มุมสบายๆ โดย รศ.ดร.พรทิพย์ เกยุรานนท์
 

นิ้วไกปืน

โดย อาจารย์ กิตติ ลี้สยาม

          นิ้วไกปืน เป็นเส้นเอ็นอักเสบแบบนิ้วไกปืน (Trigger finger) ที่เรียกกันหลายชื่อ เช่น นิ้วล็อก นิ้วไกปืน เอ็นนิ้วมือ ฯลฯ เกิดขึ้นได้กับทุกนิ้ว แต่ที่พบบ่อย คือ นิ้วนาง นิ้วกลาง และนิ้วหัวแม่มือ  และตำแหน่งที่เกิดการอักเสบ คือ บริเวณโคนนิ้วข้างใดข้างหนึ่ง หลายคนกำลังมีอาการดังกล่าว และทุกข์ทรมานด้วยอาการนี้ มาทำความรู้จักกับนิ้วไกปืน และบำบัดรักษาด้วยวิธีการทางแพทย์แผนไทย ดังนี้

สาเหตุ:        เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นที่งอนิ้ว ซึ่งอยู่ที่บริเวณฝ่ามือตรงตำแหน่งโคนนิ้ว

อาการ:        มีอาการเหมือนนิ้วล๊อก คือ กำมืองอนิ้วได้ แต่เวลาเหยียดนิ้วออก นิ้วใดนิ้วหนึ่งเกิดเหยียดไม่ออก และจะมีอาการปวดเจ็บมาก เวลางอนิ้วมือหรือกำมือ หรือเหยียดนิ้วออกไม่สุด มักมีอาการรุนแรงตอนตื่นนอนตอนเช้า หรืออากาศเย็น

การตรวจก่อนการรักษา:
1) ตรวจดูว่ามีการบวม แดง ร้อน หรือไม่
2) ตรวจดูการลีบของกล้ามเนื้อที่นิ้วมือ
3) ตรวจโดยการคลำบริเวณโคนข้อนิ้วพบก้อนโปนขึ้นมาหรือไม่
4) ตรวจดูองศาของการเคลื่อนไหว โดยการให้กำมือและเหยียดนิ้วมือ
5) ทดสอบแรงกำและแรงเหยียด

วิธีการรักษา:
1) จุดสัญญาณทั้ง 5 แขนด้านใน เน้นจุดสัญญาณ  4, 5 (ดังภาพที่ 6)


Description: 1-5 .jpg

ภาพที่ 6  ส. 1-5 แขนด้านใน

 

2) จุดสัญญาณทั้ง 5 แขนด้านนอกเน้นจุดสัญญาณ  5 (ดังภาพที่ 7)


Description: แขขนอก.jpg

 

ภาพที่ 7   ส. 1-5 แขนด้านนอก

3) เน้นจุดสัญญาณ 5 แขนด้านใน และสัญญาณแยกข้อมือ และจุดกลางฝ่ามือกดเดินเส้นไปตามเส้นเอ็นถึงโคนนิ้วที่เป็น พยายามกดคลำพังผืดและกดเน้นให้คลายตัว  (ดังภาพที่ 8)
4) นวดรอบจุดโคนข้อนิ้วที่เป็น และกดจุดสัญญาณทั้ง 5 ของข้อนิ้ว  (ดังภาพที่ 8)
5) เขยื้อนพังผืดที่โคนนิ้ว โดยมือที่ถนัดกดที่โคนนิ้วจุดที่เป็นแรงพอประมาณกดนิ่งไว้ จากนั้นใช้มืออีกข้างจับนิ้วมือที่เป็น ดึง ยืดข้อนิ้วออกตรงๆ แล้วหมุนควงเป็นวงกลมประมาณ 3 รอบ และดึงหักพับเข้ากลางฝ่ามือ จะต้องทำอย่างระมัดระวังดูอาการคนไข้เป็นหลัก ถ้าเจ็บมากต้องค่อยๆ ทำและให้ระวังมากเป็นพิเศษ (ดังภาพที่ 8)


Description: ส.มือ.JPG

สีแดง คือ สัญญาณแยกข้อมือ
สีดำ คือ สัญญาณแยกนิ้วมือ

ภาพที่ 8 สัญญาณแยกข้อมือและสัญญาณแยกนิ้วมือ

การตรวจหลังการรักษา: ตรวจเช่นเดียวกับก่อนการรักษา

คำแนะนำ:
1) ประคบความร้อนหรือแช่น้ำอุ่น
2) ท่าบริหารกำมือและแบมือทำเช้าเย็นทุกวัน
3) งดของแสลง


……………………………………………….