ความงดงามของธรรมชาติที่ไม่เผยให้ใครสัมผัสโดยง่ายดาย ซ่อนตัวอย่างสงบอยู่บนดอยสูง เป็นมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหา สายทางที่เย้ายวน โค้งแล้ว โค้งเล่า เป็นเส้นทางที่ คดเคี้ยวผ่านขุนเขา สู่เมืองเล็กๆ ที่มีนามเรียกขานว่า ปาย จากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่สู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะต้องเดินทางผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 ซึ่งเป็นเส้นทางเล็กๆที่มีจำนวนโค้งถึง 1,864 โค้ง เสียง ล่ำลือเรื่องเส้นทางที่ท้าทายผู้คน หลายคนจึงอยากเป็นผู้พิชิตเส้นทางที่สุดแสนระทึกใจสายนี้
ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศและสีสันแห่งชนบทที่เป็นธรรมชาติทั้งสองข้างทาง เมฆหมอกและแมกไม้เหมือนกำลังต้อนรับและโอบกอดผู้มาเยือน น่าเสียดายที่ผม ไม่ได้สัมผัสกับสายลมข้างนอกรถ เพราะเดินทางด้วยรถตู้ปรับอากาศ ไม่เช่นนั้นผมคงจะได้สัมผัสกับความสุขมากกว่านี้เป็นแน่ แต่แค่เพียงมองผ่านกระจกจากภายในรถตู้ โดยสาร ผมก็เผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และจินตนาการต่อไปว่าภาพเบื้องหน้านั้นคงจะสวยงามกว่าในจินตนาการเป็นแน่แท้! ผมเคลิ้มหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ตื่นอีกทีรถตู้โดยสารก็มาหยุดแวะให้ชมบรรยากาศและซื้อของฝากที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ซึ่งเป็นประตูสู่เมืองของอำเภอปาย ผมได้อ่านประวัติคร่าวๆของสะพานแห่งนี้ซึ่งข้อมูลในกระดานได้บอกว่าสะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ญี่ปุ่นเรือง อำนาจอยู่ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธสู่ประเทศพม่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง อำเภอปายจึงกลับคืนสู่ความสงบสุข อีกครั้งหนึ่ง โดยหลงเหลือไว้เพียงแต่สะพานแห่งนี้ว่า สะพานประวัติศาสตร์
สะพานประวัติศาสตร์ปายแห่งนี้ก็เก่าแก่มากมิอาจรับน้ำหนักของรถที่วิ่งผ่านได้ไหว จึงสร้างสะพานคอนกรีตเกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปายเข้าสู่เมืองปายแทน สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย แต่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายจากสงครามโลกก็ยังอยู่เคียงข้างกันกับสะพานคอนกรีตที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างลงตัว และตอนนี้เองวิวก่อนเข้าเมือง ปายก็สวยสดงดงามไปด้วยทุ่งนาข้าวที่ชาวบ้านได้ปลูกกัน บวกกับสายน้ำปายและสะพานประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้อย่างลงตัว หลังจากเก็บภาพแห่งความประทับใจและชมวิวทิวทัศน์ก็เดินทางต่อจนถึงที่พัก ริมปายคอทเทจ ซึ่งเป็นที่พักย่านตัวเมืองที่พักจะเป็นหลัง ๆ บางส่วนก็จะอยู่ริมน้ำปาย เป็นบรรยากาศที่คนเมืองหลายคนใฝ่ฝันที่จะมาสัมผัส วันนี้ผมได้สัมผัสแล้วและได้รับความสุขอย่างเอ่อล้นจากบรรยากาศริมน้ำยามเย็น ลมหนาวที่พัดผ่านแม้ว่าจะหนาวแต่ผม ก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ผมเพิ่งรู้ในขณะนั้นว่าบางครั้งธรรมชาติ ก็พร้อมที่จะยิ้มกับเราอยู่เสมอ เพียงแค่ลองเปิดหัวใจไปกับสิ่งเหล่านั้น เมื่อตกค่ำแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีและเป็นเสน่ห์ยามค่ำคืนคือ ถนนคนเดิน ซึ่งคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยลักษณะของถนนคนเดินอำเภอ ปายจะมีเพียงการวางแผงสินค้าที่ระลึกเล็กๆริมถนน ของชาวบ้านในอำเภอปาย เป็นจำพวกสินค้าพื้นเมืองประเภทหัตถกรรมต่าง ๆ ของชาวเขา เช่น หมวก เสื้อผ้า รองเท้า ลูกปัด กำไล สร้อยคอ โดยอาศัยแสงไฟอันน้อยนิดจากท้องถนน บ้างก็ใช้ตะเกียง หรือแสงจากเทียน มีร้านค้าจำพวก รถเข็นขายโรตี มันเผาเผือกเผา ก๋วยเตี๋ยว ร้านเบเกอรี่ ร้านปลาหมึกย่าง
ราตรีนี้เหมือนมีชีวิตเพราะผู้คนมิได้หลับใหลไปแต่อย่างใด ถนนคนเดินได้ปลุกผู้คนให้เพลิดเพลินไปกับแสงสียามค่ำคืน เสน่ห์ของถนนคนเดินอีกอย่างคือ ร้านขาย โปสการ์ด ถือว่าเป็นสีสันเมืองปาย ไม่ว่าจะเป็นยามค่ำคืน หรือกลางวัน บรรยากาศของร้านขายโปสการ์ดจะมีมุมมองความคลาสสิคที่น่าหลงใหลไม่น้อย เช้าวันใหม่กับห้วยน้ำดังจุดชมวิวที่สวยงามมากที่สุดและมีชื่อเสียงมากในด้านการท่องเที่ยว ที่จะชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ เป็นเช้าที่อากาศหนาวมาก มากเสียจน ใบหน้าของผมรู้สึกเหน็บชา แม้แต่เวลาสนทนาก็ยังมีละอองไอให้เห็น ที่แห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศเพื่อคอยชม พระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้าง ใหญ่ เมื่อมองไปทางทิศตะวันออก สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทิวทัศน์ของทิวเขา อันสลับซับซ้อนซึ่งมีดอยหลวง เชียงดาวที่สูงที่สุดอยู่ใจกลาง และในช่วงเช้าตรู่ ของฤดูหนาวจะเกิดทัศนียภาพของทะเลหมอกที่สวยงาม ต่อมาก็ได้เดินทางมาวัดน้ำฮูซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองปาย ตั้งห่างจากอำเภอปายประมาณ 3 กิโลเมตร หลายคนที่มาเที่ยวมักพูดว่า เมื่อมาถึงปายคุณควรเดินทางมา นมัสการสักครั้ง"
วัดน้ำฮูตำบลเวียงใต้เป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอปายและเป็นสถานที่ประดิษฐานปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ หลวงพ่ออุ่นเมือง เป็นพระพุทธรูปคู่เมืองปายมากกว่า 500 ปี เป็น พระพุทธรูปสิงห์สามปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมริด หน้าตักกว้าง 24 นิ้ว 30 นิ้ว เชื่อกันว่าสร้างในรัชสมัยของพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระพี่นางสุพรรณกัลยา ประมาณเที่ยงผมเดินทางย้อนกลับมายังเส้นทางสายเดิมที่เดินทางเข้าสู่ปาย เมืองแห่งธรรมชาติที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนและตัวผมเอง เป็นความประทับใจที่เกินบรรยาย ทุกบรรยากาศ ลมหนาว ธรรมชาติอันแสนสวย ทุกภาพแห่งความสุขและความอบอุ่นของเมืองแห่งนี้ ถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาท่องเที่ยวที่นี่อีกแน่ เมืองปายไม่ได้ฉาบทาไปด้วย ความศิวิไลซ์ต่อย่างใด เช่นเดียวกับมิตรภาพของผู้คนที่มีแต่ ความจริงใจ อีกทั้งรอยยิ้มจากธรรมชาติที่คอยแย้มยิ้มผ่านสายหมอก ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าปายจะเปลี่ยนไปเพียงใด วันข้างหน้าธรรมชาติที่สวยงามยังจะคงความงามอยู่อีกหรือไม่ นายทุนอาจจะสร้างที่พักขึ้นมามากมาย สิ่งปลูกสร้างอาจผุดขึ้นมาราวดอกเห็ดคงจะมาบดบังทัศนียภาพแห่งความ งามของแมกไม้และ ทิวเขา แต่บรรยากาศแห่งรอยยิ้มในครั้งนี้จะแทรกซึมอยู่ในความทรงจำของผมอย่างไม่รู้ลืม! ผมลืมบอกคุณไป ถ้าเกิดคุณได้มาเที่ยวที่เมืองปาย คุณไม่ต้องเอาอะไรติดตัวมาเลย นอกจากหัวใจ เพราะทุกๆอย่างมันหาได้หมด ณ ที่แห่งนี้..... เอกสารอ้างอิง ........................................................................................................................... กองบรรณาธิการบีวาว. ม่วนแต๊ แม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง. กรุงเทพฯ : บีวาว, 2556. กองบรรณาธิการเอ็มไอเอส. สะพายกล้องท่องเมืองเหนือ. กรุงเทพฯ : เอ็มไอเอส, 2555. ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์, หม่อมหลวง. 30 Bloggers Like Actually รวมสุดยอดสถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว โดนใจ 30 Bloggers. กรุงเทพฯ : สามารถ มัลติมีเดีย, 2556. |