1.3. การเขียนอย่างอิสระ (freewriting) เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการสำรวจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง
การเขียนแบบนี้ก็เหมือนกับการระดมสมอง กล่าวคือ ให้เขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดได้
โดยไม่ต้องหยุด แต่ต้องเขียนเป็นประโยคเต็ม โดยไม่สนใจไวยากรณ์หรือตัวสะกด
วันวิสาข์ได้ความคิดเพิ่มขึ้น พร้อมกับคำต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม วันวิสาข์ต้องการเขียนเรียงความแบบ argumentative
ซึ่งหมายถึงว่า เธอจะต้องแสดงความคิดเห็นและพยายามจูงใจให้ผู้อ่านเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเธอ
เพียงแค่คำต่าง ๆ ที่เขียนไว้คงจะไม่พอ ลองดูการเขียนอย่างอิสระของวันวิสาข์ข้างล่างนี้
(ไวยากรณ์ของเธอได้รับการแก้ไขแล้ว)
ตัวอย่างการเขียนอย่างอิสระ...

2. การรวบรวมข้อมูลหรือการจดบันทึกข้อมูล
(gathering information/taking notes) วันวิสาข์ไปห้องสมุดเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
เธอได้พบเอกสารทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย จึงได้จดบันทึกไว้เป็นภาษาอังกฤษ
เนื่องจากจะต้องเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษ
ต่อไปนี้เป็นบันทึกที่วันวิสาข์จดไว้
- In 1995 (2538 B.E.) about 700,000-800,000 Thai people
had HIV.
- About 30% of the people with AIDS have died.
- All kinds of people are becoming infected with HIV,
not only drug users, gays, and prostitutes.
- The amount of HIV infection is increasing.
- HIV stands for human immunodeficiency virus.
- If people have knowledge about AIDS, then they wont
be afraid to live with people with AIDS.
- The education policy in primary school is to show that
the result of AIDS is death.
- When children see only pictures of very sick people
and death, they will form a negative opinion of people
with AIDS and maybe reject them.
- People with AIDS often dont look sick at all, and
people with AIDS usually do not die suddenly.
- If people with HIV eat healthy food, receive love and
support from friends and family, and continue to work,
they can live 12 years or even longer.
(From Love, Peace, Life, and the People who get HIV.
Moh-Chao-Ban. Vol 200, December, 1995, pp.15-27).
วันวิสาข์ยังพบเอกสารอื่น ๆ อีก เช่น บทความในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และเดอะเนชั่น
รวมทั้งนิตยสารทางวิทยาศาสตร์
3. การพัฒนาใจความหลัก (developing
a main idea or thesis statement) นักเขียนส่วนใหญ่มักจะเขียน
thesis statement ก่อนเริ่มลงมือเขียนร่างที่หนึ่ง เหตุที่
thesis statement เป็นสิ่งสำคัญ นักเขียนจึงมักเปลี่ยนแปลงและเขียนใหม่อยู่หลายครั้ง
จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจมีการแก้ไขปรับปรุง thesis statement
ทุก ๆ ขั้นตอนของการเขียน ขอให้พึงระลึกไว้ว่า จุดมุ่งหมายของ
thesis statement ก็คือ
- แสดงใจความหลัก
- กล่าวถึงหัวข้อย่อย
- อาจระบุการจัดระเบียบหรือลำดับเนื้อหาของเรียงความทั้งเรื่อง
หลังจากรวบรวมข้อมูล ไตร่ตรอง และอภิปรายเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องที่จะเขียนกับเพื่อนร่วมชั้นแล้ว
วันวิสาข์ก็เขียนใจความหลักหรือความคิดเห็นที่เธอต้องการจะเสนอ
4. การเขียนโครงร่าง (Outlining)
เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญก่อนลงมือเขียน เพราะช่วยให้ผู้เขียนจัดลำดับความคิด
และวางโครงร่างของเนื้อหาที่จะเขียนได้ชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น