Main Menu
  สถิติเว็บ
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2552 :
    ระยะเวลาในการศึกษา:เรียนสัมฤทธิบัตรควบคู่ไปกับหลักสูตรปริญญาตรี

  คำถาม

   เพื่อนให้คำแนะนำว่า เรียนโครงการสัมฤทธิบัตรควบคู่ไปกับการเรียนปริญญาตรีจะทำให้สำเร็จการศึกษาได้รวดเร็วขึ้น จริงไหม

คำตอบ
  

   นักศึกษาควรพิจารณาความพร้อมในการเรียนของตนเองเป็นเบื้องต้น

   1. การลงทะเบียนตามโปรแกรมการศึกษา 3 ชุดวิชา หรือ 18 หน่วยกิต นักศึกษาจะต้องใช้เวลาในการศึกษาเอกสารการสอนแต่ละชุดวิชาในแต่ละสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง / สัปดาห์ หรือประมาณ 5-6 ชั่วโมง / วัน (1 หน่วยการเรียนควรใช้เวลาในการศึกษา 6-12 ชั่วโมง / สัปดาห์) หากนักศึกษาลงทะเบียนเรียนในโครงการสัมฤทธิบัตรเพิ่มอีก 1 ชุดวิชา ก็จะต้องเพิ่มเวลาในการศึกษา โดยอาจใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง / วัน หรือ 48 ชั่วโมง / สัปดาห์ ซึ่งนักศึกษาควรคำนึงว่านักศึกษาจะมีเวลาในการศึกษาเพียงพอหรือไม่ และมีผลอย่างไรกับชีวิตประจำวันของนักศึกษาด้วย

   2. การสอบปลายภาค นักศึกษาจะต้องเตรียมตัวในการสอบอย่างดี เพราะนักศึกษาจะต้องเข้าสอบ 4 คาบเวลาสอบ (มหาวิทยาลัยจัดสอบเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์)

   3. ชุดวิชาที่เปิดสอนในโครงการสัมฤทธิบัตร เป็นชุดวิชาพื้นฐานทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้สาขาวิชาที่นักศึกษาสังกัดวางแผนให้ลงทะเบียนตามลำดับในเอกสารหลักสูตรการศึกษาแล้ว หากนักศึกษาลงทะ-เบียนไม่ตรงตามโปรแกรมอาจพบว่าในบางภาคการศึกษาอาจไม่มีชุดวิชาที่นักศึกษาจะเลือกลงทะเบียนเรียนได้ เพราะชุดวิชาในหมวดวิชาเฉพาะอาจเปิดสอนเฉพาะภาคการศึกษาที่ 1 หรือภาคการศึกษาที่ 2 เท่านั้น   

   การเรียนในโครงการสัมฤทธิบัตรอาจมีส่วนช่วยนักศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีให้สำเร็จการศึกษาเร็วขึ้นได้บ้าง หากนักศึกษามีความพร้อม มุ่งมั่น และตั้งใจจริง แต่นักศึกษาจะต้องรู้จักและเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศของมหาวิทยาลัยเรื่อง เกณฑ์การโอนชุดวิชาที่ได้รับสัมฤทธิบัตรตามโครงการสัมฤทธิบัตรเข้าในหลักสูตรปริญญาตรี และประกาศนียบัตร และข้อบังคับฯ ว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญาตรี พ.ศ.2547 เป็นต้น

    แต่การเรียนในโครงการสัมฤทธิบัตรอาจไม่มีส่วนช่วยให้นักศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีต่อเนื่อง 2 ปีหรือประกาศนียบัตร 1 ปี สำเร็จการศึกษาได้เร็วกว่าระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้เพราะการยื่นคำร้องขอโอนชุดวิชาจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันการลงทะเบียนเรียนชุดวิชาประสบการณ์วิชาชีพที่นักศึกษาจะสามารถลง ทะเบียนเรียนได้เมื่อเหลือชุดวิชาในโครงสร้างหลักสูตรไม่เกิน 3 ชุดวิชา (ชุดวิชาที่เรียนในโครงการสัมฤทธิบัตรจะยังไม่นับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรปริญญาตรีจนกระทั่งนักศึกษาได้รับการอนุมัติการโอนชุดวิชาเรียบร้อยแล้ว)

    ดังนั้น ขอแนะนำให้นักศึกษาพยายามทุ่มเทกำลังสติปัญญาในการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรตามความสามารถ และหากนักศึกษาเรียนไปอย่างสม่ำเสมอ แต่มีผลการศึกษาดี  ก็จะส่งผลต่อการวางแผนการศึกษา และการประกอบอาชีพในอนาคตของนักศึกษาด้วยเช่นกัน

นายสิทธิโชค แก้วมโนรมย์ update : 09/10/2552