เลื่อนขั้นความคิด
สร้างชีวิตแนวใหม่
โดย...คุณซูรีตา ดาโอ๊ะ
ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
อีเมล์ : lita.zureeta@hotmail.com
(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)
|
คุณเคยรู้สึกเป็นเหมือนอากาศธาตุในที่ทำงานหรือไม่
ทำหน้าที่เดิมๆกับค่าตอบแทนที่ขยับขั้นขึ้นทีละก้าวตามกาลเวลา เพียงเพราะคุณไม่เก่งไม่มีผลงานเด่นเท่าคนอื่น
ได้โปรด...
หยุดความคิดเดิมๆของคุณ ที่ทำให้คุณเดินย่ำอยู่กับที่ มารู้จักกับแนวคิดแนวใหม่ๆ
ที่จะทำให้คุณเป็นบุคคลที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและอยู่ในสายตาของคนในองค์กรของคุณกันเถอะ
ข้อมูลภาพ ณ วันที่
30-6-59
|
|
องค์กรทั่วไปมีค่าตอบแทนและสวัสดิการเพิ่มขึ้นตามอายุงานเป็นพื้นฐาน
จึงมีข้อกำหนดให้ทุกองค์กรจัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานเพื่อให้มีการเพิ่มพูนประสิทธิภาพ
และเสริมสร้างแรงจูงใจให้มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภาระงานและลักษณะงานของแต่ละบุคคล
หากทำกิจกรรมเด่นในเรื่องต่างๆตามองค์กรกำหนด จะมีผลการ
ประเมินซึ่งส่งผลไปยังค่าตอบแทนแบบก้าวกระโดดได้ เมื่อคุณก้าวเข้ามาในโลกของความเป็นจริง
นี่คือสัจธรรมขององค์กรทุกที่ เมื่อคุณเห็นเพื่อนร่วมงานเป็นเสมือน เพื่อน
พี่ น้อง พวก
เขาก็อาจเห็นคุณเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงใช้คำว่า อาจ ก็เพราะความจริงแล้ว
คุณเป็น เพื่อนพวกเขาในเวลาปกติ และ เป็นคู่แข่งในรอบการประเมินนะสิ บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อให้
คุณมีศัตรู แต่เพื่อให้คุณเข้าใจความเป็นจริง คุณหลายคนคงเป็นคนดีเกินกว่าจะอิจฉาเพื่อนร่วมงาน
หากเขาได้ดีกว่า เงินเดือนมากกว่า ก้าวหน้ากว่า เพราะเขาเก่ง ทำโน้น ทำนี่
เช่นวิจัย
เอย โครงงานเอย ในขณะที่คุณทำเพียงหน้าที่เดิมๆ คุณพอใจแล้วเท่านี้ เป็นเพราะความขี้เกียจหรือไม่กล้าลงมือทำ
แต่จุดๆนึงคุณเองก็แอบน้อยใจ โดยไม่รู้ว่าน้อยใจในโชคชะตาหรือ
น้อยใจในองค์กร คุณสนับสนุนพวกเขาในทุกๆด้าน แล้วทำไมคุณถึงไม่สนับสนุนตัวเองบ้าง
คุณอยากลองเปลี่ยนบ้างไหม หากคุณต้องการเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองและเลื่อนขั้นการทำงาน
ไปพร้อมกัน คุณทำได้ง่ายๆเพียงแค่เลื่อนขั้นความคิดของตัวคุณเองให้สูงกว่าเดิม
ด้วยแนวคิดแบบใหม่เพียง 4 ข้อเท่านั้น
ข้อที่หนึ่ง
จงจำไว้ว่าความเก่งของคนเรามีเท่ากัน คุณรู้ไหมว่าความเก่งของคนเราเท่ากัน
ความฉลาดต่างหากที่ไม่เท่ากัน บางคนฉลาดคิด ฉลาดทำเรียนรู้อะไรก็ง่าย
รวดเร็วทำผลงานออกมาประสบผลสำเร็จ ทุกคนก็มองว่าเก่ง เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นคนไม่ค่อยฉลาดก็จงยอมรับความสามารถของตนเองและพัฒนามันอย่างต่อเนื่องอย่างใจเย็น
ด้วยความเข้าใจในตนเอง บางอย่างใครเขาทำ 3-4 วัน แต่คุณต้องเรียนรู้มันเป็นอาทิตย์
ก็แล้วไง ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆทำ เมื่อคุณทำผลงานสำเร็จ นั่นหมายความว่า คุณเก่งคุณทำได้
เหมือนใครคนนั้นทำ คุณเก่งได้จริงๆนะ เพราะองค์กรส่วนใหญ่จะมองเพียงผลงานและความสำเร็จที่ปลายทางเท่านั้น
เชื่อได้ว่าคุณมีอะไรที่คิดจะทำและพัฒนาองค์กรของคุณอีกมาก
มายเพียงแค่คุณยกระดับความคิดของคุณเองว่าคุณเก่งและทำได้
ข้อมูลภาพ ณ วันที่
30-6-59
|
|
ข้อที่สอง
ทำในสิ่งที่มีรอยยิ้มระหว่างทาง อย่าทำผลงานอะไรเพียงเพราะองค์กรต้องการหรือเพียงเพราะคนสนใจเยอะ
แบบนั้นเมื่อประสบผลสำเร็จแน่นอนว่าทำให้คุณยิ้มได้
แล้วระหว่างทางของการทำงานล่ะ คุณจะเป็นอย่างไรหากสิ่งนั้นคุณไม่ถนัดเอาเสียเลย
ฉะนั้นแล้วจงสำรวจตัวคุณเองก่อนว่าคุณชอบสิ่งไหน ถนัดอะไร แนวไหนที่ทำให้คุณมีความสุข
นำมา
เป็นทางเลือกโดยเลือกจากสิ่งที่ตรงหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่องค์กรกำหนด เมื่อไหร่ที่คุณทำในสิ่งที่คุณชอบระหว่างทางของการทำผลงานนั้นๆคุณจะมีรอยยิ้ม
ต่อให้ทางนั้นจะเป็นกิจกรรม
ที่ยากและท้าทาย ต้องใช้ความรู้ เทคนิคเฉพาะหรือใช้ความพยายามอย่างมาก คุณจะมีความอดทนกับมัน
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น คุณต้องค่อยๆทำ ไปต้องเร่งรีบ แค่ทุกคนเห็นถึงความ
ตั้งใจของคุณแค่นี้คุณก็จะอยู่ในสายตาขององค์กรแล้ว
ข้อที่สาม
หารอยยิ้มเสริมทับ นอกจากคุณจะมีรอยยิ้มระหว่างการทำผลงานหากคุณเจออุปสรรคในการทำผลงานอย่าปล่อยให้ปัญหาเป็นข้ออ้างในการล้มเลิกโดยเด็ดขาดและ
คุณไม่จำเป็นต้องเผชิญมันเพียงลำพัง จงขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากพวกเขา
เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นว่าเขาสามารถช่วยคุณได้ การยอมให้พวกเขาเป็นฝ่ายช่วยจะทำให้พวกเขา
รู้สึกดีและใกล้ชิดกับคุณมากยิ่งขึ้นการที่คุณทำอะไรคนเดียวได้ไม่ได้ทำให้คุณดูเก่งมากขึ้นหรอก
ด้วยความตั้งใจและจริงใจของคุณโดยพื้นฐานพวกเขาจะต้องช่วยคุณอย่างเต็มใจ
เมื่อ
ผลงานนั้นๆสำเร็จขึ้นมาไม่ใช่เพียงคุณที่จะยิ้มได้อย่างภาคภูมิแต่ยังมีอีกคนที่จะยิ้มไปกับคุณ
เพราะนั่นคือการมีส่วนร่วมของเขา วิธีนี้คุณจะได้ทั้งผลงาน มิตรภาพ พร้อมทั้งมีตัวตนใน
องค์กร
ข้อที่สี่
อย่ากลัวการเริ่มต้นที่น่าอาย มีภาษิตหนึ่งกล่าวว่า ชีวิตวัดกันด้วยความนึกคิดและต้นเหตุของความกลัวส่วนใหญ่เกิดมาจากความไม่รู้จริง
คุณจึงต้องเข้าไปเรียนรู้มัน
คนส่วนใหญ่อายกับการเริ่มต้น เช่น หากงานของคุณต้องใช้ภาษาอังกฤษเข้าช่วยแต่คุณกลับไม่ถนัด
จึงไม่เข้าร่วมโครงการ ไม่เข้าร่วมประชุม เพียงเพราะอายกลัวว่าถ้าเข้าร่วมแล้วจะ
เป็นตัวตลก หากคุณไม่เปลี่ยนความคิดคุณจะตกอยู่ในความอายและกลัวนั้นไปตลอดชีวิตของคุณ
จงจำไว้ว่า ความอายจะหยุดอยู่แค่ที่การเริ่มต้น ตัวตลกจะมีแค่วันแรกเท่านั้น
หลังจาก
เริ่มแล้วคุณจะภาคภูมิใจเมื่อคุณเข้าใจและเรียนรู้มันมากขึ้น คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเองได้ทั้งจากหนังสือ
อินเตอร์เน็ต หรือเรียนพิเศษ ซึ่งประโยชน์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง
คุณสามารถทำตัวเองให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพและโด่ดเด่นในองค์กรได้พียง
เลื่อนขั้นความคิดในแง่บวกให้มากขั้น สร้างชีวิตแนวใหม่ให้สดใส ไม่ต้องไปเบียดใครคุณก็สูงขึ้นได้
นำแนวคิด 4 ข้อนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะพบว่าความสุขและความภาคภูมิใจเกิดขึ้นง่ายนิดเดียว
เพียงแค่คุณกล้าที่จะเปลี่ยนและเลื่อนขั้นตัวเอง
เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................
จากเว็บไซค์
http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/uploads/File/QWL(1).pdf (กรอบแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงาน)
จากหนังสือ
เบญญาวัธน์ คู่มือสู้ชีวิตด้วยตนเอง ชุดที่3 มีความสุข...สนุกกับความสำเร็จ
พิมพ์ครั้งที่ 12 : 9,20.
จากหนังสือ
DAVID J.LIEBERMAN,PH.D.(ผู้แต่ง). พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ (ผู้แปล) คู่มือควบคุมอารมณ์คน
พิมพ์ครั้งที่ 32 (สิงหาคม 2551) : 236
|