การผดุงครรภ์ไทย หรือการผดุงครรภ์แผนโบราณ เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ในหลักวิชาการแพทย์แผนไทย เกี่ยวกับการดูแลมารดา และทารก ตั้งแต่ระยะเริ่มตั้งครรภ์ จนกระทั่งคลอด ดังนั้น แพทย์ผดุงครรภ์แผนโบราณ หรือที่เรียกกันว่า หมอตำแย จึงมีหน้าที่ ให้คำแนะนำ ดูแล แก้ไข ป้องกันอาการต่างๆ ของผู้หญิง ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ จนครบ กำหนดคลอด ทำหน้าที่ทำคลอด ตลอดจน ดูแลสุขภาพมารดาหลังคลอด ทารกแรกเกิด ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย สำหรับแม่หลังคลอดนั้นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการ อยู่ไฟ
ในสมัยก่อน การอยู่ไฟนั้น คือ การฟื้นฟูสุขภาพร่างกายของแม่หลังคลอดด้วยวิธีการนอน นั่งบริเวณแคร่ขนาดเล็กใกล้กับเตาไฟร้อน ๆ ภายในห้องนานเป็นเดือน แต่ใน ปัจจุบันการอยู่ไฟได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการเพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ ด้วยการใช้ความร้อนคู่กับสมุนไพรไทยมาเป็นเครื่องมือหลัก ๆ ในการอยู่ไฟตั้งแต่ 7 วันขึ้นไป เป็นอย่างน้อย ซึ่งก็สามารถเลือกบริการจากแพทย์แผนไทย หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ ตามโรงพยาบาล คลินิกแพทย์แผนไทย ไปจนถึงบริการอยู่ไฟถึงที่บ้านที่เรียกกันว่า อยู่ไฟ Delivery
การอยู่ไฟ Delivery หรือแบบบริการถึงบ้านจะบริการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย สาขาผดุงครรภ์แผนไทยที่มีใบอนุญาตออกโดยสภาการแพทย์แผนไทยใน ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจด้านนี้มากมาย สามารถหาข้อมูล หรือติดต่อผู้ให้บริการตามสื่อ Internet หรือบอกต่อๆกันมา
ซึ่งก็มีวิธีการ และขั้นตอนมากมายตามแต่ผดุงครรภ์แผนไทยจะบริการให้ โดยที่นิยมกันมีดังนี้ ตรวจซักถามข้อมูลสุขภาพของคุณแม่ เพื่อนำไปวิเคราะห์และเลือกขั้นตอนต่างๆ ให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล รวมไปถึงสอบถามอาการ โรคประจำตัวของคุณแม่แต่ละคนด้วย การใช้ลูกประคบสมุนไพร ด้วยการนำลูกประคบร้อนที่ห่อด้วยสมุนไพรต่าง ๆ มากกว่า 10 ชนิด อาทิ ขมิ้น ตะไคร้ ใบส้มป่อย เถาเอ็นอ่อน การบูร ฯลฯ มาคลึงตาม บริเวณร่างกายและเต้านมหรือนั่งทับลูกประคบ 1 ลูก เพื่อช่วยลดการปวดเมื่อยและรักษาแผลหลังคลอด การอาบน้ำสมุนไพร ใช้ไพล ขมิ้น ตะไคร้ มะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย ใบส้มเสี้ยวและสมุนไพรอื่น ๆ มาต้มอาบพออุ่น ๆ เพื่อให้สมุนไพรซึมผ่านผิวหนังเข้าไปบำรุง ให้สดชื่นและขับน้ำคาวปลา การทับหม้อเกลือ โดยการนำเอาเกลือเม็ดใส่ในหม้อดินยกตั้งไฟจนเกลือสุก แล้วห่อด้วยใบพลับพลึงและผ้าขาว ยกมาประคบตามร่างกาย ความร้อนจากหม้อเกลือ จะช่วยให้รูขุมขนเปิด สมุนไพรซึมผ่านลงผิวหนังไปทีละชั้น ช่วยขับน้ำคาวปลาของเสียออกมาตามรุขุมขน ทั้งยังช่วยรัดมดลูกให้เข้าอู่เร็วขึ้นอีกด้วย การคาดไฟชุดตำราหลวง เป็นไฟชุดสำเร็จรูปลักษณะเป็นกล่องนำความร้อนด้วยก้านแท่งบรรจุอยู่ในช่องผ้าคล้ายเข็มขัดขนาดใหญ่เพื่อใช้คาดที่เอวหรือบริเวณ หน้าท้องเพื่อช่วยลดอาการหนาวสะท้านและลดไขมันหน้าท้อง
การนาบอิฐ ด้วยการใช้อิฐมอญย่างไฟร้อน ๆ ห่อด้วยใบพลับพลึงและผ้าหนาหลายชั้นมาประคบตามบริเวณร่างกายหรือวางไว้ใต้เก้าอี้เพื่อช่วยให้ความร้อนอังบริเวณ ปากช่องคลอด เพื่อช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นได้ การอบตัวด้วยกระโจมสมุนไพร ถือเป็นขั้นตอนหลักของการอยู่ไฟเลยก็ว่าได้ เพราะการอบไอน้ำด้วยสมุนไพรนานาชนิดนี้จะช่วยให้รูขุมขนได้ขับของเสียและ ทำความสะอาดผิวให้เปล่งปลั่งขึ้น โดยการเข้ากระโจมเป็นเวลา 1 อาทิตย์ประมาณ 20-30 นาที นวดคลายเส้นกล้ามเนื้อตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกาย เช่น ใบหน้า ศีรษะ ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น เพื่อให้กล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า เส้นเอ็นและเลือดลมต่างๆ คลายตัว กระตุ้น ต่อมน้ำเหลืองและเลือดลมได้ดียิ่งขึ้น การดื่มน้ำสมุนไพร อย่างการดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันในช่วงอยู่ไฟ จะช่วยปรับสมดุลของร่างกายและกระตุ้นเลือดลมให้เดินเป็นปกติ รวมไปถึงจะช่วยรักษาสมดุล ของร่างกายไม่ให้เย็นมากจนเกินไป ขัดบำรุงผิว เป็นวิธีการใหม่ที่เพิ่งมีเข้ามาสำหรับการอยู่ไฟในยุคนี้ ด้วยการพอก ขัด นวดด้วยเกลือสะตุและสมุนไพรไทยต่างๆ จะช่วยกระชับ บำรุงผิวที่แตกลาย เซลล์ เสื่อมสภาพให้เรียบเนียนและมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
ข้อแนะนำสำหรับการอยู่ไฟมีดังนี้ ห้ามดื่มน้ำเย็นอย่างน้อยเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ควรกินน้ำอุ่นให้มากเพื่อบำรุงน้ำนม ห้ามรับประทานของหมักดอง หรืออาหารที่ทานแล้วแสลงแผล ห้ามรับประทานของเย็นต่างเพื่อให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ควรพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรงไม่ควรออกไปโดนฝน หรืออยู่ในที่มีอากาศหนาวจัด ควรอาบน้ำอุ่นถึงอุ่นจัดเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดี
อย่างไรก็ตาม
การอยู่ไฟข้างต้นนี้เหมาะสำหรับแม่หลังคลอดที่คลอดเองตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถอยู่ไฟได้เลยนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลหรือภายใน
3-7 วันขึ้นไป
|