มุมสุขภาพ
 

การสื่อสารความเป็นอันตรายของสารเคมีด้วยฉลาก
ตามการจำแนกประเภทและการติดฉลากสารเคมีที่เป็นระบบเดียวกันทั่วโลก

 

โดย  รองศาสตราจารย์ ดร. ศริศักดิ์ สุนทรไชย       

          องค์การสหประชาชาติได้มีการพัฒนา การจำแนกประเภทและการติดฉลากสารเคมีที่เป็นระบบเดียวกันทั่วโลก (Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals ; GHS) ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ระบบการจำแนกประเภทสารเคมีเดิมมีอยู่มีหลายระบบ และมีมาตรฐานแตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการพัฒนาให้เป็นระบบเดียวกันทั่วโลก โดยการสร้างมาตรฐานที่เหมือนกันและใช้ร่วมกันในการจำแนกประเภทสารเคมี โดยคำนึงถึงอันตรายด้านกายภาพ ด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดให้มีการสื่อสารความเป็นอันตราย คือ  การติดฉลากบนภาชนะบรรจุและเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (Safety Data Sheet ; SDS) เพื่อสื่อสารความเป็นอันตรายให้ครอบคลุมผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่ง  ผู้ปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉิน และผู้บริโภค  ประเทศไทยได้นำระบบ GHS มาประยุกต์ ใช้ภายใต้พระราชบัญญัติวัตุอันตราย พ.ศ. 2335 โดยมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบควบคุมสารเคมีที่ใช้ใน ทางอุตสาหกรรมคือ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สารเคมีที่ใช้ในทางการเกษตร คือ กรมวิชาการเกษตร และสารเคมีที่ใช้ในบ้านเรือน คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสาม มาตรา 44 (1) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535  และมาตรา 20 (1) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ระบบการจำแนกและการสื่อสารความเป็นอันตรายของวัตถุอันตราย พ.ศ. 2555 ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย มีหน้าที่ต้องสื่อสารความเป็นอันตรายของวัตถุอันตรายในรูปแบบของฉลากและเอกสารข้อมูลความปลอดภัย ที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจัดทำขึ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถใช้วัตถุอันตรายนั้นๆ ได้อย่างปลอดภัย
ประกาศดังกล่าวได้ให้คำจำกัดความวัตถุอันตราย ที่เป็นสารเคมีในรูปสารเดี่ยว (Substance) ว่าหมายความถึง ธาตุหรือสารประกอบที่อยู่ในสถานะธรรมชาติ หรือเกิดจากกระบวนการผลิตต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงสารเติมแต่งที่จำเป็นในการรักษาความเสถียรของสารเดี่ยว หรือสารเจือปนที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต แต่ไม่รวมถึงสารตัวทำละลายที่สามารถแยกออกมาจากสารเดี่ยวได้ โดยไม่มีผลต่อความเสถียรของสารเดี่ยวหรือไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของสารเดี่ยว ส่วนสารผสม (Mixture) หมายความถึง สารผสมหรือสารละลายที่ประกอบด้วยสารเดี่ยวสองชนิดหรือมากกว่า ที่ไม่ทำปฏิกิริยาต่อกัน

          ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าซึ่งวัตถุอันตรายที่เป็นสารเดี่ยวและสารผสม ต้องดำเนินการจำแนกความเป็นอันตรายทางกายภาพ 16 ประเภท และความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 10 ประเภท และความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม 2 ประเภท ติดฉลากและจัดทำเอกสารข้อมูลความปลอดภัย ซึ่งสารเดี่ยวให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี และสารผสมให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ คือ 13 มีนาคม 2555

          การสื่อสารข้อมูลและความเป็นอันตรายของสารเคมีด้วยฉลาก และเอกสารข้อมูลความปลอดภัยตามระบบ GHS  ประกอบด้วย รูปสัญลักษณ์ คำสัญญาณ ข้อความแสดงความเป็นอันตราย และข้อควรระวังหรือข้อความเตือน

รูปสัญลักษณ์ (Pictogram) หมายถึง ข้อมูลเชิงภาพที่ประกอบด้วยสัญลักษณ์สีดำที่มีกรอบสีแดงรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดบนพื้นขาวซึ่งมีการใช้รูปสัญลักษณ์ 9 รูป สรุปได้ดังนี้

หมายถึง สารออกซิไดส์ สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (ชนิด B, C และ D, E และ F)

หมายถึง สารไวไฟ สารเคมีที่เกิดปฏิกิริยาได้เอง (ชนิด B, C และ D, E และ F) สารที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ  สารเคมีที่เกิดความร้อนได้เอง สารเคมีที่สัมผัสน้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ

หมายถึง วัตถุระเบิด สารเคมีที่เกิดปฏิกิริยาได้เอง (ชนิด A และ B) สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (ชนิด A  และ B)

หมายถึง ความเป็นพิษเฉียบพลัน (รุนแรง)

หมายถึง สารการกัดกร่อน

หมายถึง ก๊าซภายใต้ความดัน

หมายถึง สารก่อมะเร็ง สารทำให้ไวต่ออาการแพ้ของระบบทางเดินหายใจ สารที่เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ สารที่เป็นพิษต่อระบบเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง สารก่อกลายพันธุ์

หมายถึง ความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ

 หมายถึง สารระคายเคือง สารทำให้ไวต่ออาการแพ้ของระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนัง  ความเป็นพิษเฉียบพลัน (อันตราย)  ความเป็นอันตรายต่อชั้นบรรยากาศโอโซน

คำสัญญาณ (Signal Word) หมายถึง คำที่ใช้เพื่อบ่งชี้ระดับความรุนแรงของความเป็นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และเตือนผู้อ่านถึงความเป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งปรากฏอยู่บนฉลาก ระบบ GHS ใช้คำว่า ‘Danger หรือ อันตราย’ และ ‘Warning หรือ ระวัง’ เป็นคำสัญญาณ

ข้อความแสดงความเป็นอันตราย (Hazard Statement) หมายถึง ข้อความบอกประเภทและกลุ่มความเป็นอันตรายซึ่งระบุลักษณะของความเป็นอันตรายของผลิตภัณฑ์อันตรายที่ประกอบด้วยระดับความเป็นอันตรายตามความเหมาะสม

ข้อควรระวัง (Precautionary Statement) หมายถึง วลี (และ/หรือ รูปสัญลักษณ์)                     ซึ่งระบุมาตรการแนะนำที่ควรปฏิบัติตามเพื่อลดหรือป้องกันการเกิดผลร้ายที่เกิดจากการได้รับสัมผัสกับผลิตภัณฑ์อันตราย หรือการจัดเก็บหรือจัดการผลิตภัณฑ์อันตรายที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม

          จากที่กล่าวมา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นทั้งสารเดี่ยวและสารผสมจะต้องจัดทำฉลากตามระบบ GHS ตามเงื่อนไขของประกาศกระทรวงดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่ง  ผู้ปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉิน และผู้บริโภคต้องรับทราบ และให้ความสนใจในข้อความแสดงความเป็นอันตราย และการปฏิบัติตัวตามข้อควรระวังทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างฉลากตามระบบ GHS ได้แสดงไว้ ดังนี้ 

ฉลากทินเนอร์
สารสำคัญ (% w/w)
Toluene 80%  n-Butanol 8 % Methyl Ethyl Ketone 5 % Methyl Isobutyl Ketone 5 % Cellosolve Solvent 2 %
ประโยชน์
ใช้ผสมสี ผสมแลคเกอร์ หรือเชลแลค
ข้อมูลแสดงความเป็นอันตรายและข้อควรระวัง

อันตราย
ของเหลวไวไฟ  อาจป็นอันตรายถึงตายได้ เมื่อกลืนกินหรือผ่านเข้าไปทางช่องลม หรือเมื่อสัมผัสผิวหนัง เป็นพิษเมื่อหายใจเข้าไป  ทำให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงหรืออาจทำให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการหอบหืดหรือระคายเครืองหรือหายใจลำบาก  ระคายเคืองต่อดวงตาอย่างรุนแรงและทำลายดวงตา   อาจทำให้ง่วงซึมหรือมึนงง อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อพันธุกรรมหรืออาจก่อให้เกิดมะเร็ง อาจเกิดอันตรายต่อการเจริญพันธุ์หรือทารกในครรภ์ ทำอันตรายต่อระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร ระบบหมุนเวียนโลหิต  ระบบทางเดินหายใจ ตับและไต เมื่อรับสัมผัสเป็นเวลานาน หรือรับสัมผัสซ้ำ ทำอันตรายต่อระบบหมุนเวียนโลหิต ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจและไต  เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
วิธีใช้
สวมถุงมือ/ เสื้อผ้าเพื่อป้องกันการสัมผัส ห้ามสัมผัสดวงตา ผิวหนัง หรือบนเสื้อผ้า ล้างมือให้ทั่วหลังจากปฏิบัติงานกับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้  สวมถุงมือ/สวมใส่ชุดป้องกัน และสวมอุปกรณ์ปกป้องดวงตา/ หน้า หลีกเลี่ยงการหายใจเอาฝุ่นหรือละอองเข้าไป

 

จัดเก็บในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

 

ตามที่กำหนด โดยผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย หรือ

หน่วยงานที่ได้รับผิดชอบ
ให้ต่อสายดินเชื่อมต่อกับภาชนะบรรจุและ
อุปกรณ์เติม
- ถ้าวัสดุเติมไวไฟต่อไฟฟ้าสถิตย์
การจัดเก็บ
จัดเก็บในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

 

วิธีแก้พิษเบื้องต้น
          ถ้าสัมผัสผิวหนังหรือเส้นผมให้ล้างออก ด้วยน้ำ และสบู่ปริมาณมาก  ให้ถอดเสื้อผ้าที่มีสารปนเปื้อนออกทันที และทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำ/ น้ำฉีดจากฝักบัว หากสูดดม ให้ย้ายไปอยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์และพักผ่อนในลักษณะที่สามารถหายใจได้สะดวก  หากเข้าตาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งอย่างระมัดระวังหากใส่คอนแทกเลนส์อยู่ ให้ถอดออกหากทำได้ไม่ยาก และล้างทำความสะอาดต่อไป หากกลืนกินให้ล้างปาก ห้ามทำให้อาเจียน  ให้โทรศัพท์ปรึกษาศูนย์พิษวิทยา หรือปรึกษาแพทย์โดยทันที  จัดเก็บในภาชนะที่ปิดอย่างแน่นหนาในสถานที่ที่มีการระบายอากาศอย่างดี ถ้าผลิตภัณฑ์สามารถระเหยได้ จะสร้างบรรยากาศที่เป็นอันตราย เก็บไว้ในที่ห่างจากมือเด็ก เก็บให้ห่างจากแหล่งที่จะทำให้เกิดการจุดติดไฟ – ห้ามสูบบุหรี่      
NO SMOKINGNO FIRE
น้ำหนักสุทธิ......                                    
วัน เดือน ปี ที่ผลิต............             
วัน เดือน ปีหมดอายุ............
Lot Number 12345วัน เดือน ปี ที่ผลิตบริษัท - - - -   ถนน ติวานนท์  กทม 11000    ประเทศไทย โทร 02- 2354678

 

          โดยสรุป ตามระบบ GHS ฉลากใช้ในการสื่อสารความเป็นอันตรายสำหรับผู้บริโภคต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน ส่วนเอกสารข้อมูลความปลอดภัยใช้กับผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่งและผู้ปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉิน  ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องรณรงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายในเรื่องรูปสัญลักษณ์ และกระตุ้นให้เกิดการอ่านฉลากและเอกสารข้อมูลความปลอดภัยก่อนการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่มีองค์ประกอบของสารเคมีทั้งสารเดี่ยวและสารผสม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภาพประกอบ banner จาก apidathid23.blogspot.com 

 

………………………………….