![]() |
|
---|---|
ฉบับที่ 3 ประจำเดือน มิถุนายน 2548 การนอนหลับและการใช้ยานอนหลับนักศึกษา มสธ. ส่วนใหญ่จะศึกษาไปพร้อมกับการประกอบอาชีพการงาน จึงมักจะมีเวลาพักผ่อนน้อย การนอนหลับเพื่อพักผ่อนร่างกายไม่เพียงพอหรืออาจเกิดปัญหาการนอนไม่หลับได้โดยเฉพาะในช่วงใกล้จะถึงวันสอบ เนื่องจากเกิดความวิตกกังวล ดูหนังสือไม่ทัน อย่างไรก็ตามนักศึกษาควรรู้จักการแบ่งเวลาให้เหมาะสม โดยจะต้องแบ่งเวลาเพื่อการนอนหลับพักผ่อนประมาณวันละ 7 8 ชั่วโมง การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดของร่างกายและจิตใจ เมื่อเรานอนหลับร่างกายจะได้รับการพักผ่อนอย่างจริงจัง ความง่วงหรืออ่อนเพลียจะหมดไป ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลดความตึงเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อนักศึกษาได้นอนหลับอย่างเพียงพอ ร่างกายจะรู้สึกสดชื่นและแข็งแรงขึ้นใหม่ การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดี เนื่องจากขณะที่เรานอนหลับนั้น อวัยวะร่างกายเราจะมีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานลดลง การหายใจจะช้าลง การเต้นของหัวใจจะลดลง การเต้นของชีพจรจะช้าลง ความดันโลหิตและอุณหภูมิของร่างกายจะลดลง การขับถ่ายของต่อมต่างๆ ในร่างกายจะลดลงไปด้วย ดังนั้น เมื่อตื่นขึ้นร่างกายจึงกลับสดชื่น แข็งแรงขึ้น พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจหน้าที่การงาน และศึกษาเอกสารการสอนของ มสธ.ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สุขวิทยาในการนอนหลับ สุขวิทยาในการนอนหลับ เพื่อให้การนอนหลับเกิดประโยชน์สุขภาพร่างกายอย่างแท้จริง จึงควรมีหลักปฏิบัติในการนอนหลับ ดังนี้ ควรเข้านอนให้เป็นเวลา ไม่ควรนอนดึกเกินไปหรือเกินเวลา 23.00 น. ควรนอนในที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีกลิ่นหรือเสียงรบกวน ไม่ควรนอนรวมกันหลายคนในห้องที่แออัด หลีกเลี่ยงการนอนใกล้ชิดกับผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ขณะพักผ่อนนอนหลับ ควรปล่อยอารมณ์และจิตใจให้สบาย ไม่ควรคิดกังวลในเรื่องใดๆ ควรนอนในท่าที่สบายที่สุด โดยให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างดีที่สุด ควรนอนโดยสวมเสื้อผ้าที่สะอาด ไม่รัดแน่น นอนบนที่นอนที่สะอาดและมีผ้าห่มปกปิดร่างกายที่ให้ความอบอุ่นเพียงพอ ควรแปรงฟันให้สะอาดก่อนนอน ควรอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้านอน ควรดื่มน้ำสะอาดสัก 1 แก้วก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรดื่มน้ำชาหรือกาแฟก่อนนอน ควรถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน ไม่ควรรับประทานอาหารหนักก่อนเข้านอน จะทำให้ระบบการย่อยอาหารต้องทำงานหนัก อาจทำให้ท้องอืด นอนหลับไม่สนิท ไม่ควรนอนคลุมโปงจะทำให้อากาศหายใจไม่เพียงพอ การระบายถ่ายเทอากาศไม่เพียงพอ ควรสวดมนต์ไหว้พระตามหลักศาสนาก่อนเข้านอน เพื่อช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น ควรใช้เวลาในการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ เหมาะสมกับเพศ วัย และสภาวะของร่างกาย ตอนต่อไปจะกล่าวถึงวิธีที่จะทำให้นอนหลับง่ายๆ ด้วยตนเอง และการใช้ยานอนหลับ
2. วิธีทำให้หลับง่ายๆ ด้วยตนเองกองป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีที่จะทำให้นอนหลับได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้ยานอนหลับช่วย ดังนี้ เข้านอนและตื่นตอนให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการงีบหลับหรือนั่งหลับเวลากลางวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน จัดสภาพแวดล้อมในการนอนให้เหมาะสม รักษาความเงียบในห้องนอน รักษาอุณหภูมิในห้องนอนและจัดสภาพแสงสว่างให้เอื้อต่อการนอนหลับ ก่อนนอนควรทำจิตใจให้สบาย พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมากระตุ้นจิตใจหรือทำให้เกิดความไม่สบายใจ อาจผ่อนคลายตนเองก่อนนอนด้วยการอาบน้ำ ฟังเพลง หรือทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบสบายก่อนนอน หลีกเลี่ยงไม่ใช้เตียงนอนหรือที่นอนในการทำกิจกรรมอื่น เช่น รับประทานอาหาร หากนอนไม่หลับเกิน 30 นาที ให้ลุกจากที่นอนไปทำกิจกรรมอื่นจนง่วงจึงเข้านอนใหม่ ควรงดดื่มสุรา กาแฟ และการสูบบุหรี่ก่อนนอน อาจดื่มนม หรือรับประทานกล้วย หรืออาหารอื่นที่มี trytophan สูงจะช่วยทำให้หลับได้ดีขึ้น 3. การใช้ยานอนหลับกรณีที่นักศึกษามีความเครียด มีความวิตกกังวลสูง หรือมีปัญหากระทบกระเทือนจิตใจ อาจทำให้นอนไม่หลับได้ จึงต้องพึ่งยานอนหลับ อย่างไรก็ตาม การใช้ยานอนหลับ อาจมีอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ ยานอนหลับมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ได้แก่ ดอมิคุม (Dormicum หรือ Midazolam) ยูนอกติน (Eunoctin , Halcion , Triazolam) ยากลุ่มนี้ทำให้ผู้ใช้เกิดการหลับเร็วและลึก ขณะหลับหากถูกปลุกจะทำให้เกิดการละเมอ เหมือนอยู่ในความฝันและจำไม่ได้ มิจฉาชีพมักผสมยานี้ในเครื่องดื่ม ทำให้ผู้ดื่มถูกรูดทรัพย์ หรือถูกข่มขืน หรือถูกสั่งให้ทำอะไรโดยไม่รู้ตัว หลังจากใช้ยากลุ่มนี้ จะเกิดอาการเมาค้างนานเป็นวันๆ กลุ่มที่ 2 จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 3 ได้แก่ ซาแนก (Xanax , Alprazolam) อติแวน (Ativan Lorazepam) ยูฮิปโนส (Euhypnos, Temazepam) สารนี้ทำให้หลับเร็วและออกฤทธิ์ในระยะเวลาพอเหมาะเท่ากับการนอนหลับโดยทั่วไป เมื่อตื่นขึ้นมาจะไม่มีอาการเมาค้าง ยานี้ใช้ในการรักษาโรคทางจิตประสาท หากใช้ในขนาดสูงพร่ำเพรื่อ ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์เดียวกับกลุ่มที่ 1 เป็นการผิดกฎหมายและเกิดการเสพติดได้
เอกสารอ้างอิง กองป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เอกสารเผยแพร่เรื่องยานอนหลับ
|