ช่วงเวลา ไม่กำหนดแน่นอน
ความสำคัญ
การรำโรงเป็นพิธีกรรมคนไทยเชื้อสายมอญนิยมปฏิบัติเพื่อแก้บน เมื่อตนบนสิ่งใด แล้วได้รับผลตามที่ตนบนไว้ก็จะทำพิธีรำโรงเพื่อเป็นการแก้บน ความสำคัญของพิธีกรรมนี้จึงอยู่ที่การรักษาสัจจะวาจาที่ตนให้ไว้ และความภาคภูมิใจที่ตนได้รับความสำเร็จตามที่ตนบนไว้
พิธีกรรม
ปลูกโรง เมื่อบนไว้แล้วและประสบผลตามที่บนไว้ ก็จะเริ่มเตรียมรำโรงเพื่อแก้บนนั้น โดยปลูกโรงหรือปะรำขึ้น เป็นโรงไม้มุงด้วยแฝกหรือหญ้าคา รูปทรงหน้าจั่ว กว้างยาวพอสมควร ใช้ไม้พื้นบ้านพอที่จะหาได้ในถิ่นนั้นทำ หันหน้าโรงไปทิศตะวันตก ภายในโรงด้านตะวันออกจะปลูกแค่ไม้ไผ่สูงพอพ้นเอวของผู้ป่วย(ที่บน) เล็กน้อยสำหรับวางเครื่องเซ่น ปีกโรงทิศใต้เป็นที่ตั้งวงปี่พาทย์มอญ พื้นปูด้วยแคร่ไม้ไผ่สับฟาก ผู้ชายจะเป็นฝ่ายร่วมกันสร้างโรงนี้และต้องทำให้เสร็จก่อนวันพิธี ๑ วัน การปลูกสร้างก็ต้องทำให้เสร็จภายใน ๑ วันห้ามสร้างโรงนี้ในชายคาบ้าน เสร็จพิธีแล้วห้ามนำไม้หรือส่วนประกอบของโรงนี้ไปสร้างเป็นที่อยู่อาศัย
เครื่องเซ่น ทำเป็นกระทงจะกี่กระทงก็สุดแต่ที่บนไว้ ใน ๑ กระทงจะต้องมีขนมปู่ย่าตายาย (ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำตาลปี๊บและงาดำ) หมากพลู บุหรี่ กรวยใบตอง ธูปเทียน กล้วยน้ำว้า นำดอกลั่นทมมาเสียบเข้ากับไม้แหลมปักเตรียมทำไว้ นอกนั้นเป็นเครื่องเซ่นตามที่บนไว้ เช่น หัวหมูต้ม ไก่ต้มทั้งตัวหรือนึ่งเหล้าขาว เป็นต้น
พิธีรำโรง เมื่อถึงวันกำหนด ชาวบ้านก็จะมารวมกันที่โรงพิธีแต่เช้า ต้นผี (ผู้กระทำพิธี) เริ่มจุดธูปเทียนเชิญผีบรรพบุรุษ นำเครื่องเซ่นมาวางบนแคร่ ปี่พาทย์บรรเลงไปเรื่อย ๆ ที่กลางโรงจะมีเชือกเส้นใหญ่หุ้มด้วยด้ายดิบสีขาวมัดโยงไว้เพื่อให้ผู้มาร่วมพิธีโหนโยนตัวเวลาผีเข้า ต้นผีจะนุ่งผ้าโจงกระเบน มีสไบคล้องคอ ประแป้งตามเนื้อตัว บ้างก็ทัดดอกไม้ เจ้าภาพงานต้องเตรียมแต่งตัวนี้ไว้ให้เผื่อบางคนไม่มีเครื่องแต่งตัวดังกล่าวเมื่อแต่งตัวแล้วก็ไปโหนเชือกที่กลางโรงพิธี โหนวนไปมาสามรอบ ผีที่ได้รับเชิญมาก็จะเข้าสิงผู้นั้น อาการที่เกิดขึ้นก็คือนัยน์ตาเริ่มเหม่อลอย คล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น ไม่มองหน้าใครแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนานไปตามเสียงเพลงวงปี่พาทย์ที่บรรเลงด้วยเพลงที่มีทำนองเร้าใจ จากนั้นก็กระโดดไปเกาะราวหน้าเครื่องเซ่นเต้นบ้าง รำบ้าง หญิงบางคนอาจกระโดดออกนอกโรงพิธีเอาสไบคล้องหญิงอื่นเข้าไปในโรงพิธี หญิงที่ถูกดึง
เข้าไปก็จะเต้นตามไปด้วย ขณะนี้พวกผู้ชายที่เข้าไปในโรงพิธีไม่ได้ ก็จะนั่งอยู่นอกโรงพิธีอาจยั่วเย้าผีอย่างสนุกสนาน หรือหากต้องการให้หญิงใดเข้าไปในโรงพิธี ชายก็จะเอาไม้ตะขาบ (ไม้ไผ่ผ่าซีก) ตีปรบตามจังหวะเพลงใกล้หญิงนั้น หรือจับหญิงนั้นเขย่าไปด้วยไม่นานหญิงนั้นตัวเริ่มสั่น ตาลาย บอกอาการว่าผีเริ่มเข้าแล้วแล้วกระโดดโลดเต้นเข้าโรงพิธี แม้เดิมจะไม่อยากไปก็ตาม เมื่ออยากจะออกจากผีก็จับเชือกโหนวนล้มตัวลงนอนบนพื้น ชั่วอึดใจผีออก มีอากัปกิริยาเหมือนยามปกติ
ครั้นถึงเวลาใกล้เที่ยง เจ้าภาพหรือเจ้าของพิธีก็จะจัดอาหารมาเลี้ยงทุกคนในงาน แต่ห้ามนำอาหารนี้เข้าไปรับประทานในบ้าน ต้องรับประทานใกล้โรงพิธีหรือตามร่มไม้
|