การพัฒนาเทคโนโลยีด้านยนต์กรรม
โดย...คุณสิรภพ  ใจสุภาพ
หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสื่อเทคโนโลยีการฝึกอบรม
สำนักการศึกษาต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

(เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง ปี 2556)


          รถยนต์ในปัจจุบันนี้กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในชีวิตของเราไปแล้ว แต่ปัญหาที่คนมีรถยนต์มักจะพบอยู่เหมือนกัน คือ เรื่องของการจราจรที่หนาแน่นมากขึ้น ราคาของน้ำมันเชื้อ
เพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และเรื่องของการประกันภัย รวมถึงอุบัติเหตุต่าง ๆ แต่รถยนต์ก็ยังเป็นสิ่งกระตุ้นความสนใจให้กับคนรุ่นใหม่อยากจะมีชีวิตที่สะดวก
สบายด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้น บริษัทผลิตรถยนต์จึงต่างก็เร่งพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกและลดผลกระทบต่าง ๆ ต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด


ภาพจาก Web Site
http://www.thaicarlover.com/wp-content/uploads/2014/08/Sao-Paolo-has-some-of-the-worst-congestion-problems-in-the-world.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 22-11-59

แนวโน้มของเทคโนโลยียานยนต์
          เรื่องของการใช้ยานพาหนะในปัจจุบันนี้ รถยนต์จะเป็นเหมือนปัจจัยที่เราจะขาดไม่ได้ จึงทำให้เกิดมลภาวะที่มาจากการใช้รถยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิงก็มีราคาสูงขึ้นมาก
และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่ามีความจำกัดในเรื่องของตัวน้ำมันเชื้อเพลิงที่เอามาใช้ ฉะนั้น แนวคิดของเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบันนี้จึงเน้นกันอยู่ 3 เรื่อง คือ
          1 . เรื่องความประหยัด จะผลิตรถยนต์ออกมาอย่างไรให้สามารถประหยัดที่สุด ประหยัดทั้งในแง่ของตัวการใช้เชื้อเพลิง และประหยัดในแง่ของค่าบำรุงรักษา
          2. เน้นเรื่องความปลอดภัย จากการสังเกตุจะเห็นได้ว่ารถยนต์ในปัจจุบันรุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตออกมาจะมีระบบเรื่องของความปลอดภัยค่อนข้างจะดีกว่าสมัยก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องของระบบเบรค ABS เรื่องของการมีระบบที่ป้องกันรถที่จะตีลังกาหงายท้อง หรือไม่ก็บางรุ่น บางยี่ห้อก็จะมีระบบการป้องกันการไถลลงเวลารถที่ลงเขาชัน ๆ ก็จะมีระบบนี้ช่วย
          3. เรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม พยายามที่จะผลิตรถออกมาว่า จะทำอย่างไรถึงจะให้ปล่อยมลพิษออกมาน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมทั้งการใช้วัสดุที่จะมาประกอบเป็น
ตัวรถ ก็จะใช้วัสดุที่จะก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


ภาพจาก Web Site
http://www.autodeft.com/_uploads/images/2014/Toyota%20Prius/Toyota-Prius-1%5B3%5D.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 22-11-59

ระบบเทคโนโลยีที่ใช้ในรถยนต์
          เทคโนโลยีสำคัญที่ใช้ในรถยนต์ปัจจุบันมีอยู่ 3 ระบบ คือ 1. ระบบดั่งเดิม เป็นเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล 2. ระบบลูกผสม หรือที่เรียกว่า ไฮบริดจ์ คือใช้เครื่องยนต์เบนซิน
แล้วก็ใช้พลังไฟฟ้ามาหมุนมอเตอร์เอาไปหมุนร่วม เพื่อทำให้รถขับเคลื่อนไป 3. ระบบไฟฟ้าล้วน ๆ 100 % ในประเทศไทยยังไม่มีใช้ เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่มีราคาแพงมากซึ่งส่วน
ใหญ่จะสั่งเข้ามาเพื่อทำการวิจัย ตัวสำคัญที่ทำให้มีราคาแพงก็คือ ตัวแบตเตอรี่ซึ่งมีราคาสูงมาก จะเห็นได้ว่ารถที่ใช้ระบบไฟฟ้าที่เห็นจะใช้ในหน่วยงานเล็ก ๆ คือวิ่งภายในบริเวณ
หน่วยงานนั้น ๆ เป็นรถที่ใช้งานเฉพาะกิจเสียมากกว่า
          แต่ในปัจจุบันนี้ก็มีรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า 100 % เลยที่ใช้สำหรับใช้ในการทำงานหรือว่าการเดินทางในชีวิตประจำวันก็มีอยู่บ้างแล้วเป็นของบริษัทนิสสัน ในชื่อนิสสันไลฟ์ โดยจะ
ต้องชาร์ตไฟฟ้าค้างคืนทั้งคืน แล้วจะสามารถใช้วิ่งได้ในตอนเช้า จะวิ่งได้ประมาณ 80 กิโล ไฟฟ้าก็จะหมด ก็ต้องนำมาชารต์ใหม่ เพราะฉะนั้นความจำกัดในเรื่องของรถที่ใช้พลังงาน
ไฟฟ้าก็ยังมีจำกัดขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานจริง

การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์
          บริษัท มาสด้ามอเตอร์คอร์เปเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ค่อนข้างจะทำอะไรที่แหวกแนว คือเขาเตรียมเรื่องของรถยนต์แบบไฮบริดจ์กับรถยนต์ไฟฟ้าไว้แล้ว แต่กลับมองเห็นว่า
เทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบเดิมยังพัฒนาไม่ถึงขีดสุดน่าจะยังสามารถพัฒนาได้อีก จึงคิดพัฒนาระบบเครื่องยนต์แบบเดิมแต่ทำให้ดีขึ้น ให้ประหยัดขึ้น ใช้วัสดุอะไรที่น้อยลง จนกลาย
มาเป็นเทคโนโลยีรวม ๆ เรียกว่า SKY ACTIV และตอนนี้รถที่ใช้เทคโนโลยี SKY ACTIV ก็มีขายอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่ในเมืองไทยคาดว่าน่าจะนำเข้ามาประมาณปลาย ปีนี้

องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยี SKY ACTIV
          เทคโนโลยี SKY ACTIV มีตัวประกอบหลักอยู่ 3 เรื่องคือ
          1.เรื่องตัวเครื่องยนต์ จะมีการพัฒนาเครื่องยนต์อยู่ 2 แบบ คือ SKY ACTIV ENGING G ตัว G ย่อมาจากคำว่า Gasoline เป็นเครื่องยนต์เบนซิน จุดเด่นของเครื่องยนต์
ตัวนี้บริษัท มาสด้า ผลิตออกมาเป็น Generation ใหม่ เป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตรากำลังอัดสูงที่สุดในโลก โดยภาพรวมถือว่าตัวเครื่องยนต์จะลดอัตราการสิ้นเปลืองลงจากแบบเดิม แล้ว
ก็เพิ่มแรงบิดสามารถที่จะทำให้รถขับเคลื่อนไปได้ดีโดยใช้น้ำมันน้อย เครื่องยนต์รุ่นใหม่ตัวนี้จะมีในญี่ปุ่นเป็นรถมาสด้าเคมิโอ้ ในเมืองไทยเราคือรถมาสด้า 2 ซึ่งในญี่ปุ่นได้ใช้
เครื่องยนต์ตัวใหม่แล้ว สามารถทำอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ดีมาก คือ 30 กิโลเมตร : ลิตร ตกกิโลละประมาณบาทเศษ ๆ ซึ่งใกล้เคียงกับรถยนต์ไฮบริดจ์ อาจจะสูงกว่านิด
หน่อยกับของ TOYOTA PREAUS ในบ้านเรา คือใช้น้ำมันประมาณ 24 กิโลเมตร : ลิตร แต่ดูจากขนาดของรถยนต์ก็ต่างกัน เพราะรถมาสด้า 2 เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก แต่ของ
PREAUS เป็นรถขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย


ภาพจาก Web Site
http://car250.com/wp-content/uploads/2015/04/All-New-Mazda-2-SKYACTIV-2015-20.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 22-11-59

          ยังมีเครื่องยนต์อีกแบบหนึ่งเขาเรียกว่า SKY ACTIV ENGING D เป็นเครื่องยนต์ดีเซล หลัก ๆ ของที่เขาปรับปรุงก็คือ เขาแหวกแนวไปเลย คือ เครื่องยนต์เบนซินโดยส่วน
ใหญ่เขาพยายามจะพัฒนาให้มีอัตรากำลังอัดให้สูงมาก ๆ แต่ว่าของมาสด้า เขาทำให้อัตรากำลังอัดต่ำที่สุดในโลก ลงมาเหลือ 14 : 1 ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำลงเหลือ
20 % สมมุติจากเดิมเคยใช้น้ำมัน 100 ลิตร ถ้าใช้เครื่องยนต์ตัวนี้ จะใช้น้ำมันแค่ 80 ลิตร ก็จะวิ่งได้ระยะทางเท่ากัน โดยไม่มีผลกระทบต่อการเร่งหรือความเร็ว เพราะเขามี
เทคโนโลยีที่จะปรับให้เครื่องยนต์ไม่น็อคเสียก่อน และค่ามลพิษในไอเสียเขาไปทดสอบแล้วผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดของทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกา แคนนาดา หรือที่ญี่ปุ่น เพราะ
ฉะนั้นก็ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากอีกตัวหนึ่ง


ภาพจาก Web Site
http://f.ptcdn.info/467/027/000/1421307749-5580000005-o.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 22-11-59

          2. เรื่องระบบขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนหลัก ๆ จะเป็นเรื่องเกียร์ มีเกียร์อยู่ 2 แบบ คือ เกียร์อัตโนมัติกับเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์ Manual สำหรับเกียร์อัตโนมัติเขาเรียก
SKY ACTIV DRIVE โดยเขาจะปรับวิธีการที่จะถ่ายทอดแรงบิดจากเครื่องยนต์ให้ไปสู่ระบบการขับเคลื่อนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะฉะนั้นเมื่อเขาทำได้ดังนี้ อัตราการ
สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็จะลดลงไปได้ประมาณ 4 – 7% เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ
          อีกตัวหนึ่งเป็นเกียร์ธรรมดา ก็คือ SKY ACTIV MT ย่อมาจากคำว่า Manual Transmitter หรือ Transmition สำหรับเกียร์ธรรมดาเขาทำให้มีขนาดเล็กและก็มีน้ำหนัก
เบาลง มีระยะในการที่จะขยับคันเกียร์ให้สั้นและก็เบาลงแบบเดียวกับรถสปอร์ต ซึ่งจะเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วมาก เพราะว่าช่วงเปลี่ยนเกียร์จะสั้นนิดเดียว ฉะนั้นเมื่อทำดังนี้แล้วก็จะทำ
ให้ลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้
          3. เรื่องของตัวถัง มี 2 แบบ คือ เทคโนโลยี SKY ACTIV BODY กับ SKY ACTIV ชัชซี ตัว SKY ACTIV BODY ทำตัวถังใหม่มีน้ำหนักเบาลง 80 % ก็จะวิ่งได้ดีขึ้น
เรื่องความแข็งแรงเขาทำให้แข็งแรงกว่าเดิม 30 % การออกแบบชิ้นส่วนก็พยายามที่จะไม่ให้มีการเชื่อมต่อ พยายามจะหล่อให้เป็นชิ้นเดียวกัน ก็จะทำให้มีความแข็งแรงเพิ่ม
มากขึ้น
          ส่วน SKY ACTIV ชัชซี ตัวโครงรวมทั้งระบบกันสะเทือนด้วย เขาก็ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงและมีน้ำหนักเบาขึ้น จากการปรับปรุงตัว BODY กับตัวชัชซีจะทำให้โดยร่วม
รถจะมีน้ำหนักเบาลงไปถึง 14 % จากของเดิม เมื่อรถเบาลงแล้วเครื่องยนต์ก็มีกำลัง จะทำให้ประหยัดมากขึ้น นี่ก็คือเป็นเทคโนโลยีอย่างหนึ่งของยานยนต์ในปัจจุบันซึ่งเข้าใจว่ายัง
ไม่มีบริษัทอื่นทำ เพราะว่าการผลิตการทำพวกนี้ต้องเสียเงินทำการวิจัยพัฒนาอยู่เป็นนานปี และก็มีการจดสิทธิบัตรด้วย

ประโยชน์ที่จะได้รับในการใช้รถยนต์
          1. ทำให้โดยรวมของประเทศจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือพลังงานลดลง เพราะตัวเครื่องยนต์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ประกอบกันช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่อง
ยนต์ รุ่นใหม่จะลดเรื่องมลพิษ นับว่าเป็นผลดีต่อการปรับสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอากาศในกรุงเทพฯ
          2. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี SKY ACTIV จะอยู่ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ แต่สำหรับท่านที่ยังใช้รถยนต์รุ่นเก่าอยู่ และคิดจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์รุ่นใหม่พอดี ก็ถือว่า
โชคดีได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งเป็นการประหยัด ปลอดภัย และก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
          3. การประหยัด แต่ถ้าคุณยังใช้รถรุ่นเก่าอยู่ วิธีการใช้รถให้ประหยัดก็ควรจะได้วางแผนก่อนการเดินทาง ว่าจะไปเส้นทางไหน เลือกเส้นทางที่รถไม่ติด และเลือกเส้นทางที่สั้น
ที่สุด อย่าบรรทุกของเยอะ จะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน ทำให้รถหนัก พยายามดูแลรักษาหมั่นเติมลมยางให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าให้อ่อนเกินไป เพราะหน้ายางจะกดกับถนนมาก
ทำให้รถแล่นไม่ปกติอาจจะทำให้ยางระเบิดได้ หรือถ้ายางแข็งเกินไปก็ไม่ดี จะทำให้ยางกระแทกกระทั้นและก็สะเทือนมาก
          4. ใช้น้ำมันให้เหมาะกับเครื่องยนต์ ถ้ารถของเราระบุว่าสามารถใช้กับน้ำมันประเภทไหน E20 หรือ E85 ก็ควรจะใช้ตามที่ระบุไว้ เพื่อความประหยัดและก็ไม่ขับรถเร็วเกิน
ไป หรือเร่งแซงบ่อยเกินไป ยิ่งขับรถเร็วก็ยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมัน ขับประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามกฎหมายกำหนดดีที่สุดแล้วสำหรับการ ขับรถ ก็จะเป็นผลดีกับเงินของเราและ
ก็ผลดีต่อประเทศด้วย


ภาพจาก Web Site
http://guitarzero.us/wp-content/uploads/2016/08/PTT.jpg

ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 22-11-59

          แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ทางที่ดีเราก็ควรจะเลือกใช้รถยนต์ให้เหมาะสม คือ เลือกเส้นทางที่การจราจรไม่หนาแน่น สิ่งของที่ไม่จำเป็นสำหรับรถก็อย่าใส่ไว้ในรถ
ตรวจเช็คลมยางก่อนการเดินทาง เป็นขั้นตอนที่เราทุกคนสามารถนำมาปฏิบัติได้ ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีล้ำสมัยแค่ไหน ถ้าพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของเรามีความเคร่งครัดต่อกัน อีก
ทั้งเพื่อนร่วมถนนช่วยกันคนละนิด แบ่งปันน้ำใจกันบนท้องถนน แล้ว เทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้ก็จะตอบสนองเราบนถนนสีขาว ก็จะได้บรรยากาศที่มีสิ่งแวดล้อมสวยงามอยู่รอบ ๆ
ตัวเราตลอดไป





นางสาวเยาวลักษณ์ ศิริสุวรรณ  เรียบเรียง
(เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง ปี 2556)
กลุ่มที่ 2 วิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี
กลุ่มรายการที่ 2/25-56
CD-A2(2/3)-56