ดุริยเทพ หมายถึง เทพเจ้าที่สำคัญ และเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักดนตรีไทย ที่มีชื่อปรากฏในหนังสือโบราณ ซึ่งสรรเสริญบรมครูของดนตรี คือ พระวิศณุกรรม เทพเจ้า ผู้ให้กำเนิดเครื่องดนตรีทั้งหลาย ปัญจสิงขร เทพเจ้าแห่งพิณพาทย์ การขับร้อง และพระปรคนธรรพ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการดีด ซึ่งสอดคล้องกับ พูลผล อรุณรักถาวร (2550 : 1) ได้กล่าวถึงดุริยเทพดนตรีไทยไว้ว่า ในโองการไหว้ครูดุริยางคศิลป์ ปรากฏนามเทวดา อยู่ 3 องค์คือ พระวศิวกรรม พระปัญจสิงขร พระปรคนธรรพ ว่าเป็นครู ดุริยเทพ
ความเชื่อที่มีต่อเทพเจ้าที่มีในประเทศไทยนั้น มีผลเนื่องมาจากแต่เดิมคนไทยมีการนับถือผีอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีอิทธิพลจากอินเดียเข้ามาจึงส่งผลให้ศาสนาพราหมณ์ที่มี การนับถือเทพเจ้าต่างๆเข้ามามีผลต่อคนไทยที่จะเลือกนับถือศาสนาและรวมถึงการดนตรีไทยที่มีการไหว้ครูตามตำราแบบศาสนาพราหมณ์ ดังที่ บุญธรรม ตราโมท (2481:47) กล่าวไว้ว่า การไหว้ครูดุริยางค์ดนตรีนั้นน่าจะเนื่องมาโดยชาติไทยแต่โบราณคงจะนับถือเทพเจ้าและนับถือผีอยู่บ้างแล้ว เมื่อรับเอาคติทางศาสนาพราหมณ์ของอินเดียพร้อมกับ การเริ่มระเบียบแห่งการดนตรีขึ้นใหม่ในแดนสุวรรณภูมิจึงได้นับถือเป็นแบบอย่างสืบต่อกันมาทีเดียวไม่มีปัญหาอะไรในการที่จะกล่าวว่า พิธีไหว้ครูของเราเอาแบบอินเดียมาใช้ เพราะชื่อเทพเจ้าทุก ๆ องค์ตรงตามตำ ราแห่งศาสนาพราหมณ์ทั้งสิ้น ในวงการดนตรีไทยประเภทเครื่องสาย หากจะกล่าวถึงครูเทพทางเครื่องสายที่สำคัญ นั้นก็คือ พระปัญจสิงขร หรือ พระปัญจสีขร ในภาษาบาลีเรียกว่า "ปัญจสิข" ตามคติ ความเชื่อในไตรภูมิพระร่วงหรือเตภูมิกถา มีความเชื่อเกี่ยวกับพระปัญจสิงขรดังนี้ พระปัญจสิงขร เป็นมนุษย์ธรรมดา เป็นเด็กเลี้ยงโค และได้เสียชีวิตตั้งแต่วัยหนุ่ม แต่ด้วยคุณ ความดีของท่านที่สร้างเอาไว้ตอนเมื่อยังมีชีวิต ด้วยการสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์หลายต่อหลายอย่าง จึงทำให้ท่านบังเกิดเป็น เทพบุตร ใน ชั้นจาตุมหาราช นามว่า ปัญจสิขคนธรรพเทพบุตร
จากการสัมภาษณ์นักดนตรีไทย
ในเกี่ยวกับความเชื่อในองค์พระปัญสิงขรพบว่า ท่านเป็นครูเทพแห่งดนตรีเครื่องสายมโหรี
มีหน้าที่บรรเลงดนตรี ขับร้องและฟ้อนรำ |