หลายๆคนคงมองดูอะไรต่อมิอะไรรอบๆตัวในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็ต้องบอกกับตัวเองว่าจะถ้าจะซื้ออะไร ก็ต้องคิดหน้าคิดหลัง ให้ละเอียดซักนิด คิดสักหน่อย แล้วค่อย ตัดสินใจ จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง ตามปกติทั่วไปแล้ว ถ้าคุณคิดจะซื้อรถยนต์มือสองมาสักคันหนึ่ง คุณคงตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราควรเลือกซื้ออย่างไรดี ซื้อมาแล้วจะคุ้ม หรือไม่ เนื่องจากเป็นสินค้ามือสอง ทำให้คุณต้องใช้ความคิดอย่างหนักเลยทีเดียว เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น บทความนี้จึงขอแนะนำวิธีเลือกหรือสังเกต รวมไปถึง เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองเบื้องต้น รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน โดยที่คุณลองถามกับตัวเองก่อนว่าเป้าหมายมีอะไรจะได้ไม่สับสน เช่น รถประเภทอะไร กระบะหรือเก๋งยี่ห้อเป้าหมาย ยี่ห้ออะไรงบประมาณเท่าไหร่อายุรถที่ต้องการสีจำเป็นหรือไม่เป็นต้นนอกจากนั้นคุณควรจะศึกษาข้อมูลต่างๆ ของรถยนต์รุ่นนั้นๆ เพื่อที่จะได้เป็น ตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องการดูแลรักษา อะไหล่ และอัตราการสิ้นเปลือง ค้นหาแหล่งที่จะซื้อรถยนต์ ซึ่งมีทั้งรถยนต์บ้าน และรถยนต์เต็นท์ โดยตรวจดูทั้งสื่ออินเทอร์เน็ต และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆศึกษาวิธีการดูรถยนต์ หรือถ้าจะไปดูรถยนต์ แนะนำควรหาผู้ชำนาญไปช่วยดูด้วยเมื่อคุณได้คำตอบเหล่านี้แล้ว เราลองมาดูองค์ประกอบอื่นๆที่ช่วยในการ ตัดสินใจซื้อรถมือสองให้ง่ายขึ้นกันเลย
แน่นอนว่าสิ่งที่คุณมองเห็นเป็นอันดับแรกคือ ภายนอกรถ ให้คุณลองยืนหันหน้าเข้าหาด้านหน้าของรถยนต์เป้าหมายตรงๆ โดยยืนห่างประมาณ 5 เมตรเป็นอย่างน้อย แล้วสังเกตรูปทรงของรถ ดูว่าสมส่วน ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ไม่บิดเบี้ยวเหมือนคนยืนเท้าเอวข้างเดียวกันชนหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า ต้องได้รูปไม่โน้มเอียงไปทางใดทาง หนึ่ง สีโดยทั่วไปเสมอกันหรือไม่ (แนะนำว่าให้ดูรถในที่สว่างเท่านั้น) จากนั้นก็เดินเข้าใกล้รถอีกนิดก้มลงดูว่าพื้นสีว่ามีความสม่ำเสมอหรือไม่ (ภาษารถเขาเรียกว่าดูเม็ดสี)
ว่าเป็นคลื่นๆหรือเปล่าถ้าดูแล้วสีไม่เท่ากันตรงจุดไหน ก็ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน จากนั้นให้สังเกตแนวร่องระหว่างฝากระโปรงหน้าเส้นขอบประตู หน้า-หลัง ซ้าย- ขวา ฝาท้ายรถ มีเส้นแนวเรียบ เสมอกันหรือไม่หลังจากใช้สายตาแล้วก็ลงมือปฏิบัติกันบ้างล่ะ รถที่ทำสีแล้วมักจะมีการโป๊ว การโป๊วหนาย่อมหมายถึงเกิดอุบัติเหตุมาก เราสามารถเคาะดูเสียง ที่แตกต่างกันได้ โดยการไล่เคาะไปทั้งๆ คันแล้วฟังเสียงและความรู้สึกหนาบางรอบตัวรถ รวมถึงหลังคารถ ถ้ามีจุดไหนที่เสียงดังทึบๆ มีโอกาสทำสีมาก่อน หรือเสียงโปร่งๆ ก็ดี ไปขั้นหนึ่งแล้วเปิดฝาห้องเครื่อง แล้วสังเกตร่องน้ำทั้งสองข้าง คานหน้าเครื่อง ดูว่าความเรียบของสียังดีอยู่หรือไม่โดยใช้มือลูบๆดู หากเห็นว่าหยาบและร่องไม่เสมอ ก็ตั้งข้อสงสัย ว่าทำสีมาแล้วยังเก็บไม่เรียบร้อย สังเกตคานหน้าที่ยึดหม้อน้ำว่ามีการทำสีมาหรือไม่ มีการโป๊วสี หรือซ่อมมาอย่างไรถ้ามองดูรู้สึกว่าหนาๆ ภาษารถก็อาจจะบอกว่าโดนมาซึ่งอาจ
สังเกตเพิ่มจากรูน็อตต่างๆ ต้องยังกลม และหมายเลขหน้ารถต้องยังชัดเจน หรือแผ่นเพทต้องไม่เคยชำรุด ทั้งคานบนล่างต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ จากนั้นก็ดูซอกประตูโดย ใช้วิธีเดียวกับที่ได้กล่าวมา เสริมด้วยการลองพลิกขอบยางดูด้วย ว่ามีการเก็บสีมาหรือไม่สำหรับฝาท้ายรถก็ดูร่องน้ำคล้ายๆฝากระโปรงหน้า แต่ต้องลองขยับหรือเปิดพรมขึ้นมา อีกหน่อยเพื่อดูสีและความเรียบของพื้นยังเดิมๆอยู่หรือไม่มีการพ่นสีมาใหม่หรือเปล่าแล้วให้ช่วยสังเกตดูช่องที่ใส่ประกอบไฟท้ายมีการทำมาหรือไม่เบี้ยวหรือไม่สนิมมีหรือไม่ ใต้ท้องรถ ส่วนใหญ่แล้วมักจะมองข้ามกัน แต่ใต้ท้องรถบ่งบอกถึง การใช้งานแบบทุรกันดาร การตัดต่อตัวถัง การเสียรูปของตัวรถ ความผุของตัวถังที่มักเริ่มจากพื้นรถเป็น อันดับแรก สังเกตเฟรมใต้ท้อง ความบุบครูด สนิมที่เริ่มผุ หรือการแยกกันแล้วของตัวถังรถเมื่อสังเกตภายนอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาสังเกตภายในรถกันต่อเลย เริ่มกันที่ เบาะรถยนต์สังเกตว่าเก่าขาด หรือยุบตัวทางด้านไหน หรือเปลี่ยนใหม่มาแล้ว เปลี่ยนเพราะอะไร ใช้งานหนักจนเบาะชำรุดมาก หรือเบาะเดิมไม่สวยถึงเปลี่ยนใหม่ คอนโซล หน้าสังเกต ว่าเป็นของเดิมจากโรงงาน ไม่เสียรูป มีการแตกที่ผิดปกติ หรือเปลี่ยนใหม่เพราะอะไรหน้าปัด เป็นการสังเกตว่าหน้าปัดยังเป็นของเดิมตรงรุ่น ดูระยะกิโลการใช้งาน แต่การเชื่อถือระยะกิโลเป็นหลักก็ยังเป็นการผิด เพราะสามารถปรับแต่งกันได้ เช่น รถใช้ระยะกิโลน้อยแต่เครื่องพัง เพราะวิ่งลุยน้ำทุกวัน หรือใช้งานหนักเป็นต้นพวงมาลัย
และ หัวเกียร์ สังเกตพวงมาลัยว่า มีการยุบอย่างไร พวงมาลัยและหัวเกียร์ที่ผ่านการใช้งานหนัก จะมีการสึกหรอสูง จนเป็นมัน เป็นรอยแตก สังเกตลายที่แตกต่างบนพวงมาลัย ผ้าหลังคารถ สังเกตว่ายังเป็นของเดิมมาจากโรงงาน มีการประกอบยึดใหม่ หรือเปลี่ยนใหม่เพราะอะไร ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในรถยนต์ว่ายังใช้งานได้ดีปรกติ สังเกตอุปกรณ์ ต่างๆว่า ลักษณะที่เป็นเหมาะสมกับการใช้งานมีหรือเปล่า เช่น ถ้าคันเร่งหรือคลัทช์สึกแต่เลขไมล์น้อยแสดงว่าผิดสังเกต อาจสันนิษฐานได้ว่ามีการกลับเลขไมล์เช็คดูห้องโดย สารภายในโดยดูตามตะเข็บต่างๆว่าเป็นแนวเรียบหรือไม่ อาจต้องเปิดดูตามพรม ถ้าเป็นไปได้บริเวณห้องเก็บของท้ายรถ ตรวจสอบดูตามตะเข็บ ต้องมีความสมบูรณ์แนวตะเข็บ ต้องเรียบเนียนตรวจเช็คยางอะไหล่ และเครื่องมือต่างๆว่ามีครบหรือไม่ ทั้งแม่แรง ประแจต่างๆระบบแอร์ไม่ควรมีเสียงดังของพัดลม และคอมเพรสเซอร์ที่นี้ลองมาดูระบบ เครื่องยนต์กันบ้าง ให้ลองสตาร์ทเครื่องโดยไม่ต้องเร่งคันเร่งมากนัก หากเครื่องติดง่ายก็ถือว่าผ่านขั้นที่ 1 จากนั้นลองเร่งคันเร่งเล็กน้อยแล้วปล่อย ฟังและดูว่าเครื่องเดินได้ ราบเรียบหรือเปล่าถ้าเสียงเรียบก็ผ่าน พอเครื่องยนต์อุ่นขึ้นลองดูแรงดันเครื่องคร่าวๆ โดยชักสายวัดน้ำมันเครื่องดูว่ามีควันขาวๆลอยออกมาด้วยหรือไม่หรือมีละอองน้ำมัน กระเด็นออกมาด้วยหรือไม่ถ้าไม่มีก็ผ่านในระดับหนึ่งแต่ถ้ามีก็แสดงว่าเครื่องอาจหลวมแล้ว หรือไม่ก็อาจจะมีน้ำเข้ามาผสมในห้องเครื่องก็อาจเป็นไปได้ แล้วสังเกตควันที่
ปลายท่ออีกนิด ถ้าควันขาวอมเทาๆมีกลิ่นเหม็นเหมือนน้ำมันไหม้แล้วมีละอองน้ำมันออกมาด้วย ก็ขอแนะนำว่าอย่าไปสนใจรถคันนี้จะดีกว่า ท่าทางจะไม่ค่อยดีซะแล้ว นอกจาก นั้นยังต้องไม่มีรอยรั่วของน้ำและน้ำมันในจุดต่างๆ เช่น หม้อน้ำ น้ำมันหล่อลื่นที่จุดต่างๆ เช็คแบตเตอรี่ ถ้าเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วทำงานช้าผิดปกติ หมายถึงแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม การทดลองขับให้ตรวจเช็คระดับความร้อนจากมาตรวัดไม่ควรร้อนจนเกินไป เมื่อใช้ความเร็วต้องไม่มีเสียงลมเข้า หรือมีเสียงดังแปลกๆ ระหว่างขับ เมื่อใช้ความเร็วสูงจะต้อง ไม่มีการโคลงหรือส่ายทดสอบระบบเบรกที่ความเร็วหลากหลายๆระดับขณะขับขี่เครื่องยนต์ไม่ควรมีเสียงดังจนเกินปรกติเมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์ต้องไม่มีเสียงดังหรือกระตุก ตรวจสอบประวัติจากประกันหรือสมุดคู่มือบริการตรวจสอบหมายเลขเครื่องกับขนส่งโดยว่ารถที่เราสนใจมีปัญหาหรือไม่ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ใช้รถที่มีการแจ้งความว่า หายหากซื้อรถจากเต้นท์จะต้องนำรถออกทันทีคุณอย่าไปวางเงินแล้ววางใจ ไม่อย่างนั้น เครื่องเสียง ล้อแม็กซ์ ยาง เครื่องยนต์ และอื่นๆ ของคุณอาจจะถูกเปลี่ยนไป โดยที่คุณเอง
ก็อาจทำอะไรก็ไม่ได้ต้องรีบโอนรถให้เรียบร้อยถ้าคุณซื้อรถจากเจ้าของแล้วควรนำรถออกทันที แต่ถ้าซื้อรถจากเต๊นท์จะต้องทำสัญญาซื้อขายให้ดี ขอใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อย ถ้านัดไปโอนทะเบียนภายหลังจะต้องกำหนดเวลาการโอนในสัญญาซื้อขายอย่างแน่นอนเอกสารตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารการซื้อขายรถนั้นมีพร้อมอย่างครบถ้วน หนังสือ สัญญาซื้อขาย สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย พร้อมหลักฐานของรถต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ตรวจดูพวกรหัสเครื่องยนต์ เลขทะเบียนรถด้วยว่าตรง กับหลักฐานของรถทุกประการหรือไม่ เชื่อว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การจะมีรถป้ายแดงเอาไว้ขับโก้ๆ สักคันมันช่างไกลเกินฝันสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีบ้านเกิดอยู่ต่างจังหวัดแต่ต้องมาทำงานเช่าห้องพัก อยู่ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใดก็ตามและไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกบานตะไท รถมือสองจึงอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ แต่ก็อย่างว่าการจะซื้อรถมือสองสักคันมันไม่ใช่ เรื่องง่ายเหมือนซื้อเสื้อผ้า รองเท้าเท่ห์ๆมาใส่ เพราะการซื้อรถมือสองคนที่ขาดความรู้ ความรอบคอบ อาจจะถูกหลอกถูกต้มเสียจนเปื่อยจากสภาพของรถได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เราจึงต้องมีวิชาอาคมติดตัวไว้กันเหนียวเสียเล็กน้อยเพื่อคุณภาพของรถที่ซื้อจะคุ้มกับค่าเงินที่ต้องเสียไปและไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง แม้ว่าการดูรถยนต์มือสองว่ามีความ พร้อม สามารถใช้งานได้ดีตามที่ต้องการอาจกินเวลาของคุณไปบ้าง แต่ขอบอกไว้เลยว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากคุณไม่ได้ตรวจสอบรถคันนั้นอย่างละเอียด ถี่ถ้วน ก็อาจเกิดปัญหาทั้งหลายแหล่ตามมาเป็นพรวนอย่างเช่น ถ้ารถของคุณสภาพไม่ดีพอ ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้เมื่อนำมาขับ หรือถ้าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา คุณก็อาจถูก ตำรวจจับเพราะรับซื้อของโจร จำให้ขึ้นใจเลยสำหรับสุภาษิตที่ว่า "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม" ซึ่งเป็นคำพูดที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเลือกซื้อรถมือสองของคุณการซื้อรถมือสองนั้น ถ้าเรามีความละเอียดรอบคอบเพียงพอในการเลือกซื้อ ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าซื้อแล้วได้ใช้งานคุ้มค่า เพียงแต่เราก็ ต้องดูแลบำรุงรักษารถให้ดี ก็ใช้ไปได้อีกนานเท่านานนั่นเอง เอกสารอ้างอิง ........................................................................................................................... เว็บไซต์ - http://auto.sanook.com/854/ - www.taladrod.com - http://car.kapook.com/view68690.html - https://th-th.facebook.com/TawatchaiService/posts/389261141142221 - http://www.quick2car.com - http://www.buyatsiam.com/carTips.html;jsessionid...?id=16 |