ชีวิตพัฒนาได้ถ้าใจพร้อม
โดย...พระอัครเดช  ญาณเตโช
วัดฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
อีเมล์ : akradate@outlook.com

(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)


ภาพจาก Web Site
http://www.phuttha.com/multimedia/images/articles/section-buddha/2008/037.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 1-8-58

          หากเปรียบดอกบัวกับการพัฒนาคุณธรรมดั่งดอกบัว 4 เหล่า เปรียบดอกบัวถึงการพัฒนาสู่จุดสูงสุดการบรรลุธรรม ดังที่กล่าวกันถึงและได้ยินอยู่เสมอคือ บัวสี่เหล่าอีกทั้ง
ดอกบัวยังนำมาเป็นสัญลักษณ์พูดถึงพระที่ประพฤติปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และที่พบเห็นมากในคำสอนของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงใช้เป็นการอุปมา อุปไมยดอกบัวกับการพัฒนา
คุณภาพชีวิตของมนุษย์
          สำหรับในทางพระพุทธศาสนา การนำดอกบัวเป็นสื่อแนวคิด เช่น คัมภีร์มิลินทปัญหาได้แจงถึงข้อธรรมและหลักธรรมต่าง ๆ โดยผู้ที่ศึกษาพระพุทธศาสนามักกล่าวถึง
ความสำคัญของบัวไว้ คือ บัวเป็นสิ่งที่เกิด เจริญงอกงามในน้ำเกิดจากเปือกตม แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาก็มิได้นำเอาโคลนตมขึ้นมาด้วย บัวเป็นสิ่งที่ผุดขึ้นจากน้ำสามารถตั้งอยู่
เหนือน้ำได้และแม้เมื่อถูกแรงลมพัดพา บัวนั้นก็ยังคงความสง่างาม การเปรียบเช่นนี้เชื่อมโยงกับหลักธรรมซึ่งกล่าวถึงการพัฒนาตนเองที่ไม่ยึดติดอยู่กับโลกธรรมต่าง ๆ และ
พยายามนำตัวเองให้หลุดพ้น
          บัวในทางพระพุทธศาสนา จึงเป็นสิ่งที่น่าเชิดชูบูชา บัว ในทางพุทธศาสนามีความลึกซึ้ง อุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก ได้แก่ บัวพ้นน้ำ ผู้ที่มีความพร้อมมี
ปัญญาสามารถมองเห็นเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลได้ บัวปริ่มน้ำ จำต้องพัฒนาซึ่งเมื่อขยายความเล็กน้อยก็จะมีความเข้าใจ บัวที่อยู่ใต้น้ำ ต้องอาศัยการเพาะบ่ม อบรม
ฝึกฝนอยู่เสมอ และบัวที่จม อยู่กับโคลนตมเป็นเหยื่อของสัตว์น้ำ แม้จะได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาตนเองมีแนวทางที่เรียกว่า
ไตรสิกขา มีศีล สมาธิ ปัญญา สิกขา ในที่นี้หมายถึง การฝึกฝนเพาะบ่ม ซึ่งการอบรมตนเองจะนำไปสู่การพัฒนา มองเห็นเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ในสิ่งที่เป็นสัจธรรม
          ชีวิตคืออะไร ? ความหลากหลายของ "ชีวิต" โดยทั่วไป ถ้าถามคนหลายคนจะได้รับคำตอบที่หลากหลาย สุดแต่ความเห็นตามประสบการณ์ บ้างก็ว่า

...............ชีวิต คือ การเรียนรู้
...............ชีวิต คือ การต่อสู้
...............ชีวิต คือ การทดลอง หรือ ลอง
...............ชีวิต คือ งาน
...............ชีวิต คือ การแสวงหา

ภาพจาก Web Site
https://lh3.googleusercontent.com/-xoQXSWgaI3w/UUwmGAvq4oI/AAAAAAAAAB0/NhTuPfnKloQ/s1600/photo.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 1-8-58

          เราเกิดมาทำไม ? คนเรานั้นมีวัตถุประสงค์มุ่งหมายในการเกิดมา มากไปกว่าที่จะเกิดมาเพียงเพื่อทำมาหากิน นี่แหละคือข้อที่ทุกคนจะต้องสนใจศึกษากัน ให้เป็นที่เข้า
ใจอย่างแจ่มแจ้งว่า การเกิดมาเพื่อทำมาหากินให้มีชีวิตอยู่นี้ อยู่ไปทำไมกัน ต่อเมื่อมีความเข้าใจอันถูกต้องว่าชีวิตนี้จะอยู่เพื่ออะไร ในที่สุดแล้วจึงจะรู้ว่า การทำมาหากินนี้เป็น
เพียงเรื่องที่สอง รองลงมาจากเรื่องทีใหญ่ที่สำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่ว่า เกิดมาเพื่ออะไรนั่นเอง
          อะไรคือคุณค่าของคน ? มีคำพูดว่า…ค่าของสัตว์อยู่ที่ร่างกาย...ค่าของหญิงชายอยู่ที่คุณความดีสัตว์โลกทั้งมวลมีเหมือนกันอยู่ 3 อย่าง
          1. การกิน เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต มีกำลังต่อสู้อยู่ในโลกได้
          2. การสืบพันธุ์ เพื่อขยายเผ่าพันธุ์
          3. การนอน เพื่อพักผ่อนเอาแรงไว้ต่อสู้ในวันข้างหน้าต่อไป
          ทั้งหมดนี้มีอยู่ในคนและสัตว์เดรัจฉาน….แต่สิ่งที่ทำให้คน หรือที่เรียกว่า "มนุษย์ " คือผู้มีจิตใจสูงแตกต่างจากสัตว์ คือ
               1. รู้จักเหตุ รู้จักผลของความดี ความชั่ว เจริญ หรือเสื่อม
               2. รู้จักแสวงหาความรู้ ทั้งทางโลก ทางธรรม
               3. รู้จักตน คือ รู้เขารู้เรา
               4. รู้จักประมาณ คือ รู้จักความพอดี ในการใช้ปัจจัยสี่
               5. รู้จักกาลคือ รู้จักเวลาไหนควรพูดควรทำอย่างไร
               6. รู้จักเลือกคบบุคคล คบคนดีเป็นศรีแก่ตัว- คบคนชั่วพาตัวอัปราชัย
          เกิดเป็นคนต้องทำที่พึ่งให้กับตัวเอง การพึ่งตน ก็คือ ทำตัวเองให้เป็นที่พึ่ง ทำตัวเองให้เป็นเกาะ ที่น้ำท่วมไม่ถึง ที่ป้องกันอันตรายได้ ผู้นั้นจะต้องมีหลักถึง 5 ประการ
          1. การศึกษา เกิดเป็นคนต้องศึกษาหาความรู้อยู่ร่ำไป
          2. ต้องมีการงาน การงานคือ หน้าที่ที่ต้องทำ และรับผิดชอบ เพื่อความเจริญของชาติ
          3. การครองชีวิต ที่ดี ต้องมี 4 ค.
3.1 ครองตน - ต้องมีความรู้ - ต้องขยันศึกษาหาความรู้ให้มาก " ต้องเรียนให้รู้ดีแต่อย่าเรียนให้รู้มาก"
3.2 ครองคน… จะครองจิตใจคนได้มันต้อง เสียสละโอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ชุมชน วางตนเสมอต้นเสมอปลาย
3.3 ครองรัก… จะครองรักสลักใจ ไปเนิ่นนานต้องมี 6 ย. (ยิ้มแย้ม ยกย่อง ยืนหยัด ยืดหยุ่น เยือกเย็น ยินยอม)
3.4 ครองเรือน… จะครองเรือนให้จีรัง

ขยันหา – ขยันทำการงาน   รักษาดี - รู้จักประหยัด
มีกัลยาณมิตร – คบคนดี  เลี้ยงชีวิตชอบ – อย่าฟุ่มเฟือยเกินไปอย่าฝืดเคืองเกินไป

ภาพจาก Web Site
http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/906/14906/images/PIC/Time.jpg
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 1-8-58

          4. การประพฤติตน (การปฏิบัติตน) ชีวิตที่ดีงาม ต้องตั้งตนไว้ชอบ ในทางที่ถูกที่ควร ขยันประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน เป็นคน กตัญญู เลิกละอบายมุข
          5. การทำตนให้เป็นอิสระ การดำเนินชีวิตอยู่ในโลก ต้องไม่ติดโลกธรรม คือ มีอะไรให้เป็น เป็นอะไรเป็นให้เป็น ได้อะไรได้ให้เป็น แล้วชีวิตจะไม่เป็นทุกข์ ต้องรู้จัก
โลกธรรมโดยถ่องแท้ด้วยว่า….

มีลาภ - เสื่อมลาภ
มียศ - เสื่อมยศ
มีสรรเสริญ - มีนินทา
มีสุข - มีทุกข์

ต้องนึกอยู่เสมอว่า…

วันนี้รุ่ง พรุ่งนี้ร่วง ดวงไม่แน่
วันนี้แย่ พรุ่งนี้ยัง กลับดังได้
วันนี้ดัง พรุ่งนี้ดับ กลับเปลี่ยนไป
โปรดจำไว้ ทุกชีวิต อนิจจัง…

          ชีวิตจะเป็นอิสระได้จะต้องไม่ยึดติด ไม่ฝืนโลก แต่ฝืนใจ..เมื่อประสบกับทุกสิ่งทั้งดี และร้าย ต้องทำใจให้นิ่ง…ผู้นิ่งเป็นผู้ชนะ ผู้ละเป็นผู้บรรลุ ไม่นิ่งก็ไม่ชนะ ไม่ละก็ไม่บรรลุ..และตรงนี้ก็มีคำกลอนสอนใจไว้น่าฟังว่า…

อันสุขทุกข์ อยู่ที่ใจ มิใช่หรือ
ถ้าใจถือ ก็เป็นทุกข์ ไม่สุขใส
ถ้าไม่ถือ ก็เป็นสุข ไม่ทุกข์ใจ
เราอยากได้ ความสุข หรือทุกข์กัน.

ค่าของคน จะเกิดความสำเร็จได้ดังใจปอง จะต้องปฏิบัติ ดังนี้.

1. พอใจในหน้าที่
2. ทำดีไม่ย่อท้อ
3. เอาใจใส่จดจ่อ
4. พิจารณาความพอดี



เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................
จากเว็บไซด์
http://www.dailynews.co.th/article/236901 (1ส.ค.2558)
http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/42013/42013-01.htm (1ส.ค.2558)
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/buddhadas/bdd-31.htm (1ส.ค.2558)
http://www.dhammathai.org/articles/020.php (1ส.ค.2558)