เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเมืองร้อนมักอยากสัมผัสกับความหนาว การไปเที่ยวต่างแดนในวันหยุดอาจทำให้รู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นเมื่อได้สัมผัสกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลง แต่หาก เราต้องอยู่อาศัยในระยะยาว รับรองได้ว่าความสนุกจะกลับกลายเป็นทุกข์ถนัด ถ้าเราไม่รู้วิธีการรับมือกับความหนาวในแต่ละวัน ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตที่อลาสก้าเกือบ 6 เดือน ได้ผ่านการสู้รบปรบมือกับความหนาวมาจนรับมือกับความหนาวระดับติดลบได้เป็นอย่างดี จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแบ่งปันความรู้ให้กับผู้ที่สนใจทุกคน
อลาสก้า (Alaska) หรือดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือ รัฐลำดับที่ 49 ของสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งอเมริกาได้ซื้อมาจากประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2410 มีความหนาแน่นของประชากรน้อยเมื่อเทียบกับรัฐอื่นๆ มีเมืองหลวงชื่อเมืองจูโน (Juneau) แต่เมืองใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดคือเมืองแองเคอเรจ (Anchorage) เนื่องจากอลาสก้าตั้งอยู่ในละติจูดที่สูงมากฉะนั้นลักษณะภูมิอากาศจะเป็นแบบทุนดราคืออากาศแปรปรวนมาก หลายคนจินตนาการว่าที่นี่หนาวตลอดเวลา แต่ที่ จริงแล้วช่วงหน้าร้อนอากาศก็ร้อนเอาการเลยทีเดียว ทว่าหน้าร้อนของอลาสก้านั้นเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้นนัก สภาพภูมิอากาศของอลาสก้าโดยรวมจัดว่าอากาศหนาว เนื่องจากอลาสก้ามีฤดูฝนปนหนาวยาวนานที่สุดถึง 6 เดือน อีก 4 เดือนเป็นหน้าร้อน ช่วงอากาศร้อนจะเริ่มตั้งแต่ เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดีช่วงหน้าร้อนบางวันพอตกค่ำอากาศก็อาจแปรปรวนกลายเป็นหนาวได้ก็มี ส่วนช่วงอากาศหนาวจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนไปจน ถึงเดือนเมษายน ช่วงหิมะตกจะมีปริมาณหิมะที่หนามาก การสัญจรบนท้องถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังขีดสูงสุด หน้าหนาวที่นี่หนาวระดับติดลบ บางเมืองทางตอนเนือเช่นเมือง แฟร์แบงค์ (Fairbanks) ที่ผู้เขียนได้ไปอยู่อาศัย บางวันอุณหภูมิติดลบ 20 กว่าองศา เดชะบุญยังไม่เจอช่วงหนาวจัดกว่านี้ซึ่งคนที่นั่นบอกว่าอุณหภูมิมันจะลงต่ำไปถึงติดลบ 60 องศาเลยทีเดียว!
การใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศหนาว หลายคนอาจคิดว่าเราเพียงแค่ใส่เสื้อผ้าหนาๆ สวมถุงเท้ารองเท้าอุ่นๆ ห่มผ้านวมสักสองชั้น เปิดฮีทเตอร์ตลอดเวลาก็อยู่รอดแล้ว แต่จะ มีสักกี่คนที่นึกถึงปัญหาใกล้ตัวที่มาพร้อมกับความหนาวแบบสุดขั้ว ไม่ว่าจะผมแห้ง มีรังแค ปากแตก ผิวลอก มือแข็ง หูชา น้ำมูกไหล และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจน เป็นเรื่องปกติสำหรับคนอลาสก้า แล้วเช่นนั้นพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้อย่างไร แน่นอนที่สุดว่าคนอลาสก้าต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้และรับมือกับสภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา ให้ได้ ซึ่งเทคนิคการรับมือกับปัญหาเหล่านี้ทำได้ไม่ยากหากเรารู้เท่าทัน เคล็ดลับรับมือกับอากาศหนาวระดับติดลบในอลาสก้า 1. ควรเตรียมเสื้อแขนยาว เสื้อกันหนาว เสื้อแจ็คเก็ต เสื้อโค้ท กางเกงยีนส์เนื้อหนา ไปให้พร้อม 2. กางเกงเล็กกิ้ง ถุงน่องหนา หรือลองจอน ควรใส่ไว้ใต้กางเกงยีนส์ในวันที่อากาศหนาวมากๆ 3. หมวกกันหนาว ที่ปิดหูกันหนาว ผ้าพันคอ ควรมีติดตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงหิมะตก มีลมแรง 4. ถุงมือควรมีทุกแบบ ทั้งแบบบาง แบบหนา แบบหนัง แบบกันน้ำ แบบจับหิมะแล้วไม่สะทกสะท้าน 5. ถุงเท้าต้องมีหลายคู่เพราะใช้สวมใส่ทุกวัน ที่สำคัญควรมีถุงเท้าแบบยาวด้วยเพราะช่วยเรื่องความอบอุ่นได้มากเวลาเข้านอน 6. รองเท้าผ้าใบดีๆ จำเป็นมากเพราะใส่แล้วเดินสบาย คล่องตัว รองเท้าบูทก็สำคัญเพราะใส่แล้วเท้าอบอุ่น หากซื้อรองเท้าที่นั่นได้จะดีที่สุดเพราะเขามีแบบที่เหมาะกับการเดิน เหยียบหิมะหรือบนพื้นลื่นที่เป็นน้ำแข็งด้วย
7. การใช้กระเป๋าช่วงหิมะตกหรือฝนลงเม็ด กระเป๋าผ้าร่มเหมาะสมที่สุด 8. การอาบน้ำควรอาบวันเว้นวันหรือสองวันครั้ง เนื่องจากอากาศหนาวมากและไม่มีเหงื่อออกจึงไม่เกิดกลิ่นกาย การอาบน้ำบ่อยเกินไปหรืออาบน้ำนานเกินไปจะทำให้ผิวแห้งจาก น้ำร้อน ส่วนน้ำเย็นไม่สามารถอาบได้เลยเพราะน้ำเย็นจัดมากไม่ต่างจากน้ำผสมน้ำแข็ง 9. การสระผมไม่ควรสระบ่อยหรือสระนานเหมือนอยู่เมืองไทย เนื่องจากสุ่มเสียงต่อการเกิดรังแคและเกิดผมแห้งสาก 10. น้ำมันใส่ผม โลชั่นบำรุงผมต้องใช้ลูบให้ทั่วศีรษะทุกวัน มิฉะนั้นผมจะดูแห้งกร้านจากสภาพอากาศ 11. ครีมทาผิว ครีมบำรุงต่างๆ ควรซื้อที่นั่น เพราะเขาผลิตแบบเนื้อครีมเข้มข้นรับกับอากาศหนาวโดยเฉพาะ เคยใช้ครีมทาผิวบ้านเรา ปรากฏว่าช่วยเรื่องผิวแห้งไม่ได้เลย 12. ลิปมัน เป็นสิ่งที่ต้องมีและต้องทาตลอดเวลาทั้งหญิงและชาย ยิ่งมันเยิ้มเท่าไรก็ยิ่งดีเพราะปากมักแห้งแตกเป็นขุยทรมานมากเวลายิ้มหรือหัวเราะ 13. ทิชชู่เปียก เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะวันไหนไม่อาบน้ำ อย่างน้อยจะได้เอาไว้เช็ดหน้าเช็ดตัวให้รู้สึกสะอาด นอกจากนี้ยังใช้ทำความสะอาดอวัยวะขับถ่ายได้เป็นอย่างดีด้วย ตามที่ทราบกันว่าห้องน้ำเมืองฝรั่งใช้แต่กระดาษทิชชู่และไม่มีสายฉีดล้างทำความสะอาดเหมือนห้องน้ำบ้านเรา 14. ควรมีผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่แห้งติดตัวไว้สำหรับซับน้ำมูกซึ่งมักจะไหลออกมาตลอดเวลาเมื่ออากาศหนาวเย็นหรือมีลมพัดแรง 15. ยาสามัญประจำบ้านเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะหากมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเล็ก ๆน้อย ๆ เราจะได้ปฐมพยาบาลตนเองในเบื้องต้นอย่างทันท่วงที การไปหาหมอที่อเมริกามีค่า ใช้จ่ายสูงมาก ที่สำคัญคือจะป่วยเป็นอะไรก็ตามต้องโทรไปโรงพยาบาลนัดหมอล่วงหน้า ซึ่งอาจไม่ทันท่วงที 16. ควรรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยป้องกันโรคหวัดและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเรา 17. ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มร้อนอยู่เสมอเพื่อรักษาความอบอุ่นให้กับร่างกาย ผู้เขียนหวังว่าเคล็ดลับดีๆ ที่ได้มาจากประสบการณ์ตรงข้างต้น จะทำให้การท่องเที่ยวหาประสบการณ์ต่างแดนโดยเฉพาะดินแดนขั้วโลกเหนืออย่างรัฐอลาสก้าที่มีอุณหภูมิ ติดลบของผู้อ่านทุกคนเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนาน การรู้เท่าทันปัญหาต่างๆ เสียก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะจะได้เตรียมรับมือหรือหาวิธีการแก้ไขได้ทันท่วงที เมื่ออุปสรรคต่างๆ ลดน้อยลงการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจก็จะทำให้เราทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและดื่มด่ำกับความสุขในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ให้สมกับความเหน็ดเหนื่อยที่เราทำงานมาตลอดทั้งปี
|