การพัฒนาตนให้เป็นคน
3 A
โดย...คุณสุดารัตน์ บัวศรี
นักวิชาการศึกษา
ชำนาญการ
หน่วยบรรณาธิการ
ฝ่ายวิชาการ
สำนักพิมพ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อีเมล์
: upacbsud@yahoo.co.th
(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)
|
จากการศึกษาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง
คือ มีจุดมุ่งหมาย ทัศนคติที่ดี และมี
ความรู้ความสามารถ โดยทำงานอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะพบปัญหาอุปสรรคระหว่างการทำงานก็ตาม
ดังนั้น กว่าใครสักคนหนึ่งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมืออาชีพให้คนอื่นยอมรับได้ ต้อง
ผ่านกาลเวลา และการพิสูจน์ผลงานพอสมควร
องค์ประกอบของบุคคล
3 A
ภาพจาก
Web Site
http://siriwishs.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 18-1-58 |
|
1.
จุดมุ่งหมาย (Aim) คือ การที่บุคคลนั้นกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การกำหนดทิศทางและเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญของบุคคล
3 A การพัฒนาตนเองแบบมีจุด
มุ่งหมายเปรียบเสมือนนักเดินทางที่ต้องมีแผนที่ เข็มทิศ และไม่ควรเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญหรือไม่จำเป็น
เพราะจะทำให้เสียเวลาไปเสียเปล่า ถ้าทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อ
ฆ่าเวลาไปวันๆ ย่อมไม่สามารถพัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
2.
ทัศนคติ (Attitude) คือ การมีทัศนคติในเชิงบวก ซึ่งแง่คิดนี้จะนำมาซึ่งการนับถือตัวเอง
ทำให้มองเห็นตัวเองต้องการอะไร และมองผู้อื่นในแง่ดีเสมอ การมีความ
คิดเช่นนี้จะมีผลสู่ทิศทางที่เราต้องการ ทำให้เราปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ง่าย
วิธีการสร้างทัศนคติเชิงบวกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
แต่ก็มีวิธีการสร้างได้หลายวิธี วิธีที่ดีที่สุดก็คือ คุยกับตัวเองและผู้อื่นในด้านบวกทุกวัน
พูดถึงผู้อื่นในแง่ดี ไม่ควรพูด
หรือคิดเชิงลบ เมื่อไรก็ตามที่คิดแง่ลบ ต้องปรับทัศนคติเป็นแง่บวกทันที
3.
ความรู้ความสามารถ (Ability) คือ การพยายามไม่ดูถูกตัวเอง ไม่เกี่ยงงาน
อย่าปฏิบัติโอกาสของการทำงาน เมื่อไรก็ตามที่พบปัญหาและอุปสรรค หรือความยุ่งยาก
จงถือว่าเป็นบทเรียนฝึกฝนที่ดี ทำให้เกิดการเรียนรู้ เมื่อเกิดการเรียนรู้ก็จะทำให้เกิดความสามารถเพิ่มขึ้น
จนถึงขั้นที่เรียกว่า ทักษะ จนกระทั่งถึงการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
ด้วยองค์ประกอบทั้ง
3 A ดังกล่าว ถ้าใครก็ตามสามารถสร้างให้เกิดขึ้นกับตนเอง พร้อมทั้งการใฝ่รู้
และกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ต่อเนื่อง ติดตามความรู้ที่เป็น
ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานเพิ่มเติมอยู่เสมอ และนำความรู้ที่ได้สั่งสมมาพัฒนาศักยภาพของตนเองและผู้อื่น
ตลอดจนถ่ายทอดความรู้ที่มีประโยชน์ต่อไปยังผู้อื่นหรือองค์กร
โดยรวม นอกจากนี้การมีองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญครบ 3 A แล้ว ยังต้องมีแผนพัฒนาตนเองอีก
5 ขั้น ดังนี้
แผนพัฒนาตนเอง
5 ระดับ
ภาพจาก
Web Site
http://joommyjang.blogspot.com/2013/04/blog-post.html
ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 18-1-58 |
|
1. ระดับการพัฒนา (Developing) ทำจิตใจให้ว่าง สมองต้องเปิดรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ
เพราะทุกวันจะมีสิ่งใหม่ให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ เพราะนี่คือขั้นพื้นฐานของคนที่
พร้อมจะพัฒนาตนเอง
2.
ระดับนักปฏิบัติ (Performer) เมื่อการเรียนรู้เกิดขึ้น ถ้าไม่จดบันทึก
ไม่ตั้งใจฟัง หรือคิดตามจะไม่สามารถเกิดผลสำเร็จได้ ควรได้ลงมือปฏิบัติ ทำซ้ำๆ
หลายครั้ง
นอกจากทฤษฎีแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้จากการปฏิบัติอีกมาก ถ้าไม่ลงมือทำ
ไม่สังเกต ย่อมไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง แน่นอนอย่างที่สุดว่าทักษะย่อมไม่เกิดขึ้น
3.
ระดับสร้างสรรค์งาน (Proactive) การทำงานที่ซ้ำๆ จนเกิดความสามารถแล้ว
ในขั้นนี้การทำงานจะเกิดเทคนิควิธีการเฉพาะที่สามารถจัดการกับปัญหานั้นๆ
มี
เทคนิคการทำงานที่ชัดเจน สามารถวิเคราะห์สถานการณ์แก้ปัญหา หรือหาทางป้องกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตได้
และเริ่มเป็นจุดเริ่มต้นของทำงานเชิงรุก
4.
ระดับสร้างต้นแบบ (Role model) สำหรับใครหลายคนในองค์กรที่ก้าวขึ้นมาในระดับที่
3 ได้แล้ว ระดับนี้เพียงแค่เพิ่มเติมทักษะเชิงสังคม เช่น การสื่อสาร
มนุษยสัมพันธ์ การกระตุ้นจูงใจ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และได้รับการอบรมเทคนิคการนำเสนอหรือการถ่ายทอด
นอกจากความสามารถจะเกิดขึ้นในตัวเองแล้ว ยังแพร่ขยาย
ไปสู่คนอื่นๆ รอบข้างด้วย องค์กรใดที่มีบุคลากรในระดับ 4 มาก ผลงานขององค์กรที่ได้รับจะทวีคูณ
5.
ระดับผู้นำความเปลี่ยนแปลง (Innovator) ระดับสูงสุดของการพัฒนาคน
คือมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกลออกไป การสร้างสรรค์สิ่งใหม่หรือการทดลอง
เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ หรือแม้แต่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆ ให้ก้าวผ่านระดับชั้นต่างๆ
ของการพัฒนาตนเองขึ้นมาได้
ทั้ง 5 ระดับ
ควรมีอยู่ในตัวทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะอยู่ในระดับใด นั่นหมายถึง เราจะต้องเริ่มทำในระดับที่
1 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ควรที่จะมีการพัฒนาขึ้นไปในระดับที่สูง
ขึ้น อย่างน้อยที่สุดทำในระดับที่ 4 ได้ ก็สามารถสร้างผลงานทวีคูณให้แก่องค์กร
การพัฒนาตนให้เป็นคน 3 A จึงเป็นการพัฒนาคนและองค์กรให้เกิดประสิทธิผลไปพร้อมกันด้วย
นั่นเอง
เอกสารอ้างอิง
...........................................................................................................................
จำลักษณ์
ขุนพลแก้ว พัฒนาตนให้เป็นคน AAA (Work Like a Pro) กรุงเทพธุรกิจ อังคารที่
4 พฤศจิกายน 2557
http://siriwishs.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%
http://joommyjang.blogspot.com/2013/04/blog-post.html
|