รางจืด เป็นสมุนไพรชนิดเดียวที่มีการใช้แก้พิษในอดีต และเชื่อถือในสรรพคุณได้ด้วยข้อมูลการวิจัย โดยเป็นสมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยทั้งในห้องทดลอง และศึกษาใน กลุ่มตัวอย่างมากว่า 30 ปีแล้วพบว่า
รางจืด สามารถล้างพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ โดยการศึกษาทางเภสัชวิทยาของรางจืดครั้งแรกเริ่มจากแพทย์หญิงพาณี เตชะเสน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่ารางจืดสามารถช่วยชีวิตแมวของท่านที่ถูกวางยาพิษได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ทำการศึกษาวิจัยรางจืดในการแก้พิษสารกำจัดศัตรูพืชตั้งแต่ พ.ศ 2522-2523 โดยเริ่มจากสารกำจัดศัตรูพืชในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต (เช่น โฟลิดอล พาราไทออน) ต่อมามีการศึกษาพบว่ารางจืดยังสามารถลดพิษของสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม คาร์บอเนต เช่น เมโทรมิล ได้อีกด้วย รางจืด...สามารถแก้พิษจากยาฆ่าหญ้าได้ ยาฆ่าหญ้าจำพวกพาราควอต นับเป็นสารเคมีที่มีพิษร้ายแรงต่อร่างกายมนุษย์มากที่สุดชนิดหนึ่ง หากกินประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ก็สามารถทำให้คนตายได้ ซึ่งพาราควอตจะทำให้เนื้อเยื้อปอดถูกทำลายจนเสียชีวิตในที่สุด แต่จากรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี เก็บตัวอย่างเป็นเวลา 3 ปี มีผู้ป่วยที่กินพาราควอตมาที่โรงพยาบาล 64 ราย พบว่ามีผู้รอดชีวิตด้วยการใช้รางจืด 33 ราย แต่การรักษาพิษพาราควอตนั้นไม่ได้ให้แต่รางจืด อย่างเดียว จะมีการทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาก่อน แล้วล้างท้อง และทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะออกมามากๆ ให้สารต้านอนุมูลอิสระ โดยการให้วิตามินซีปริมาณสูงๆ และสเตียรอยด์ ร่วมกับการให้ยาต้มรางจืด วิธีเตรียมยาของทางโรงพยาบาลคือ นำใบแห้งหนัก 300 กรัม ใส่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร ต้มในหมอดินโดยใช้ไฟกลางเดือนนาน 15 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ให้ผู้ป่วยดื่มหรือให้ทางสายยาง ครั้งละ 200 มิลลิลิตร ทุก 2 ชั่วโมง ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล แม้ว่ารายงานนี้ไม่ถือเป็นงานวิจัยแต่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก รางจืด แก้พิษจากสัตว์พิษและพืชพิษ รายงานของการใช้รางจืดแก้พิษ จากโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กล่าวว่ามีผู้ป่วยที่กินไข่แมงดาทะเล 2 ราย มีอาการ รุนแรงจนหมดสติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทุกรายมีอาการชารอบปาก คลื่นไส้ อาเจียน อาการชาจะลามไปยังกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ที่เป็นอันตรายคือทำให้หายใจไม่ได้ อาการ รุนแรง หมดสติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ วิธีการรักษาปัจจุบันไม่มีวิธีเฉพาะ ไม่มีสารแก้พิษโดยเฉพาะ ต้องรักษาแบบประคับประคองจนผู้ป่วยขับเอาสารนี้ออกจากร่างกาย ได้หมด แพทย์ผู้รักษาได้ให้รางจืดจากการร้องขอของญาติ เมื่อกรอกใส่สายยางลงไป 40 นาที พบว่าอาการดีขึ้น แพทย์ผู้รักษารู้สึกประทับใจกับมากและกล่าวว่า ถ้าทุก โรงพยาบาลในจังหวัดที่อยู่ชายทะเลสามารถปลูกต้นนี้และใช้กับผู้ป่วยของตัวเอง จะช่วยให้อัตราการเสียชีวิตน้อยลงได้
รางจืด สู้มลภาวะ ออกฤทธิ์ต้านพิษของตะกั่วต่อสมอง ตะกั่วเป็นมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ที่มีรถติด มีโอกาสได้ รับสารตะกั่วสูงกว่าคนทั่วไป จากงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่ารางจืดสามารถเข้าไปช่วยลดพิษของตะกั่วต่อ ที่มีผลต่อความจำและการเรียนรู้ของหนู และทำให้เซลล์ประสาทตาย น้อยลง ด้วยกลไกการต้านออกซิเดชัน โดยตัวของรางจืดเองและการไปช่วยรักษาระดับเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง รางจืดช่วยในการลด เลิกยาบ้า จากการที่ชาวบ้านนำรางจืดมาแก้พิษยาเสพติด ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงได้ศึกษา ฤทธิ์ของสารสกัดรางจืดต่อเซลล์สมอง พบว่ารางจืดมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายกับสารเสพติดแอมเฟทามีน และโคเคน โดยทั่วไปเพิ่มการหลั่งโดพามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท ที่หลั่งมากในขณะที่ผู้ป่วยได้รับสารแอมเฟทามีน ทำให้คาดการได้ว่า ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสารสกัดรางจืดอาจเกิดความพึงพอใจเช่นเดียวกับการรับยาเสพติด จึงสามารถ นำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทุรนทรายมาก จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งทีการรักษาด้วยสารสกัดสมุนไพรได้ผล รางจืด...ต้านพิษเหล้า จากการที่ประชาชนส่วนหนึ่งได้นำรางจืดมาใช้ในการต้านพิษสุรา เช่น ใช้เพื่อป้องกันหรือลดอาการเมาเหล้า คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จึงได้ศึกษาวิจัยฤทธิ์ของรางจืดในการต้านพิษแอลกอฮอล์ต่อตับ พบว่าสารสกัดด้วยน้ำของรางจืดช่วย ป้องกันการตายของเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ ทั้งใน หลอดทดลองและในหนูทีได้รับแอลกอฮอล์
รางจืด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง การที่มีหมอยาพื้นบ้านจำนวนหนึ่งใช้รางจืดในการคุมเบาหวานและความดัน จึงเกิดการทดลองที่สามารถสนับสนุน หลักการใช้ดังกล่าว คือ ในหนูเบาหวานที่ได้รับน้ำต้มใบรางจืด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ ยังพบว่าการให้สารสกัดด้วยน้ำของ ใบรางจืดมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด และทำให้เซลล์ของตับอ่อนฟื้นฟูขึ้นบ้าง ในเรื่องของฤทธิ์ลดความดันพบว่า น้ำสกัดจากใบรางจืดแห้งมีผลทำให้ความดันโลหิตของหนูลดลง และทำให้หลอดเลือดแดงคลายตัว รางจืด ต้าน แก้อักเสบ การที่หมอยาพื้นบ้านนิยมใช้รางจืดมารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น ผด ผื่นคัน แมลงกัดต่อย เริม งูสวัด มีการศึกษาว่ารางจืดมี ฤทธิ์ต้านการอับเสบสูงกว่ามังคุดประมาณ ๒ เท่า และยังมีความปลอดภัยสูงกว่าอีกด้วย รางจืด ในฐานะผักพื้นบ้านที่มีความปลอดภัย รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูงชนิดหนึ่ง ทั้งจากการที่ชาวบ้านกินยอดอ่อน ดอกอ่อนเป็นผัก ใช้ลวกกิน แกงกิน ได้เช่นเดียวกับผักพื้นบ้านทั่วๆ ไป
|