เรียนเพื่อ….
โดย...นางสาวสุชาดา  คำวัน
อาชีพ นักศึกษา
ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม
อีเมล์ : suchadasaa10@gmail.com

(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)


          พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายของคำว่า “เรียน” หมายความว่า เข้ารับความรู้จากผู้สอน รับการฝึกฝนอบรมเพื่อให้เกิดความรู้ความ เข้าใจ
หรือความชำนาญ เช่น เรียนหนังสือ เรียนวิชาความรู้ ฝึกให้เกิดความรู้ความเข้าใจจนเป็นหรือมีความชำนาญ

ภาพจากเว็บไซต์
http://www.dek-d.com/education/39828/
ข้อมูลภาพ ณ วันที่
26-6-59

 

          เคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า เราเรียนไปเพื่ออะไร เพื่อใคร เพื่อพ่อแม่ เพื่ออาจารย์ เพื่อคุยโอ้อวดหรือเปล่า เด็กบางคนอาจเคยคิดว่าการศึกษาและการอ่านหนังสือไปสอบ
นั้นเป็นภาระด้วยซ้ำ
          ฉันอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของ แอนโทนี่ ลานามา ทนายความนิวยอร์กและวอชิงตัน
          “แอนโทนี่ ลานามา เกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี เขามีพี่น้องทั้งหมด 10 คน เมื่ออายุได้เพียง 12 ปี เขาต้องไปรับจ้างขุดดิน แต่แอนโทนี่ไม่ยอม
ปล่อยให้ชะตาชีวิตของตนเป็นเช่นนี้ เขามักใช้เวลาว่างศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของเกาะซิซิลี อีกทั้งฟังคำบอกเล่าของผู้สูงอายุถึงพัฒนาการของเกาะแห่งนี้ การอ่านหนังสือ
ช่วยให้เขาเห็นความแตกต่างของเกาะซิซิลีกับโลกภายนอก ด้วยเหตุนี้เมื่ออายุครบ 16 ปี เขาจึงเดินทางไปตามเส้นทางของหุบเขาจนกระทั้งถึงชายฝั่งทะเล จากนั้นก็อาศัยเรือบรรทุก
สินค้าลำหนึ่งมายังประเทศสหรัฐอเมริกา
          ที่สหรัฐอเมริกา เขาต้องเผชิญกับความยากลำบาก และหลายต่อหลายครั้งที่เขาคิดอยากจะกลับบ้านเพราะความคิดถึงบ้าน แต่ทุกครั้งที่เขาคิดถึงมัน ก็ยิ่งทำให้ตระหนักว่าเขา
ต้องอาศัย “การศึกษา” มาเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตน
          พออายุได้ 22 ปี เขาอาศัยความขยันไม้ย่อท้อ จนได้รับประกาศนียบัตรที่ใฝ่ฝันมานาน ซึ่งนั่นก็คือบัตรสหภาพแรงงานช่างแกะสลักหิน ต่อมาไม่นานก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้แกะสลัก
สุนทรพจน์เกตตีสเบิร์กของประธานาธิบดีลินคอล์นที่อนุสาวรีย์ลินคอล์น ขณะที่แกะสลักสุนทรพจน์ของลินคอล์นอยู่นั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตของ
ลินคอล์น เขาคิดว่าท่านประธานาธิบดีลินคอล์นเป็นผู้ที่มีชีวิตที่ยากลำบาก แต่ที่สุดก็อาศัยการศึกษามาเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของท่าน ช่วงชีวิตในวัยเด็กของท่านก็ไม่ต่างอะไรจากของ
ตน ซึ่งต่อมาท่านก็กลายเป็นทนายความ และเป็นประธานาธิบดีในที่สุด เขาจึงคิดว่าถ้าเช่นนั้นตัวเขาเองก็น่าจะมีวันที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
          วันหนึ่ง ขณะที่กำลังรับประทานอาหารกลางวัน แอนโทนีนั่งอยู่บนนั่งร้านที่สูง เขามองไปยังรูปปั้นแกะสลักขนาดใหญ่ของลินคอล์น จู่ ๆ ช่างหินจากบ่อขุดหินที่เกาะซิซิลีคนนี้ก็มี
แรงบันดาลใจว่า เขาสามารถจะกลายเป็นคนที่มีประโยชน์มากกว่านี้ เขาจะเป็นทนายความ เขาเขียนลงบนแผ่นไม้แผ่นหนึ่งว่า “แอนโทนี่” ใต้ชื่อของเขายังเขียนว่า “แอนโทนี่เรียน
กฎหมาย” เย็นวันนั้นเขาเอาแผ่นไม้แผ่นนั้นลงมาจากนั่งร้าน เพื่อน ๆ พากันหัวเราะเขา “แกจะเป็นลินคอล์นคนที่สองเหรอแอนโทนี่ แกมองรูปปั้นจนตาค้างไปแล้ว”
          ที่ผ่านมา ตอนที่แอนโทนี่อาศัยยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เกาะซิซิลี เขาเรียนหนังสือถึงชั้นประถาศึกษาปีที่ 5 เขาคิดอยากจะเรียนที่ศูนย์กฎหมายแห่งชาติของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน
แต่นี่ก็คงเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน เพราะว่าเขายังต้องทำงานอยู่บนนั่งร้านเป็นเวลาถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน แต่เขาก็ไม่ท้อถอย หลังเลิกงาน เขาไปเรียนเสริมภาษาอังกฤษที่โรงเรียนที่เปิด
สอนภาคค่ำ บ่อยครั้งที่เขารีบทานข้าวกลางวัน จากนั้นใช้เวลาที่เหลืออ่านหนังสือ บางครั้งถึงกับมือหนึ่งถือหนังสือ และอีกมือหนึ่งถือขนมปังข้าวโพดแซนด์วิซสอดไส้หมูเค็ม นั่งบนท่อน
ไม้ ทานไปอ่านหนังสือไป
          ในที่สุด ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น เขาสอบเข้าโรงเรียนกฎหมายได้ แต่เพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาจึงต้องจากอเมริกาไปร่วมรบกับฟาสตชิสต์ พอกลับ
ประเทศ เขาใช้เวลาเรียนต่อจนจบปริญญาตรีและปริญญาโทด้านกฎหมาย จากนั้นไม่นานเขากลายเป็นทนายความที่นิวยอร์กและวอชิงตัน และมีหน้าที่การงานที่โดดเด่นมาก”
(หนังสือ ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกเล่ม 1, หน้า 16-18.)

ภาพจากเว็บไซต์
http://www.oknation.net/blog/hrdeverywhere/2011/04/12/entry-1
ข้อมูลภาพ ณ วันที่
26-6-59

          พอฉันได้อ่านเรื่องราวของ “แอนโทนี่ ลานามา” จบ ฉันปิดหนังสือ แล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่ ฉันเรียนไปเพื่ออะไร จะเรียนไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่มีเป้าหมายเหรอ” หลังจาก
นั้นก็เริ่มหาคำตอบ ถามตัวเองทุกวัน จนวันหนึ่งฉันก็พบคำตอบ พร้อมกับเป้าหมายของการเรียน ฉันหาวิธีมากมาย เลือกวิธีที่ดีที่ดีที่สุด วางแผนอย่างละเอียดเพื่อเป้าหมายของตนเอง
และลงมือทำ ทำมันทุก ๆ วัน ทีละนิด ๆ แล้วสักวันฉันก็จะประสบความสำเร็จ
          ฉันอยากให้คุณถามตัวเองว่า “ฉันเรียนเพื่ออะไร” ทุกวัน คำถามนี้ฟังดูง่ายธรรมดานะ แต่มันสำคัญมากหากคนคนหนึ่งไม่มีแรงจูงใจที่ดีในการศึกษาเล่าเรียน และไม่รู้เป้าหมาย
ที่กำลังทำ เพราะเมื่อรู้คำตอบแล้วมันจะเป็นแรงผลักดันที่มีประสิทธิภาพให้กับตัวคุณได้

ปล. เมื่อคุณค้นพบคำตอบแล้ว รีบลุยเลยนะ อย่าปล่อยไว้นาน

 

 


เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................

เหวย์ ซิ่วอิง. ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก สอนวิธีคิด เล่มที่ 1. แปลโดย ชัญญพร จาวะลา. พิมพ์ครั้งที่ 1: บีมีเดีย, 2559
http://www.succeedlifestyle.com/7-habits-world-most-success-people/
https://dict.longdo.com/search/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99