จัดการปัญหาด้วย “AQ”
โดย...คุณปิยวรรณ  คำดวง
อาชีพพนักงานบริษัท
ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
อีเมล์ : pi_ku@hotmail.co.th

(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)



          ในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ผู้คนมุ่งหวังที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต มีหลายคนที่สมหวัง แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องผิดหวัง ปัจจุบันนี้เพียง IQ , EQ นั้นไม่
พอที่จะทำให้คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จได้ดีเท่าที่ควร จึงจำเป็นที่จะต้องมาทำความรู้จักกับความฉลาดอีกประเภทหนึ่งนั่นคือ AQ (Adversity Quotient) หรือความสามารถ
ในการฟันฝ่าอุปสรรค นั่นเอง ยกตัวอย่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน (อังกฤษ: Thomas Alva Edison) เป็นนักประดิษฐ์และนักธุรกิจชาว อเมริกัน ผู้ซึ่งประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สำคัญ
ต่างๆ มากมาย ทดลองทำอะไรต่างๆ ด้วยตนเอง ทดลอง ถึง 20 ปี (ประมาณ 50000 ครั่ง ล้มเหลวประมาณ 40000 กว่าครั้ง) ซึ่งถ้าหากเป็นคนธรรมดา เพียงล้มเหลวแค่
100 ครั้ง ก็อาจทำให้ถอดใจล้มเลิกได้ หากแต่เขายังมีความพยายามที่จะฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นมาจนผลิตไฟส่องสว่างให้พวกเราได้ใช้จนถึงทุกวันนี้

           A.Q. หรือ adversity quotient เป็นศักยภาพที่บุคคลสามารถเผชิญกับปัญหา และพยายามหาหนทางแก้ไข อย่างไม่หยุดหย่อน ด้วยพลังจิตใจที่จะพัฒนางานอย่าง
ต่อเนื่อง สตอลต์ (Paul G.Stoltz, Ph.D.) เป็นผู้เสนอแนวความคิด และ แนวทางพัฒนา สามารถเผชิญ กับปัญหา และพยายามหาหนทางแก้ไขอย่างไม่หยุดศักยภาพด้าน
เอคิว ( A.Q.)ขึ้น เขาได้แบ่งลักษณะของบุคคล เมื่อเผชิญปัญหาโดยเทียบเคียงกับนักไต่เขาไว้ 3 แบบคือ

1.ผู้ยอมหยุดเดินทางเมื่อเผชิญปัญหา (Quitters) มีลักษณะ
   ✓ ปฏิเสธความท้าทายอย่างสิ้นเชิง
   ✓ ไม่คำนึงถึงศักยภาพที่ตนมีอยู่ที่จะจัดการกับปัญหาได้
   ✓ พยายามหลบหลีกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทุกวิถีทาง
   ✓ ไม่มีความทะเยอทะยาน ขาดแรงจูงใจ
   ✓ เป็นตัวถ่วงในองค์กร

2.ผู้หยุดพักพิงเมื่อได้ที่เหมาะ (Campers) มีลักษณะ
   ✓ วิ่งไปข้างหน้าบ้างและแล้วก็หยุดลง
   ✓ หาพื้นที่ราบซึ่งจะได้พบกับปัญหาอุปสรรคเพียงเล็กน้อย
   ✓ ถอยห่างจากการเรียนรู้ สิ่งน่าตื่นเต้น การเติบโต และความสำเร็จที่สูงขึ้นไป
   ✓ ทำในระดับเพียงพอที่จะไม่เป็นที่สังเกตได้ ได้แก่พยายามไม่ทำให้โดดเด่นเกินหน้าใคร

3.ผู้ที่รุกไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง (Climbers) มีลักษณะ
   ✓ อุทิศตนเองเพื่อมุ่งไปสู่จุดที่ดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
   ✓ ไม่เคยรู้สึกพอใจ ณ จุดปัจจุบันเสียทีเดียว
   ✓ สร้างสิ่งใหม่ๆให้ตนเองและองค์กรของตนอย่างต่อเนื่อง
   ✓ สร้างแรงจูงใจให้ตนเอง และสร้างวินัยแก่ตนเอง
   ✓ สนุกกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ

           ความเข้าใจแนวความคิดด้านเอคิว( A.Q. )ทำ ให้เข้าใจถึงวิธีที่บุคคลตอบสนองต่ออุปสรรคหรือสิ่งท้าทายตลอดทุกแง่มุม ของชีวิต ด้วยวิธีการค้นหาว่า ตนเอง ณ จุด ใด
ของงานนั้นๆ จากนั้นจึงวัดและพัฒนางานนั้นให้ดีขึ้นตลอด บันไดในการ กำหนดเป้าหมาย และการไปให้ถึงได้แก่
          ขั้นหนึ่ง คือ การจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ( Dream the Dream )
          ขั้นสอง คือ แปลงจินตนาการให้เกิดภาพที่ชัดเจน ( Making the Dream the Vision )
          ขั้นที่สาม คือ คงสภาพและพยามทำตามจินตนาการนั้นจนบรรลุเป้าหมาย ( Sustaining the Vision )
อย่าลืมว่าหัวใจของเอคิว( AQ. ) คือดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ท้อถอย รู้จักที่จะให้กำลังใจตนเองสู้ต่อไป เพิ่มพลังให้ตนเอง เพื่อให้ถึงสิ่งที่ต้องการคือ เป้าหมายที่ชัดเจน

เทคนิคการสร้าง AQ
          มองปัญหาเป็นโอกาส CORE
1. CONTROL ควบคุมเหตุการณ์/สถานการณ์ได้
2. Ownerships’ ความเป็นเจ้าของปัญหาอยู่ที่ตัวเรา
3. REACH คิดว่าปัญหาทุกประเภท มีทางแก้ไข ไม่ใช่จบสิ้นแล้วทุกอย่าง
4. ENDURANCE มีความทนทาน อดทน ต่อปัญหาต่างๆ มองโลกในแง่ดีไม่วู่วาม
          มาถึงตอนนี้คงจะเห็นได้แล้วว่าเอคิว (A.Q.) นั้นมีประโยชน์ต่อสังคมโลกอย่างใด และหากเด็กได้รับการพัฒนา ความคิดดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและสังคม
อย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ถึงให้ความสำคัญต่อสิ่งนี้อย่างมาก นอกจากนี้ได้มีการศึกษาถึง อานิสงค์แห่งการคงไว้ซึ่งเอคิว( AQ. )ใน 3 ลักษณะคือ
          - ทำให้บุคคลนั้นมีความคล่องตัวอยู่เสมอ ไม่เหี่ยวเฉา การฝึกสมองอยู่ตลอดเวลาทำให้เซลล์สมองพัฒนาการเชื่อมโยงเซลล์ประสาท ตลอดเวลาทำให้มีความคิดความจำ
ที่ดีอยู่ตลอด
          - เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ มาติน เซลิกมาน ( Martin Seligman ) ได้ศึกษาตัวแทนประกันชีวิตเป็นเวลา 5 ปี พบว่าผู้มองโลกในแง่ดี มีผลงานขายประกันสูงกว่า
ผู้มองโลกในแง่ร้ายถึง ร้อยละ 88
          - งานวิจัยด้านระบบจิตประสาทภูมิคุ้มกัน (Psycho- Neuroimmunology) พบว่า วิธีการตอบสนองต่ออุปสรรค มีความสัมพันธ์ทางตรงกับ สุขภาพกายและสุขภาพจิต
ผู้ที่มีจิตใจต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บป่วยดีขึ้น เช่น ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัด จะพบว่าแผลผ่าตัดฟื้นหายเร็วขึ้น มีอายุที่ยืนยาวกว่าฉะนั้นเองผู้ที่ประสบความ
สำเร็จในโลกจะเป็นคนที่คิดในทางบวกจะมองเห็นโอกาสและความหวังเสมอในอุปสรรคนั้นๆ ปัญหาทุกปัญหามีทางออก แก้ไขได้



เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................

ธีระศักดิ์ กำบรรณารักษ์ . (2551). AQ พลังแห่งความสำเร็จ.กรุงเทพมหานคร:บิสกิต.
Paul . G. Stoltz . (1997). Adversity Quotient @ Work . London: Harper Collins Publishers.
Paul G. Stoltz. & Erik Weihenmayer (2006). The Adversity Advantage. NewYork: Simon&Schuster,Inc.