ความประณีตแห่งประเพณีแต่ครั้นบรรพกาล ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นกระทั่งปัจจุบัน แต่กระนั้นความงดงามยังคงปรากฏอย่างแจ่มชัดมิเสื่อมคลาย.. ตราบใดที่ผู้คนยังวนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร ย่อมมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เหลือเพียงความทรงจำให้เราระลึกถึงคนรุ่นก่อนที่เราเคารพรัก เมื่อดวงวิญญาณ ไปตกอยู่ในที่ทุกข์ ก็ขอให้พ้นออกจากทุกข์ ไม่มีใครสามารถล่วงรู้เลยว่าดวงวิญญาณของบรรพชนจะไปตกที่สุขหรือที่ทุกข์ หากแต่คำกรวดน้ำจะเป็นสิ่งที่อยากให้ดวงวิญญาณของ บรรพชนไปสู่ภพภูมิที่มีดีและมีความสุข
ความเชื่อ ความกลัว เป็นมโนสำนึกภายในจิตใจมนุษย์ที่ก่อเกิดประเพณี ศาสนาในภายหลัง สิ่งที่เรามองไม่เห็นเป็นดวงวิญญาณที่เรียกว่า ผี นั่นเอง เมื่อย่างเข้าเทศกาลงาน บุญเดือนสิบผีบรรพบุรุษที่ผู้คนเชื่อว่าจะมาปรากฏกายบนเมืองมนุษย์คือ เปรต ไม่มีใครเคยเห็นเปรตหรือถ่ายภาพไว้ได้ เพียงคำเล่าขานสานต่อกันมาว่า สูงระหง ผมยาว ตัวซูบผอม พุงโต ปากเท่ารูเข็ม มือเท่าใบตาล จากลักษณะดังกล่าว เปรตเป็นผีที่มีรูปร่างพิกลพิการก็ว่าได้ เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ได้กระทำกรรมชั่วไว้มากจึงเกิดเป็นเปรต และเมื่อผู้คนมี ความเชื่อในรูปร่างของผีเปรตในลักษณะดังกล่าวอาหารที่จะอุทิศไปให้จึงถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญประเพณีสารทเดือนสิบ ภูมิปัญญาแห่งอาหารที่กำเนิดขึ้นมากับประเพณีสารทเดือนสิบ มีความสัมพันธ์กับการนึกถึงบรรพชนผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการทำบุญและอุทิศบุญกุศลให้ดวงวิญญาณด้วย อาหาร เมื่อเปรตมีปากเท่ารูเข็มก็ยากยิ่งที่จะกินอาหารทั่วไปที่ลูกหลานอุทิศให้ ด้วยความชาญฉลาดของผู้คนจึงคิดค้นอาหารหวานที่มีลักษณะเป็นเส้นเพื่อให้เปรตกินได้เกิดขึ้นภาย ใต้ชื่อ ขนมลา เป็นการรำลึกถึงชื่อที่ใช้เรียกบรรพบุรุษที่เป็นชั้นที่สูงที่สุดนั่นคือ ทวด ลวด ลา จะเห็นได้ว่าลักษณะของขนมชนิดนี้จะเหมือนเสื้อผ้าที่ถักทออย่างวิจิตรเพื่อให้ วิญญาณของบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้วได้สวมใส่ เหมือนการถักทอแพรพรรณขึ้นมาด้วยการหลอมรวมใจเป็นหนึ่งของลูกหลาน เป็นความผูกพันหลอมรวมเป็นหนึ่งของครอบครัว
ขนมประจำงานบุญเดือนสิบนอกจากขนมลาที่เป็นเครื่องแทนอาหารและเครื่องนุ่งห่มของเปรตแล้ว ยังมีขนมอีกหลายชนิด ได้แก่ ขนมพองเป็นสัญลักษณ์ของยวดยานพาหนะ เรือแพ ไว้สัญจร ขนมบ้าเป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ เพชร นิล จินดาอันพิลาศ ขนมดีซำเป็นสัญลักษณ์แทนเงินทองไว้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งสัญลักษณ์ต่างๆของขนมเป็นการแสดง ถึงมโนสำนึกของลูกหลานที่อยากให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับได้มีกินมีใช้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ได้เลี้ยงดูเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และยังสามารนำขนม ดังกล่าวไปให้ผู้เฒ่าผู้แก่เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่ได้อีกด้วย ทั่วทั้งด้ามขวานทองผ่องอำไพต่างรวมใจยกหฺมฺรับและภัตตาหารไปวัดในเทศกาลงานบุญเดือนสิบ หฺมฺรับ จะเป็นภาชนะที่ใส่ขนมเดือนสิบที่จัดเรียงอย่างสวยงามเพื่อยกไป วัด เพื่อนำไป ตั้งเปรต อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ ซึ่งทั่วทั้ง ๑๔ จังหวัดทางภาคใต้ จังหวัดที่มีการจัดหฺมฺรับได้ยิ่งใหญ่และสวยงามคือจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทุกๆ ปี จะมีการจัดประกวดและแห่หฺมฺรับอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ทำให้มีผู้ที่ชื่นชอบในศิลปวัฒนธรรมหลั่งไหลมาเที่ยวชมอย่างล้นหลาม
อีกประเพณีหลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนา การชิงเปรต จะเกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน ชิงในที่นี้ไม่ถือเป็นการแย่งชิงของกินมาจากบรรพบุรุษแต่อย่างใด แต่จะกระทำหลัง จากที่พระสงฆ์ได้สวดมนต์และแผ่เมตตาตลอดจนอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเสร็จเป็นที่เรียบร้อย การที่เราชิงเปรตมาได้มากเท่าไรถือว่าเป็นการได้บุญมากเท่านั้น และดวงวิญญาณยังได้ รับส่วนบุญเพิ่มไปด้วย เมื่อเสร็จพิธีจะมีการดึงสายสิญจน์ออกหลังจากนั้นภาพแห่งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเหล่าเด็กๆที่พากันแย่งขนม ผลไม้ และอาหารที่นำ มาตั้งเปรต นับว่าประเพณีสารทเดือนสิบจะเป็นประเพณีแห่งน้ำใจ ความเคารพ และมิตรภาพที่เปื้อนอยู่ในหัวใจของผู้คนชาวด้ามขวานทองก็ว่าได้
..วันเวลาหมุนเวียนมาบรรจบในเดือนเทศกาลสิบ เปรต เสมือนสิ่งที่ดึงดูดน้ำใจและการระลึกถึงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วของลูกหลานให้กลับมายังบ้านเมือง ถิ่นเกิด ไม่ว่าจะออกไปทำงานที่ใกล้ไกลแห่งหนตำบลไหน เราจะเดินทางกลับมายังถิ่นเกิดเพื่อร่วมด้วยช่วยกันทำขนมประจำงานบุญ เข้าวัดประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อุทิศส่วน บุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว เสมือนสายน้ำธารเล็กๆที่ไหลมารวมกันเป็นธารแห่งน้ำใจที่ยิ่งใหญ่และงดงามยิ่งนัก
|