|   ผาช่อ...แกรนด์แคนยอนเมืองไทย 
                
               
               
               
               
              โดย...คุณดวงดาว  เตชะวัฒนาบวร 
              หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วาง 
              (เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง 
              ปี 2555)   | 
         
       
       
       
        
                  เมื่อเร็ว 
        ๆ นี้มีข่าวการพบแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่มีชื่อว่าผาช่อ เป็นปรากฎการณ์ น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ 
        เกิดเป็นหน้าผาสูงประมาณ 30 ถึง 50 เมตร ทีเดียว บริเวณ 
        หน้าผามีร่องลอยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากตะกอนของแม่น้ำ ผาช่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความสมบูรณ์มาก 
        ๆ เพราะว่านักท่องเที่ยวยังไม่เคยรู้จักมากนัก 
      
         
             
               
              
                 
                  ภาพจาก 
                      Web Site  
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                      http://www.atnorthern.com/wp-content/uploads/2014/10/phachor-028.jpg 
                      ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 21-4-58  | 
                 
               
             | 
         
       
       
        ความเป็นมา 
                  ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติแม่วางนั้น 
        เดิมเมื่อปีพ.ศ. 2544 ได้มีหนังสือจากอุทยานแห่งชาติออกผ่านจังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานให้กรมป่าไม้ทราบในขณะ 
        นั้นว่า มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทองและป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขาด แม่วาง 
        ที่มีทรัพย์การธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามน่าสนใจหลายแห่ง 
        รวมทั้ง 
        แหล่งท่องเที่ยวผาช่อซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจมีลักษณะแปลกตาและก็มีความสวยงาม 
        มีลวดลายวิจิตรพิศดาร รวมพื้นที่ทั้งหมด 74,766 ไร่ มีศักยภาพเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็น 
        อุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ในขณะนั้นจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่คือ นางดวงดาว เตชะวัฒนาบวร 
        ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการมาปฏิบัติงานทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ 
        แม่วาง และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติจนแล้วเสร็จ 
        และประกาศพื้นที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติโดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่วาง 
        โดย 
        ประกาศเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 112 ของประเทศไทย 
        โดยอุทยานแห่งชาติแม่วางมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ 3 อำเภอ และ 6 ตำบล ได้แก่อำเภอ 
        ดอยหล่อ ตำบลดอยหล่อ ตำบลสันติสุขและตำบลยางคาม อำเภอจอมทองก็มีตำบลบ้านหลวง 
        ตำบลข่วงเปา และอำเภอเม่วางก็มีตำบลทุ่งปี้ นับจากจุดเริ่มต้นของอุทยานแห่งชาติ 
        แม่วางก็ได้รับการพัฒนาจากสิ่งก่อสร้างที่เป็นที่ใช้ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 
        ก็มาเริ่มการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เริ่มต้นจากแหล่งท่องเที่ยวผาช่อซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน 
        และนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 
      
         
             
               
              
                 
                  ภาพจาก 
                      Web Site  
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                      http://static.tlcdn3.com/data/11/pictures/0213/11-28-2014/p197qdepv434q1go91c2dnkdpnm5.jpg 
                      ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 21-4-58  | 
                 
               
             | 
         
       
       
        ลักษณะพิเศษ 
                  แหล่งท่องเที่ยวผาช่อนับเป็นจุดเด่นจากสิ่งที่เป็นลักษณะพิเศษของผาช่อ 
        คือตัวผาช่อซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นลักษณะเป็นหน้าผาดิน 
        ตะกอนสูงประมาณ 30 เมตร หน้าผาดินตะกอนเกิดจากตะกอนที่สะสมบริเวณขอบแอ่ง 
        หรือเชิงเขาของแนวเถือกเขาถนนธงชัย กลางตอนปลายยุคเธอชิลี่ ต่อมาเกิดสภาพธรณี 
        แปรสัณฐาน ทำให้ตะกอนเชิงเขาดังกล่าวถูกดันขึ้นมาเป็นพื้นที่เนินเขา และพื้นที่รอนชัน 
        ภายหลังน้ำกัดเซาะและชะล้างผิวหน้าดิน จึงเกิดเป็นหน้าผาที่มีความสวยงาม 
        มีลวดลาย 
        วิจิตรพิศดาร จึงถือเป็นจุดเด่นซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวได้ไปเห็นก็จะทราบได้ทันที่ว่านี่คือผาช่อ 
         
        ความหมายของผาช่อ 
                  ที่มาของชื่อผาช่อ 
        มาจากภาษาคำเมืองที่เขาเรียกผาจ่อ มีลักษณะเป็นช่อขึ้นมา คือในตัวของหน้าผาดินตะกอนจะมีช่อขึ้นไปสูงอีก 
        ลักษณะเหมือนเสาโรมัน ซึ่งแสดงให้เห็น 
        ว่าดูค่อนข้างแข็งแรงและก็ทำให้มีภาพนึกถึงสถานที่ของต่างประเทศ และนอกจากนี้ตัวผาช่อจะมีจุดสำคัญเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ว่า 
        ถ้าเราไปตรงผาช่อจะมีอยู่ 3 แห่งที่มีลักษณะ 
        ใก้ลเคียงกัน คือ ผาช่อจะมีระบบนิเวศน์ที่เป็นเฉพาะถิ่น คือจะมีสัตว์ป่าและก็มีชนิดพันธุ์ไม้ที่แตกต่างจากตัวแหล่งท่องเที่ยวอื่น 
        ๆ น้ำตกหรือถ้ำจะไม่เหมือนกันและก็ตัวของผาช่อ 
        จะมีสัตว์ป่าที่ไม่เหมือนกับที่อื่น เนื่องจากป่าจะเป็นป่าเต็งรัง ป่าระบบนิเวศน์โดยรอบของตัวผาช่อจะมีความสวยงามและก็ทำให้เราได้ศึกษา 
        ได้ชมความสวยงามและได้ศึกษา 
        ลักษณะทางธรณีวิทยาอีกด้วย ตัวอย่างของสัตว์ป่าซึ่งเราอาจจะพบเห็นได้ในเวลาที่เราไปเที่ยว 
        อย่างที่เห็นกันชัด ๆ คือมีนกจำนวนมาก ทั้งนกอพยพและนกท้องถิ่น และต่อมาก็คือ 
        พวกไก่ป่าซึ่งจะคุ้นเคยกับคนมาก ยังมีสุนัขจิ้งจอกอีก ซึ่งถ้าเรามาตอนกลางคืนเราจะพบมูลอยู่แป็นประจำ 
        ในบริเวณที่พบนกอพยพจะพบในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะเป็นนกประเภท 
        นกเป็ดจะมาบินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เพราะว่ามีอ่างน้ำก็จะมาอาศัยอยู่ด้วย 
      
         
             
               
              
                 
                  ภาพจาก 
                      Web Site  
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                      http://www.doiinthanontour.com/gallery/phashaw1.jpg 
                      ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 21-4-58  | 
                 
               
             | 
         
       
       
        การดูแล 
                  ในบริเวณที่มีสัตว์ป่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลหลัก 
        ๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไป จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะให้คำแนะนำ 
        โดยให้ปฏิบัติ 
        ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติ 
        ในการเข้าไปจะมีป้ายสื่อความหมายให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบและเพื่อป้องกัน 
        การเกิดอุบัติเหตุ หรือสื่อความหมายต่าง ๆ ที่จะให้ประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวชม 
        ซึ่งจะเป็นป้ายสัญลักษณ์ตามมาตรฐานทั่วไป สัญลักษณ์บอกข้อความ เช่น ห้าม 
        ขูดขีด ห้ามยิงปืน ห้ามส่งเสียง หรือไม่ก็ห้ามเข้าไปในบริเวณที่ห้ามเข้า 
        หรือว่าให้เดินเส้นทางเดียว หรือระวังลื่น ระวังหกล้ม อะไรพวกนี้ ในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวอยากจะดูชีวิต 
        สัตว์ช่วงกลางคืนก็สามารถดูได้ โดยจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบก่อน แล้วเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลและเป็นผู้นำพาไป 
      พันธุ์ไม้ในอุทยานแห่งชาติ 
      
         
             
               
              
                 
                  ภาพจาก 
                      Web Site  
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                      http://f.ptcdn.info/069/026/000/1417285334-304-o.jpg 
                       
                      ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 21-4-58  | 
                 
               
             | 
         
       
       
                  พันธุ์ไม้ในบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่วางและที่ผาช่อจะเป็นบริเวณของป่าเต็งรัง 
        จะมีพันธุ์ไม้เป็นลักษณะเด่น ๆ ก็เป็นพวกเต็งรัง เฮียงพวง ไม้ปลงป่าซึ่งมีเป็นจำนวนมาก 
        ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณของผาช่อ ซึ่งเป็นแหล่งปลงที่น่าจะใหญ่มาก เพราะว่าจากการศึกษาแล้วว่า 
        ระบบนิเวศน์ของปลงป่าที่อยู่ในป่าเต็งรังของบริเวณผาช่อจะมีพื้นที่กว้างขวาง 
        และ 
        ก็มีความอุดมสมบูรณ์มาก จะสังเกตุได้ว่าจะเป็นไม้ใหญ่ ๆ พวกไม้ยืนต้น และตัวปลงป่าจะเป็นไม้พุ่ม 
        ไม้ชั้นล่าง ไม้เต็งรัง ไม้เฮียงพวงจะมีลักษณะเป็นไม้ผลัดใบ ในบริเวณผาช่อ 
        จะเป็นต้นไม้เต็งรังรุ่น 2 เนื่องจากว่าสภาพพื้นที่ดังกล่าวเมื่อก่อน ๆ ที่จะประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ 
        จะมีชุมชนเข้ามาใช้ประโยชน์ตรงพื้นที่ดังกล่าว พวกทำฟืนเผาถ่าน หลัง 
        จากอุทยานเข้ามาควบคุมดูแลป่าทำให้พื้นที่อุดมสมบูรณ์ ก็เลยเป็นสภาพป่ารุ่นที่ 
        2 โดยต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ด้วย จากการมีส่วนร่วมของท้องที่ดังกล่าวของอำเภอ 
        ดอยหล่อดีมาก จึงทำให้สามารถดำเนินการประกาศจัดตั้งได้ภายใน 8 ปี ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ 
        ซึ่งถือว่าใช้ระยะเวลาเร็วมาก เนื่องจากว่าชุมชนเข้าใจแล้วก็มีส่วน 
        รวมในการบริหารจัดการทรัพยากรในอุทยานแห่งชาติ ถ้านักท่องเที่ยวที่สนใจและจะเข้าไปเที่ยวก็สามารถพักค้างคืนได้ 
        โดยจะมีลานกางเต้นท์ให้ และก็มีบ้านพักไว้คอยบริการ 
        ที่สามารถให้บริการได้ตอนนี้มีอยู่ 4 หลัง แต่ถ้าจะกางเต้นท์สามารถกางได้ 
        100  200 หลัง 
       
        ระบบนิเวศน์ของผาช่อ 
      
         
             
               
              
                 
                  ภาพจาก 
                      Web Site  
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                       
                      http://www.klongdigital.com/image_board/3268_21.jpg 
                       
                      ข้อมูลภาพ ณ วันที่ 21-4-58  | 
                 
               
             | 
         
       
       
                  บริเวณของผาช่อหากได้มีการศึกษาระบบนิเวศน์ของพันธุ์พืช 
        พันธุ์สัตว์ก่อนจะดีมาก แต่เนื่องจากได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติแล้ว ในขั้นตอนของการศึกษาทางวิชาการ 
        ก็ยังเป็นแค่เบื้องต้น ถ้าอาจารย์หรือนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยมาช่วยในการทำการศึกษาก็จะดีมาก 
        เพราะเป็นเฉพาะด้าน ซึ่งก็จะมีพวกพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ พวกพันธุ์พืชนี้ก็จะ 
        เป็นไม้เต็งรังทั้งหมด อย่างเรื่องของการทดแทน Sucession ก็จะดี จะทำให้รู้อัตราส่วนของการเติบโต 
        และการตายไปของพันธุ์ไม้ในบริเวณผาช่อ และอีกอย่างระบบนิเวศน์ที่ 
        เรียนให้ทราบในเบื้องต้น ก็คือเป็นระบบนิเวศน์เฉพาะถิ่น เพราะฉะนั้นพันธุ์พืช 
        พันธุ์สัตว์ก็จะแตกต่างจากป่าเต็งรังที่อื่น โดยเฉพาะปลงป่าซึ่งมีจำนวนมาก 
        ถ้าไม่มีการศึกษาพืช 
        ที่อื่น ๆ อาจจะสูญพันธุ์ หรืออาจจะถูกลักขโมย แต่ที่นี้ยังเป็นบริเวณที่กว้างขวางมีอยู่หลายพันไร่ 
        ซึ่งอุดมสมบูรณ์มากและหาชมได้ยาก เป็นที่ที่มีบริเวณกว้างขวาง อีกอย่างหนึ่ง 
        เป็นป่าผลัดใบที่ใกล้ชุมชนเป็นส่วนมาก ก็จะถูกชาวบ้านบุกรุก เพราะเวลาหน้าแล้งถ้าป่าผลัดใบลงไปก็จะเหมือนป่าเสื่อมโทรมจะโล่ง 
        ๆ แต่ว่าที่นี่จะได้รับความร่วมมือจากชุมชน 
        โดยเจ้าหน้าที่อุทยานได้ประชาสัมพันธ์ให้กับชุมชน กับฝ่ายปกครองท้องถิ่นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันดูแล 
        จะประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบว่าแทนที่จะใช้แต่ทรัพยากร 
        เพียงอย่างเดียว ก็ควรจะหันมาช่วยกันดูแลรักษาและก็จัดการทรัพยากรให้ยั่งยืนต่อไป 
        จึงอยากให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมให้สนับสนุนในเรื่องของการประชาสัมพันธ์แหล่งท่อง 
        เที่ยว และเรื่องของการศึกษาวิจัยทรัพยากรธรรมชาติอันได้แก่ พันธุ์พืชที่อยู่โดยรอบตัวผาช่อ 
        และก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวผาช่อที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันอีก 2, 3 แห่งที่เหมือนกัน 
        แต่ 
        ว่าความอลังการยิ่งใหญ่วิจิตพิศดารจะสู้ตัวผาช่อไม่ได้ แต่ลักษณะการเกิดจะเหมือนกัน 
        คือแหล่งท่องเที่ยวกิ่วเสือเต้นกับแหล่งท่องเที่ยวผาแดง ซึ่งเวลาขึ้นไปชมจะเห็นภาพของ 
        อำเภอทั้งอำเภอ ของอำเภอดอยหล่อจะสวยงามมาก 
                  การเดินทางเข้าไปที่ผาช่อมีถนนแต่ยังไม่ค่อยสะดวก 
        คือเป็นถนนลูกรังบดอัด ซึ่งเมื่อถึงเวลาหน้าน้ำก็จะโดยน้ำกัดเซาะ ยังต้องมีการปรับปรุงถนนอีก 
        ทางเข้าที่จะต้องมี 
        การปรับปรุงอยู่ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง 
        แต่ตอนนี้ก็สามารถเข้าไปชมได้ แต่ต้องใช้ยานพาหนะที่เป็นพวกรถปิกอัพหรือรถขับเคลื่อน 
        4 ล้อ 
        หรือถ้าไม่มียานพาหนะดังที่กล่าว ก็ควรจะติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ 
        เพื่อที่จะประสานงานและนำเอารถของอุทยานเข้าไปส่งให้ ถ้ามีความสนใจอยากสอบถาม 
        รายละเอียดในตอนนี้ก็สามารถสอบถามได้ที่หัวหน้าอุทยานโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ 
        081 881 4729 ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าไม่มีสัญญาณขอให้กดเรียกซ้ำ ๆ เพราะอยู่ในป่า 
        สัญญาณจะไม่ดี แต่อีกไม่กี่วันทางอุทยานจะเปิดโทรศัพท์เป็นเบอร์กลางให้สอบถามได้อีก 
         
        โครงการต่อไป 
                  ในเบื้องต้นอุทยานจะพัฒนาในสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยวผาช่อ 
        ซึ่งเป็นตัวโดดเด่นที่สุดของอุทยาน ก็มี 1 เรื่องของถนนในแหล่งท่องเที่ยว 
        2 ลานจอดรถ 
        3 ห้องสุขาและศาลาพักผ่อน สุดท้ายก็คือเส้นทางเดินศึกษาทางธรรมชาติ ซึ่งทางเดินเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวผาช่อ 
        จะประกอบไปด้วย Headtail และตัวสถานีต่าง ๆ สิ่งก่อสร้างที่ 
        อยากจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด คือ จุดถ่ายรูปที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและถ่ายรูปได้ 
        โดยที่ไม่ต้องเข้าไปสัมผัสหรือขูดขีดกับตัวผาช่อ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะเปราะบาง 
        ทำให้เกิดการสึกกร่อน 
                  จำนวนนักท่องเที่ยวที่สามารถจะต้อนรับได้ประมาณวันละ 
        100 คนต่อวัน เพราะว่านักท่องเที่ยวจะเข้าไปเที่ยวโดยทะยอยกันเข้าไป คือเข้าออกต่อ 
        1 วัน แต่มีสิ่งที่จะขอ 
        ความร่วมมือกับนักท่องเที่ยว คือเรื่องของการกำจัดขยะ การไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม 
        ซึ่งผาช่อเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สร้างความสวยงาม ความแปลกตาไว้ให้ค่อนข้าง 
        สมบูรณ์กับผู้ไปเที่ยวได้ชม ซึ่งการค้นพบแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ถือว่าเป็น 
        Unseen อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ว่ากันว่าสามารถเทียบชั้นได้กับแกรนด์แคนยอนเลยทีเดียว 
        เพราะผาช่อเกิดจากตะกอนของแม่น้ำปิง ก่อตัวขึ้นเป็นชั้นจนมีลวดลายที่สวยงาม 
        และมีขนาดใหญ่เป็นปรากฏการณ์แสนน่าที่ง ควรที่เราซึ่งเป็นประชาชนคนทั่วไปเมื่อไปเที่ยว 
        แล้วก็ควรจะดูแลรักษาสมบัติที่ธรรมชาติให้มานี้ให้คงคุณค่ายาวนานต่อไป. 
         
       
         
         
          
       
           
        นางสาวเยาวลักษณ์  ศิริสุวรรณ  
          
        ผู้เรียบเรียง 
        (เรียบเรียงเนื้อหาจากบทวิทยุกระจายเสียง ปี 2555) 
       
        |