หน้าแรก
จิตสังคมผู้สูงอายุ
สิทธิผู้สูงอาย
ปกิณกะ-สาระ-บันเทิง
สุขภาพผู้สูงอายุ
การจัดการการเงินสำหรับผู้สูงอายุ
ธรรมสร้างสุข
 
  หน้าแรก ปกิณกะ-สาระ-บันเทิง  
 

หอเกียรติยศ

ลุงไสว ศรียา
ต้นไม้ในหัวใจ บันไดสู่ความสุข


   “อยู่กับต้นไม้อายุยืน  มีแต่รอยยิ้ม มองไปก็เห็นแต่ผลผลิต”  ลุงไสว ศรียา วัย  65 ชาวบ้านวังยายฉิม ตำบลหินตั้ง จังหวัดนครนายก  เกษตรกรผู้หลงใหลและมีความสุขกับการปลูกและขยายพันธุ์เหล่าไม้ดอก ไม้ผลนานาชนิดจนได้รับการยืนยันจากใจจริงลุงว่ามีสุขภาพจิตดีก็เพราะต้นไม้นี่แหละ

   “อยู่กับต้นไม้ทำให้สุขภาพจิตดีด้วย ติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอดมันก็ไม่บ่น” เมื่อฉันเอ่ยขึ้นว่าลุงรู้สึกอย่างไรกับอาชีพเกษตรกร     ลุงไสวอมยิ้มแล้วตอบด้วยความมั่นใจ “มันก็ดีนะ มันเป็นชีวิตจิตใจของลุงเลยนะ” ลุงมีวิถีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในสวน  เพราะฉะนั้นจึงเข้าอกเข้าใจเจ้าพวกต้นไม้ทั้งหลายเป็นอย่างดี 

   ลุงไสวบอกว่าต้นไม้มันมีชีวิตจิตใจ เราเดินผ่านเฉยๆ มันก็รู้เรื่อง หรือถ้าไม่มีน้ำมันจะหน้างอใส่เจ้าของ พอรดน้ำมันก็จะยิ้ม  ซึ่งลุงบอกว่าให้สังเกตว่าบ้านไหนที่มีคนย้ายออกไปแล้วต้นไม้มันจะเฉา เพราะไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน

   กว่าจะมาถึงวันที่นั่งยิ้มกับต้นไม้ใบหญ้าในันนี้  ลุงไสวเล่าย้อนความให้เราฟังว่าต้องล้มลุกคลุกคลาน เคยทำอาชีพภารโรง ซ่อมเครื่องยนต์ กระทั่งมาประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง ตามอย่างบรรพบุรุษ แต่ก็ขาดทุน  เลยตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินเมื่อปี พ.ศ.2525 โดยการส่งเสริมจากเกษตรประตำบล 


   ลุงผันมาปลูกมะม่วงก่อน และเริ่มฝึกหัดการขยายพันธุ์แบบทาบกิ่ง แรกๆ ค่อนข้างลำบากแต่ด้วยความมานะพยายามจึงทำได้สำเร็จ  หลังจากนั้นเริ่มทะยอยหาพืชอื่นมาร่วมลงแปลง เช่น ส้มโอ มะยงชิด มะปรางหวาน เงาะ ทุเรียน ฯลฯ ความหลากหลายของต้นไม้ทำให้สวนลุงไสวกลายเป็นสวนแห่งพืชพรรณ 

    ลุงบอกว่าแรกๆ ก็ยังใช้สารเคมี เพราะกลัวจะขาดทุน “ดีไม่ดีลุงจะตายก่อน   ไปเจาะเลือดพบว่ามีสารพิษในเลือด”
   “ก่อนหน้านี้สุขภาพแย่ ความดัน หวัด ท้องผูก เริ่มรู้สึกสบายมา 3 ปีแล้ว เพราะหันมาใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก” ลุงชวนเราดูรูปสมัยก่อน พร้อมทั้งเปรียบเทียบให้ฟังว่าเหมือนรูปที่อยู่ในยาทัมใจ แต่ของลุงกุมขมับสองข้าง!  
ณ วินาทีขณะ ฉันจ้องมองใบหน้าหมองเคล้ากรำแดดมันช่างเต็มไปด้วยความแช่มชื่น สดใส ดูหนุ่มกว่าวัยเสียด้วยซ้ำ


   เมื่อสุขภาพเริ่มทรุดโทรม  ลุงจึงปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชวิต จากเดิมที่มีเจ้าสารเคมีเป็นตัวกำกับ ลุงไสวสะบัดมันออกจากชีวิตด้วยความรู้จากสำนักงานเกษตร และสถานีอนามัย นำสู่การปฎิบัติอย่างจริงจัง

   เคล็ดลับสุขภาพของลุง คือ ห่างไกลสารเคมี ไม่เผาหญ้าหรือฟาง วิ่งออกกำลังกาย กินผักมากๆ โดยเฉพาะผักในสวน เช่น ตำลึง เสาวรส ชะพลู กระเจี๊ยบ มะเขือ ตะไคร้ พยายามไม่คิดมาก คิดว่าจะอยู่กับต้นไม้ตลอดไป ก็มีบ้างที่ออกไปหาความรู้ข้างนอก นำสิ่งที่ได้กลับมาสวนและสอนให้กับกลุ่มคนที่สนใจรื่องการเกษตรเพื่อเป็นวิทยาทาน

    

   ลุงไสวเป็นคนชราผู้เปี่ยมด้วยความสุข มองชีวิตในแง่งาม  ดังนั้นลุงจึงไม่กลัวหากว่าสถิติคนชราในสังคมจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เพราะลุงมีการเตรียมพร้อม ...พร้อมที่จะอยู่กับต้นไม้ตลอดไป

   “ลุงเคยบอกข้าราชการที่เกษียณให้หาที่เล็กๆ น้อยๆ ไว้ปลูกต้นไม้ ต้นไม้เราคุยกับมันได้ มันไม่มีโรคภัย มันเป็นความภาคภูมิใจของเรา เวลาเราขุดหลุมลึกเมตร กว้างเมตร ยาวเมตร มันเหนื่อยนะ แต่พอมันออกดอกออกผล มันทำให้เราสดชื่น”




   ลุงไสวสะท้อนให้เห็นภาพคนชราผู้อื่นๆ ว่ามีการเข้ากลุ่มปฏิบัติธรรม ว่าเป็นแนวคิดที่ดี น่าสนับสนุน เพราะทำให้จิตใจเขาสงบขึ้น และอยู่เป็นหลักให้ลูกหลานต่อไปได้  อย่างไรเสียลุงย้ำว่า ชีวิตต้องอยู่แบบกลางๆ ไม่ตึง ไม่หย่อนเกินไป ตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่โลภโมโทสัน ดีที่สุด

   ก่อนกลับลุงให้ส้มโอ ผลผลิตจากสวนศรียาเอากลับมากินที่บ้าน เป็นการแบ่งปันน้ำใจตามทางสายกลางที่ลุงเลือกเดิน  ฉันยกมือไหว้ลา จากมาด้วยหัวใจเปี่ยมสุขดั่งช้อยนางรำเริงระบำยามเย็น

 
 
  © Copyright 2007-2008. All Rights Reserved.