น้ำมันมะกอก น้ำมันสารพัดประโยชน์
โดย...คุณฮามีดะห์  ทิ้งน้ำรอบ
อาชีพ ครู
แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
อีเมล์ : rouya999@gmail.com
(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)


           น้ำมันมะกอกจัดเป็นน้ำมันที่มีคุณประโยชน์หลากหลายที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ทุกวันนี้มนุษย์ใช้วิธีการหลายวิธีที่จะสกัดน้ำมันออกมาจากผลมะกอก
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านบริโภคอุปโภค และเสริมความงาม มะกอกที่นิยมบีบน้ำมันเอามาใช้นั้นต่างจากมะกอกที่คนไทยใช้กินจิ้มพริกเกลือหรือ
น้ำปลาหวาน ซึ่งมีผลกรอบ รสชาดเปรี้ยวอร่อย แต่มะกอกที่ใช้ประโยชน์จากน้ำมันของมันถูกเรียกว่ามะกอกโอลีฟ (olive) ซึ่งสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่แถบเมดิเตอเรเนียน ซึ่ง
เป็นพื้นดินที่มีอากาศร้อนตามชายฝั่งทะเล(แถบประเทศกรีซ อิตาลี รวมถึงแอฟริกาเหนือ)รวมไปถึงประเทศปาเลสไตน์ และอิหร่านด้วย ต้นมะกอกสามารถมีอายุยืนยาวถึง
๒๐๐๐ ปี แต่ความหนาวเย็นต้องไม่ทำให้ต้นมันแห้ง


ภาพจาก Web Site
http://www.mliwimjck1mbl4453oaz22820113527000019
น้ำมันมะกอกที่ใช้เสริมสวย
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 11-9-57

          ปัจจุบันประเทศแถบเอเชียตะวันออกก็มีการทดลองปลูกมะกอกกันมากขึ้น เช่น จีน ญี่ปุ่น มะกอกจัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้มากมาย ประกอบกับปัจจุบันก็มีการใช้
ประโยชน์จากน้ำมันมะกอกมากขึ้นไม่แพ้น้ำมันชนิดอื่นๆ. น้ำมันมะกอกจึงมี ๒ ชนิด คือชนิดที่รับประทานได้กับชนิดที่ไม่สามารถรับประทานได้ ชนิดหลังนี้ใช้ประโยชน์ในด้าน
ความงามโดยเฉพาะ น้ำมันมะกอกที่ใช้ไปในการเสริมความงามจะไม่นิยมนำมาบริโภค เนื่องจากมีกลิ่นที่ฉุนกว่า เครื่องสำอางต่างๆมักจะมีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมด้วย ไม่ว่า
จะเป็นยาสระผม โลชั่นบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ครีมหรือเซรั่มชนิดต่างๆ เพราะน้ำมันมะกอกมีสรรพคุณมอบความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ทำให้เส้นผมนุ่มสลวย สาวๆจึงมักจะใช้น้ำมัน
มะกอกหมักผม
          ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมนุษย์มีการบริโภคและใช้ประโยชน์จากมะกอกอย่างแพร่หลาย ทั้งชาวตะวันตกและตะวันออก แม้แต่ชาวเอเชียมักจะนำน้ำมันมะกอกมาใช้ในการ
เสริมสวย
          มีรายงานว่าในอียิปต์โบราณราชินีคลีโอพัตราผู้เลอโฉมนางใช้น้ำมันจากพืชพันธุ์มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางของนาง อย่างเช่นนางใช้ขี้ผึ้งผสมสีเพื่อทำเป็นลิปสติก
ทาริมฝีปาก หรือน้ำมันมะกอกผสมกับหินศิลาแลงเพื่อให้ได้เป็นลิปสติกสีแดง ส่วนสีสันที่นำมาใช้ทาตานั้นจะทำมาจากน้ำมันมะกอกผสมกับผงถ่านเพื่อทำบริเวณรอบดวงตา
สาวอินเดียจะใช้น้ำมันมะกอกหยดลงบนสำลี แล้วนำมานวดเบาๆที่ใบหน้า จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำอุ่นประมาณ ๑๐ นาทีเพื่อให้น้ำมันที่นวดไปถูกล้างออกให้หมด จะทำให้ใบหน้า
นุ่มสดใส


ภาพจาก Web Site
http://www.garrubbo.com1600 ? 1478
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 11-9-57


          นอกจากประโยชน์ด้านความงามแล้ว น้ำมันมะกอกยังมีคุณอนันต์ด้านการบริโภคอีกด้วย เพราะการรับประทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น
เนื่องจากน้ำมันมะกอกเป็นอาหารที่มีธาตุร้อนจึงสามารถกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดี
          ในแต่ละศาสนาต่างก็ให้ความสำคัญกับน้ำมันมะกอก และนับว่ามะกอกคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานมาให้ อาทิเช่นชาวฮิบบรูใช้น้ำมันมะกอกนวดตัวและทาตัวใน
พิธีทางศาสนา คัมภีร์ไบเบิลของคริสต์ศาสนากล่าวถึงการทำความสะอาดบาดแผลจากการสู้รบด้วยน้ำมันมะกอก คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงน้ำมันมะกอกมากกว่า 250 ครั้ง ทั้งในแง่
เป็นน้ำมันหรือเป็นส่วนประกอบของน้ำมันหอม
          ในศาสนาอิสลาม มีรายงานจากท่านศาสดามูฮัมมัดว่า “ท่านทั้งหลายจงรับประทานน้ำมันมะกอกเถิด เพราะแท้จริงมันจะบำบัดน้ำดี ขับเสมหะ บำรุงประสาท ทำให้มี
มารยาทงดงาม ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นและขจัดความทุกข์กังวลใจ”
          น้ำมันมะกอกจัดอยู่ในอาหารที่มีธาตุร้อน แต่ไม่เหมาะสำหรับคนธาตุร้อนที่จะทานน้ำมันมะกอกในปริมาณมาก ในศาสนาอิสลามแนะนำให้ทานน้ำมันมะกอกร่วมกับน้ำส้ม
สายชูหมัก บรรดาแพทย์แผนโบราณน้ำมันมะกอกจะทำให้เกิดสภาวะผิดปกติของน้ำดี (ทำให้มีอารมณ์ฉุนเฉียว) จึงจำเป็นต้องมีสิ่งอื่นมาปรับปรุงคุณสมบัติของน้ำมันมะกอก สิ่ง
ที่ดีที่สุดในการปรับปรุงคุณสมบัติของน้ำมันมะกอกก็คือน้ำส้มสายชูหมัก
          น้ำมันมะกอกมีส่วนช่วยในการขจัดกลิ่นปากและทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วย เพราะน้ำมันมะกอกคืออาหารที่ช่วยขับสารพิษออกจากตับได้ดี ความสดใสของผิวพรรณก็เกี่ยว
ข้องกับการทำงานของตับด้วยเช่นกัน น้ำมันมะกอกมีสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคือ ไฮดรอกซีไทโรโซล และกรดไขมันโอเลอิค หรือโอเมก้า ๙ มีส่วนช่วยให้ร่างกาย
คงความอ่อนเยาว์ ชะลอวัย จากสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังได้รับการยอมรับในด้านโภชนาการทั่วโลกว่า ช่วยในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรคที่สืบ
เนื่องมาจากการบริโภคอาหารหวานและมันจากไขมันสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน และไขมันในเส้นเลือด


ภาพจาก Web Site
http://www.oknation.net/blog/nexttonothing/2013/05/06/entry-1
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 11-9-57

          เวลาที่ดีที่สุดสำหรับรับประทานน้ำมันมะกอกคือตอนเช้า การรับประท่านน้ำมันมะกอกหนึ่งช้อนซุปในช่วงเวลาเช้าตรู่ก่อนอาหาร คือยาบำบัดรักษาที่ดีเลิศที่สุดสำหรับผู้ที่
ได้รับความทุกข์ทรมานจากเรื่องของตับ การรับประทานน้ำมันมะกอกด้วยวิธีดังกล่าวนอกจากจะช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วยภายในใดๆแล้ว ยังช่วยหล่อลื่นทางเดินลำไส้
ช่วยทำให้อาหารที่รวมตัวอยู่ในลำไส้เคลื่อนไปในเส้นทางของมันได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังกระตุ้นให้ตับที่เฉื่อยชาและถุงน้ำดีให้ทำหน้าที่ของมัน ช่วยยับยั้งการก่อตัวและการเพิ่ม
จำนวนของเชื้อโรคในลำไส้ เห็นประโยชน์มากมายของน้ำมันมะกอกแล้วก็ไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว

 



เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................

http://www.mliwimjck1mbl4453oaz22820113527000019

http://www.garrubbo.com1600 ? 1478
http://www.oknation.net/blog/nexttonothing/2013/05/06/entry-1