น้ำตกลงรูแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
โดย...คุณสิงขร  รักษ์มณี
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
จ.อุบลราชธานี

(เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง ปี 2557)

          อุทยานแห่งชาติผาแต้มในอดีตนั้นชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผาน้อยคนที่จะเดินทางเข้าไปในป่าแห่งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อกันว่า ผาแต้มเป็น
เขตต้องห้าม ภูผาแห่งนั้นมีความศักดิ์สิทธิ เป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ว่าในปัจจุบันนี้พื้นที่ป่าภูผาแต้มได้ถูก
เปิดเผยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนไปมาแล้วแต่ก็อยากจะกลับไปอีก มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะจุดที่เป็นภาพเขียนสีก่อน
ประวัติศาสตร์


ภาพจาก Web Site
http://ed.files-media.com/ud/images/1/26/76225/IMG_2478_Cover-620x392.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 23-9-58

          อุทยานแห่งชาติผาแต้มประกาศจัดตั้งขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ2504 เมื่อปี 2535 จัดได้ว่าเป็นอุทยานที่อยู่ทางทิศตะวันออก ออกมาก
ที่สุดก็ว่าได้ของประเทศไทย เนื่องจากว่าพื้นที่ของอุทยานแห่งนี้ควบคุมไปถึงผาชะนะได ตรงผาชะนะไดทางการกำหนดว่าเป็นจุดแรกที่จะวัดว่าประเทศไทยที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้น
ตามที่ฟังข่าวพยากรณ์อากาศทั่วไป พระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่ผาชะนะไดกี่โมง จะยึดตรงนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นจุดหนึ่งของพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มแห่งนี้

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
          เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นภูเขา ที่ราบเขาที่มีลักษณะเป็นแผ่นหินกว้างที่ชาวบ้านเรียกว่าพลาญหิน ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวจะเป็นลักษณะ
ตามธรรมชาติที่มีโขดหินและหน้าผา อีกอย่าหนึ่งทางทิศตะวันออกซึ่งติดกับแม่น้ำโขง ทางด้านประเทศสาธารณะรัฐประชาชนลาว ตรงบริเวณที่น่าเที่ยวหลายที่ก็ประกอบด้วย
เสาเฉลียง เสาเฉลียงก็เกิดจากการผุกร่อนของแผ่นหินจนเป็นลักษณะ อาจเป็นเสาสูง ขณะเดียวกัน


ภาพจาก Web Site
http://travel.mthai.com/wp-content/uploads/2014/11/1343484980.jpg
http://f.ptcdn.info/236/010/000/1380209027-Pictureiph-o.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 23-9-58

ผาชะนะไดที่กล่าวในตอนต้น ก็เป็นจุดนึงที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมแสงตะวันในตอนเช้า ขณะเดียวกันมีน้ำตกที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมก็คือ
น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกแสงจันทร์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเรียกน้ำตกลงรู แล้วก็มีน้ำตกสร้อยสวรรค์เป็นอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในช่วงปลายฝนต้นหนาว
ก็จะมีดอกหญ้ามีดอกไม้ เป็นดอกหญ้าเป็นดอกไม้เป็นดอกไม้ป่าขึ้นตามโขดหินเป็นบริเวณกว้างเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมแล้วก็มาถ่ายภาพ


ภาพจาก Web Site
http://www.pixpros.net/forums/attachment.php?attachmentid=14671&stc=1&d=1164871479
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 23-9-58

ที่มาของน้ำตกแสงจันทร์หรือว่าน้ำตกลงรู
          ความเป็นมาของการเรียกว่าน้ำตกแสงจันทร์เพราะๆ เรียกว่าน้ำตกลงรูเข้าใจว่าเรียกตามลักษณะของน้ำตก เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม คือเป็นน้ำตกที่แปลกตรงที่ว่า
แทนที่จะไหลบ่าจากหน้าผาลงมา ตรงหน้าผาจะมีรูธรรมชาติเป็นรูเป็นแผ่นหินแล้วมีรูตรงนั้น ดังนั้นน้ำเมื่อไหลมาตกลงที่รูลงมาเป็นน้ำตกแทนที่จะไหลบ่าหน้าผาเหมือนน้ำตก
ทั่วๆไป นักท่องเที่ยวก็ชอบที่จะเรียกว่าน้ำตกลงรู ที่หน้าผาธรรมชาติกว้างไม่มากหรอกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเมตร แต่เมื่อตกลงมาสายน้ำก็จะลงมาเป็นสายเส้นตรงก็ดูจะ
สวยงาม ทีนี้เหตุที่เรียกว่าน้ำตกแสงจันทร์ก็เนื่องจากว่า ตอนกลางคืนตอนสิบห้าค่ำ มีดวงจันทร์ขึ้นเต็มใบมีแสงจัทร์สวยงาม หากมองจากใต้น้ำตกมายังดวงจันทร์จะเห็นแสงจันทร์
อาบสายน้ำลงมา ก็เลยตั้งชื่อกันว่าเป็นน้ำตกแสงจันทร์ จะสวยมากๆตอนพระจันทร์เต็มดวงโดยเฉพาะในช่วงมีน้ำหลากไหลเต็มรูยิ่งสวยงามใหญ่


ภาพจาก Web Site
http://www.reviewthaitravel.com/img/reviewthaitravel/reviewthaitravel_32012_09_06_22_43_02.jpg
http://travel.mthai.com/wp-content/uploads/old_attachment/2009/06/05/895-attachment.jpg
https://numza100.files.wordpress.com/2014/11/e0b899e0b989e0b8b3e0b895e0b881e0b981e0b8aae0b887
e0b888e0b8b1e0b899e0b897e0b8a3e0b98c.png
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 23-9-58

ช่วงฤดูไหนมีอะไรที่ควรจะไปเที่ยว
          บริเวณที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวกินพื้นที่กว้างมากประมาณ อย่างน้ำตกลงรูนี่ก็จะบริเวณก็ประมาณเป็นร้อยไร่เหมือนกัน น้ำตกสร้อยสวรรค์อีกแห่งหนึ่งก็ร่วมๆสองพัน
ไร่กว้างมาก จะเป็นเวิ้งกว้างที่สามารถมองจากด้านล่างลงไปเห็นน้ำตก เดินลงไปด้านล่างเที่ยวชมก็ได้ แต่ละแห่งอยู่ไกลกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที แค่นั้นแหละ
ถ้าจะมาดูดอกหญ้าป่าอยากจะให้ศึกษานิดนึงว่าในฤดูการไหนสมควรจะไปเที่ยวที่ไหนดีอะไร เช่น จะมีดอกไม้สีออกมาสวยงามเฉพาะช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาว ช่วงหน้าแล้งไป
ดอกไม้ก็เริ่มแห้งแล้ว เป็นต้น อย่างฤดูแล้งก็ยอมรับว่าความชื้นจะน้อยมากจริงๆ เนื่องจากดังที่ได้กล่าวตอนต้นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพลาญหินในช่วงฤดูฝนก็จะมีความชื้นแล้วก็
ได้เห็นบรรยากาศอีกอย่างหนึ่งน้ำไหลหลากตรงพลาญหินอย่างนี้เป็นต้น คราวนี้สำหรับช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมที่จะไปเที่ยวก็คงจะเป็นช่วงหนาวๆอย่างนี้แล้วก็ปลายฝนต้นหนาว แต่
ก็ไม่ได้จำกัดแค่ว่าจะมาไม่ได้ในช่วงฤดูร้อนหรือไง ก็ยังเห็นว่านักท่องเที่ยวตั้งใจที่จะมาเที่ยวชมธรรมชาติ แม้ฤดูร้อนก็ยังมาก็ได้อีกบรรยากาศ แต่ว่าก็ต้องเตรียมสภาพร่างกาย
ให้พร้อม เช่น ของอุปกรณ์การเดินทาง เรื่องของใช้เสื้อผ้า

ท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด
          1. กลุ่มภาพเขียนโบราณ ซึ่งอยู่ซึ่งเดินทางมาสะดวกมากมาที่ที่ทำการของอุทยาน เมื่อเลยไปซักหน่อยไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร เจอศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ
ผาแต้มได้เตรียมไว้ เดินไปอีกประมาณซักสามร้อยเมตรก็จะเจอหน้าผา กลุ่มภาพเขียนก็จะอยู่ตรงหน้าผา เดินลงไปหน่อยก็จะเที่ยวชมได้ตลอดเป็นไฮไลท์
          2. เสาเฉลียงเป็นเสาหินทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการกัดกร่อนของลมและน้ำเป็นเวลานานมากครับหลายล้านปี จนมีลักษณะแปลกเหมือนเสาที่มาตั้งไว้ มีหลายแห่ง
เพียงแต่ว่าจัดให้เป็น คือมีโดยทั่วไปในพื้นที่ แต่จะจัดเป็นแหล่งเป็นศูนย์บริการแหล่งท่องเที่ยว จะมีอยู่ตรงใกล้ๆที่ทำการอุทยานหนึ่งแห่ง และอีกแห่งหนึ่งจะอยู่ทางด้านทิศเหนือ
ของอุทยานห่างไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร ตรงนั้นจะเป็นเสาเฉลียงใหญ่ใกล้ๆกัน บริเวณใกล้ๆกันกับเส้นทางไปผาชะนะได
          3. บริเวณผาชะนะไดที่ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะว่าต้องปีนป่ายตามเส้นทางส่วนหนึ่ง คือตรงผาชะนะได ยานพาหนะที่ขึ้นไปต้องใช้ขับเคลื่อนสี่ล้อถึงจะสะดวก
และก็ขึ้นไปได้


ภาพจาก Web Site
http://kbeautifullife.askkbank.com/travel/travel_images_thailand/ubonratchathani/lux_bank/004.jpg
http://images.thaiza.com/37/37_201409101519492..jpg
http://www.yuwadeecarrentubon.com/yuwadee/gallery/chanadai/CND-5-1.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 23-9-58

สิ่งอำนวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
          มีบริเวณลานกางเต้นท์ที่จัดให้ พร้อมห้องน้ำห้องสุขา ขณะเดียวกันมีบ้านพักที่สามารถจองได้ทางอินเทอร์เน็ต จะเข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตของกรมอุทยานเข้าไปในเว็บไซต์
ของอุทยานแห่งชาติผาแต้มบ้านพักรับรองที่เราเตรียมไว้ให้จะแสดงรายละเอียดตรงนั้น มีสามหลัง ค่อนข้างจะน้อย มีเป็นบ้านพัดลมและบ้านปรับอากาศมีแอร์ แต่ลานกางเต้นท์
มีค่อนข้างจะกว้างสามารถรองรับได้ถึง 400-500 หลัง กรณีกางเต้นท์ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า เช่น เมื่อตอนเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว
ชมบรรยากาศตลอดจนมารับแสงแรกที่ผาแต้มค่อนข้างมาก ก็มีนักท่องเที่ยวหลายรายเหมือนกันโทรศัพท์จองพื้นที่กางเต้นท์เราก็รับจอง

เส้นทางการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
          นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาจากจาก มาจากทั่วประเทศ จากเหนือจากใต้จากไร อยากจะแนะนำในเรื่องเส้นทาง อันดับแรกเรื่องเส้นทาง ให้มาที่ มุ่งหน้ามาที่จังหวัด
อุบลราชธานี เมื่อถึงจังหวัดอุบลราชธานีเที่ยวที่จังหวัดอุบลไหว้พระที่วัดเสร็จแล้วเมื่อจะเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติผาแต้มให้ใช้เส้นทางพิบูลมังสาหาร ซึ่งสภาพถนนดีมาก
อำเภอพิบูลมังสาหารแล้วก็มาอำเภอโขงเจียมจะมีป้ายบอกอยู่ชัดเจน และเมื่อถึงอำเภอโขงเจียมก็จะเห็นป้ายบอกว่ามุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จากอำเภอโขงเจียม
มาอุทยานแห่งชาติผาแต้มก็เพียง 20 กิโลเมตร อันนี้เป็นเส้นทางส่วนเรื่องยานพาหนะส่วนตัวเอง ทีนี้พูดถึงความพร้อมเกี่ยวกับร่างกาย การมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
นี้ค่อนข้างจะสะดวก แล้วก็บรรยากาศตลอดจนทางคมนาคม แล้วก็ภูมิอากาศค่อนข้างจะดี ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมร่างกายอะไรมาก เพราะไม่ได้ไปผจญภัยอะไรมากมาย
ยกเว้นมีที่เดียวที่จากจุดที่ราบขึ้นไปผาชะนะไดนี่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คือต้องค่อยๆไต่ไปตามไหล่เขา
          สำหรับเรื่องของอาหารการกิน ในกรณีที่มากางเต้นท์ ขอความร่วมมือว่าของดการประกอบอาหาร และตรงเส้นทางเข้ามาอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งอยู่นอกเขตอุทยาน
บริเวณเหล่านั้นจะมีชาวบ้านเอกชนมีร้านอาหารค่อนข้างจะสะดวกแล้วสะอาดอร่อย หากจะมาเที่ยวอุทยานผาแต้มสามารถที่จะออกไปทานอาหารที่ร้านเอกชนที่อยู่นอกเขตอุทยาน
ในขณะเดียวกันหากจะสะดวกทานที่ร้านเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานให้มาประกอบค้าขายอยู่ที่ทำการอุทยาน ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็มีเกี่ยวกับเรื่องอาหารถือว่าเป็น
การกระจายรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น

 

 

   นางอุษณีย์  จูฑะศิลป์    ผู้เรียบเรียง
(เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง ปี 2557)
กลุ่มพัฒนาคุณภาพชีวิต
กลุ่มรายการที่ 1/2-57