประสาทอัตโนมัติจากการนวดที่พบบ่อยที่สุด คือ ความรู้สึกผาสุกในรูปแบบของการผ่อนคลาย
1.1.6 ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งพบว่าการนวดมีผลต่อการเพิ่มของระดับภูมิคุ้มกัน เนื่องจากการนวดช่วยให้กล้ามเนื้อ และร่างกายผ่อนคลาย ลดระดับความวิตกกังวลและความเครียด ซึ่งความวิตกกังวลและความเครียดเป็นภาวะที่มีผลกดระบบการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายไม่มีความเครียดหรือความวิตกกังวล ย่อมทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
1.2 ด้านจิตใจ (Psychological aspects)
การนวด ทำให้ร่างกายมีการผ่อนคลายระดับลึก รับรู้ถึงความรู้สึกเป็นสุข และเนื่องจากการนวดด้วยวิธีการกด การบีบ การคลึง เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความตึงเครียดหรือความไม่สุขสบาย ทำให้ผู้รับการนวดเกิดความพึงพอใจ เนื่องจากมีการผ่อนคลายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
2. ท่านวดตัวเองคลายเครียด
การนวดตัวเองคลายเครียดมีท่านวด (มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา และคณะ, 2544)
ดังนี้
ท่าที่ 1 ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง กดบีบแนวเหนือสะบักและแนวบ่า แล้วทำสลับข้าง |

ท่าที่ 2 ประสานมือเข้าด้วยกันบริเวณท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 1 ข้าง กดตามแนวเกลียวคอและแนวก้านคอ
|

ท่าที่ 3 ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้าง กดจุดใต้ไรผม 2 จุด
(กางข้อศอก จะทำให้มีน้ำหนักกด) พร้อม ๆ กัน ด้วยแรงพอสมควร
ที่มา: มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา และคณะ, 2544
3. ท่าดัดตนคลายเครียด
ท่าดัดตนคลายเครียด (มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา และคณะ, 2544) มีดังนี้

ท่าที่ 4 นั่งขัดสมาธิ งอข้อศอกตั้งไว้ข้างหนึ่ง ให้มือจับบ่าด้านตรงข้าม ใช้มืออีกข้างจับที่ข้อศอกไว้ หายใจเข้า หายใจออก พร้อม ๆ กับดันข้อศอก เข้าหาตัวให้มากที่สุด หายใจเข้าออกปกติ 3-5 ครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้างทั้งซ้ายและขวา ท่านี้เป็นยืดข้อไหล่ เป็นท่าฤาษีดัดตน ซึ่งระบุว่า แก้ขัดแขน |

ท่าที่ 5 นั่งขัดสมาธิ งอศอกข้างหนึ่งไว้ทางด้านหลังของศีรษะ มืออีกข้างจับมือไว้ หายใจเข้า หายใจออก พร้อม ๆ กับดึงข้อมือลงให้มากที่สุด หายใจเข้าออก ปกติ 3-5 ครั้ง แล้วผ่อนออก ทำสลับข้างทั้งซ้ายและขวา ท่านี้เป็นการยืดข้อไหล่
|

ท่าที่ 6 นั่งขัดสมาธิ มือข้างหนึ่งวางบนหน้าตัก ฝ่ามืออีกข้างวางไว้ใต้กกหู หายใจเข้า หายใจออก พร้อมกับดันมือทั้ง 2 ข้าง (มือบนดันคอให้ศีรษะหันไปด้านข้าง มือล่างดันหน้าตัก) หายใจเข้าออกปกติ 3-5 ครั้ง แล้วผ่อนออก ท่านี้ช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ ช่วยบรรเทาอาการปวดคอ และปวดศีรษะ เป็นท่าฤาษีดัดตนซึ่งระบุว่า แก้ลมเวียนศีรษะ
|

ท่าที่ 7 นั่งขัดสมาธิ ตัวตรง พนมมือระหว่างอก หายใจเข้า ค่อย ๆ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะออกแรงดันฝ่ามือเข้าหากัน ยืดลำตัว หายใจเข้าออกปกติ 3-5 ครั้ง แล้วผ่อนออก ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อคอและสะบักช่วยบรรเทาอาการปวดคอ ปวดศีรษะ และปวดสะบัก เป็นท่าฤาษีดัดตนซึ่งระบุว่า แก้ลมปวดศีรษะ
|

ท่าที่ 8 นั่งขัดสมาธิ มือประสานไว้ที่หน้าอก หายใจเข้า หายใจออกเหยียดแขนไปข้างหน้า หายใจเข้า ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ ยืดตัวและแขนให้สุด หายใจเข้าออกปกติ 3-5 ครั้ง แล้วผ่อนออก ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อแขนที่ใช้ในการงอข้อมือและนิ้วมือและบริหารข้อไหล่
ที่มา: มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา และคณะ, 2544
…………………………………
บรรณานุกรม
กรมสุขภาพจิต. (2541). คู่มือคลายเครียด . พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : ดีไชด์คอน จำกัด.
ปิญากรณ์ ชุตังกร. (2542). ความเครียด การดูแล : การจัดการตนเอง. ขอนแก่น : ศิริภัณฑ์ออฟเซ็ท.
มาโนช วามานนท์. ( 2539). การดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา และคณะ. (2544). โครงการฟื้นฟูการนวดไทย : นวดตัวเองและดัดตนคลายเครียด. ค้นคืนจาก http://www.ku.ac.th/e-magazine/april44/know/yoka.html
สุคนธพันธุ์ วีรวรรณ. (2548). พิชิตความเครียดด้วยวิธีธรรมชาติ. กรุงเทพฯ : พีดับบลิว พริ้นติ้ง จำกัด.
อรวรรณ บุราณรักษ์. (2545). คู่มือการออกกำลังกายแบบฤาษีดัดตน . คณะเทคนิคการแพทย์. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
|