จำนวนครั้งที่เข้าชม(เริ่มนับ 8 พ.ย. 48) = <%Dim Con,SqlCount,Recount Set Con = Server.CreateObject("ADODB.Connection") Con.Open "PROVIDER = SQLOLEDB;DATA SOURCE=OASIS; DATABASE=NengEnroll;USER ID=Regroll;PASSWORD=Regroll;" SqlCount = "SELECT amu FROM Fcount where namepages = 'health02'" Set Recount = Server.CreateObject("ADODB.RecordSet") set Rec = con.Execute(SqlCount) nc = Cdbl(Rec("amu")) +1 sql1 ="UPDATE fcount set amu = '"&nc&"' where namepages = 'health02'" upd =Con.execute(sql1) Response.write nc %> 

น้ำนั้นสำคัญไฉน

เมื่อฉบับที่แล้วได้พูดถึงเรื่องอาหาร ฉบับนี้จะได้คุยเรื่องปัจจัยที่สำคัญอันดับต่อไปของมุมสุขภาพ คือ เรื่อง “ น้ำ ” อย่าเพิ่งเชื่อก่อนนะครับ

“ น้ำ ” เป็นปัจจัยอันสำคัญยิ่งที่ร่างกายจะขาดมิได้ พวกเราคงทราบกันดีอยู่แล้วครับว่า น้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกายมากกว่า 80% ของน้ำหนักตัวของเรา ร่างกายขาดอาหารได้เป็นวันๆ แต่ขาดน้ำไม่ได้แน่นอน

เมื่อต้นเดือนมีนาคม เกิดสภาพอากาศแปรปรวน อากาศที่กำลังร้อนขึ้นๆ ๆ กลับถูกความกดอากาศแผ่มาปกคลุมทำให้อากาศเกิดเย็นลง มีลักษณะคล้ายฤดูหนาวขึ้นมา แปลกมาก ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลพวงมาจากสึนามินะครับ ทำให้นึกถึงหนังฝรั่งที่ฉายไปหลายเดือนก่อนเรื่อง The Day after Tomorrow ( หวังว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นบนโลกนะครับ !) ในช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นมาก คงได้ข่าวว่า ต่างจังหวัดเกิดสภาพแห้งแล้ง พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเนื่องจากภัยแล้ง โชคดีมากๆ ที่เรามีในหลวง ซึ่งเป็นที่รัก เคารพบูชาของประชาชน คนไทยทุกหมู่เหล่า พระองค์ท่านได้พระราชทานฝนหลวงและทรงบัญชาการเอง ในปีนี้ช่วยบันเทาความเดือดร้อนของพสกนิกรลงไป ข่าวทีวีออกเมื่อเช้านี้ (24 มีนาคม 2548) ว่ามีฝนตกในภาคอีสาน ทำให้พื้นดินชุ่มฉ่ำ พืชผลทางการเกษตรเจริญงอกงามขึ้นมานั้น เป็นเพราะฝนหลวงนั่นเอง ขอถวายพระพรให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

พูดมามากยังไม่ค่อยได้ท้าวเนื้อหาเลย ( บรรณาธิการก็ทวงต้นฉบับทุกวันทวงแล้ว ทวงอีก !) สรุปว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพโดยตรงในหน้าร้อน เราจะหิวน้ำบ่อย ( ถ้าไม่ได้อยู่ในห้องปรับอากาศ ) และน้ำเป็นสื่อหรือตัวนำโรคภัยต่างๆ มาสู่คนได้ ที่เราเรียกว่า Water borne diseases ที่ฮิตติดอันดับ คือ โรคบิด อุจจาระร่วง อหิวาตกโรค ฯลฯ ดังนั้น เราซึ่งต้องระมัดระวังในเรื่องการดื่มน้ำที่สะอาด เราคงไม่ดื่มน้ำจากแม่น้ำโดยตรง เหมือนปู่เย็นในรายการทีวีที่ใช้มือวักน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีดื่มน้ำไปเลย น่ากลัวนะครับ แต่ก่อนเราเคยดื่มน้ำฝน เพราะคิดว่าเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่สะอาดที่สุดเพราะว่ามาจากฝากฟ้า แต่ปัจจุบันไม่น่าจะใช่แล้ว เพราะว่ามีสารมลพิษต่างๆ ในบรรยากาศที่มาจากหลายแหล่ง ทำให้เกิดการปนเปื้อน จึงไม่ควรเป็นแหล่งน้ำดื่มต่อไป

ดังนั้น น้ำสะอาดที่ควรดื่ม คือ น้ำที่ได้จากเครื่องกรองน้ำที่ใช้ตัวกรอง (media) หลายชนิด เช่น ถ่านปลุกฤทธิ์ (activated carbon) เรซินต่างๆ ฯลฯ ที่เราซื้อมาใช้จากห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งต่างๆ ที่ควรตรวจสอบ คือ ดูว่าตัวกรองเหล่านั้นหมดอายุหรือยังจะต้องทำการฟื้นชีพ (regenerate) อย่างไร ต้องติดต่อกับผู้ขาย เพื่อดำเนินการต่อไป น้ำต้มเป็นอีกชนิดหนึ่งที่ฆ่าเชื้อโรคได้หมด รวมทั้งสารเคมีบางชนิด และความกระด้างที่ความร้อนสามารถทำลายได้ ถ้าจะทำให้ดีควรใส่ใบชาลงไปด้วย ก็จะกลายเป็นน้ำชานะครับ จากผลงานวิจัยต่างๆ พบว่า ชามีประโยชน์ต่อสุขภาพนะครับ ไม่ว่าจะเป็นชาดำหรือชาเขียว มีสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลด Cholesterol ฯลฯ ดังนั้น เราสามารถทำน้ำชาดื่มได้ เพียงแต่ต้มน้ำให้เดือด แล้วเทใส่ลงใบกาที่ใส่ใบชาไว้ ตั้งน้ำให้อุ่นๆ หรือเย็นลงก็สามารถดื่มได้ ไม่จำเป็นต้องไปซื้อน้ำชาบรรจุขวด ใส่น้ำตาลนิดหน่อย ขวดละ 10-20 บาท แพงโดยใช่เหตุ นอกจากน้ำชาแล้วก็สามารถทำ “ น้ำสมุนไพร ” ต่างๆ ดื่มได้ เช่น น้ำมะตูม ตะไคร้ กระเจี๊ยบ ใบเตย ฯลฯ ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งมีคุณค่าทางสมุนไพรของไทยเราเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ถ้าจำเป็นต้องซื้อน้ำสะอาดบรรจุขวดดื่ม ซึ่งปัจจุบันทำกันจำหน่ายเยอะแยะหลายยี่ห้อ เราก็ควรเลือกยี่ห้อที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงดีหน่อย เพื่อความปลอดภัย และขวดบรรจุควรเป็นประเภทที่สีใส เพราะอย่างน้อยเราก็สามารถมองเห็นความขุ่นของน้ำดื่มได้ชัดเจน … หมดพื้นที่สำหรับฉบับนี้ไว้ต่อกันฉบับหน้าสวัสดีครับ