|  
                        
              สถานภาพการรับรู้ข่าวสารและการสื่อสารของประชาคมโลกมีศักยภาพสูงขึ้นจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารในสังคมโลกาภิวัฒน์ การเลือกรับข่าวสารต่างๆ มีความหลากหลายในเวลาเดียวกัน 
              อินเทอร์เน็ตกลายเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารของ
 ประชาชนทุกเพศทุกวัยและในทุกระดับ
 กล่าวได้ว่าในปัจจุบันไม่มีใครที่ไม่รู้จักอินเทอร์เน็ต 
              สื่อสมัยใหม่ตัวนี้มีบทบาทอย่างมากในการสื่อสาร ดังจะเห็นได้จากการ
 ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่ข่าวสารต่างๆ การสืบค้นเรื่องราวความรู้ในเรื่องต่างๆ 
              แทบทุกเรื่องทำได้อย่างรวดเร็วจนได้รับ
 สมญานามว่า ห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 
               
                |  
 
                       
                        | ภาพจาก 
                            Web Site http://www.stou.ac.th/
 http://www.stou.ac.th/Thai/Offices/Oce/Knowledge/index.html
 http://www.stou.ac.th/Offices/Oce/home/
 |  |   
                         ลักษณะข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต 
              มีลักษณะเป็นสื่อผสมผสานที่ประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว 
              และภาพจากวิดีทัศน์ หรือวิดีโอ คลิปต์ ที่ขาดไม่ได้คือเสียงองค์ประกอบที่ทำให้เกิดชีวิตชีวา
 ด้วยภาวะข้อมูลข่าวสารที่มีมากมายและความเปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกด้าน 
              บทความจึงมีหน้าที่เป็นช่องทางหนึ่งในการ
 แสดงความคิดเห็น ให้ความรู้ ชี้แนะ และอธิบาย
 บทความคือข้อเขียนประเภทหนึ่งที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริงบวกกับข้อคิดเห็นและเหตุผลที่เชื่อถือได้ของผู้เขียนต่อ
 เหตุการณ์หรือสถานการณ์หนึ่งๆ ด้วยสำนวนภาษาที่แตกต่างกันขึ้นกับวัตถุประสงค์ของบทความแต่ละประเภท
 ลักษณะเนื้อหาของบทความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือเรื่องที่มีผลกระทบต่อสังคมหรือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้อ่าน
 
               
                | วัตถุประสงค์ของการเขียนบทความ |   
                     การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตมีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกับบทความที่พบเห็นในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร 
              ดังนี้1. 
              เพื่ออธิบาย มีลักษณะเป็นการให้ข้อมูล 
              ให้ภูมิหลัง และข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่ออธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย 
              ในเรื่อง
 ราวหรือเหตุการณ์ที่ซับซ้อน โดยใช้ภาษาที่ผู้อ่านทั่วไปเข้าใจได้
 2. เพื่อรายงานหรือกระตุ้นความสนใจ 
              มีลักษณะคล้ายๆ กับการเขียนเพื่ออธิบายหรือวิเคราะห์ ซึ่งพิจารณาเห็นว่าเป็น
 เรื่องที่ผู้อ่านควรรู้ เป็นการรายงาน บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
 3. เพื่อให้ความรู้ การแสดงความคิดเห็นของบทความนี้คือการให้ความรู้ทั้งทางตรงและทางอ้อม 
              ในหลายระดับตั้งแต่
 เกร็ดความรู้เล็กๆ จนถึงความรู้ทางวิชาการ
 4. 
              เพื่อเสนอแนวทางแก้ไข เป็นบทความที่ผู้เขียนมุ่งอธิบายถึงข้อเท็จจริง 
              ที่มาของปัญหาตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้น
 พร้อมกับเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งทางก็ได้
 5. 
              เพื่อโน้มน้าวใจ เป็นบทความที่ผู้เขียนต้องการโน้มน้าวให้เกิดการคล้อยตามความคิดเห็นในเรื่องที่กำลังนำเสนอ
 ส่วนมากมักเป็นประเด็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือโครงการรณรงค์ต่างๆ 
              เช่น สร้างความเป็นไทย ส่งเสริมให้ใช้ของไทย
 ประหยัดการใช้พลังงาน เป็นต้น
 6. เพื่อวิเคราะห์หรือวิจารณ์ 
              การวิเคราะห์เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงหรือประเด็นปัญหา ตามหลักวิชาการ 
              ชี้ให้เห็นข้อดี
 และข้อเสีย และผลกระทบ โดยอ้างเหตุผลที่น่าเชื่อถือประกอบการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน 
              ส่วนการวิจารณ์จะเน้นในความคิดเห็น
 ของผู้เขียนเป็นหลัก ซึ่งมาจากความรู้และประสบการณ์ที่มี โดยมองปัญหารอบด้านในทุกมิติเพื่อให้ได้ความคิดเห็นที่เที่ยงตรง
 7. 
              เพื่อความเพลิดเพลิน เป็นการนำเสนอเรื่องเบาๆ ที่ผ่อนคลาย 
              เพื่อสร้างอารมณ์ขันด้วยลีลาภาษาที่ไม่เป็นทางการ
 เกินไป
  
                         บทความที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต 
              แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้1. 
              บทความแนะนำวิธีปฏิบัติ 
              เป็นบทความที่มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ ขั้นตอนการปฏิบัติ และคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง
 ใดเรื่องหนึ่ง หรืออธิบายวิธีการ กระบวนการในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายในการดำเนินชีวิต
 บทความประเภทนี้ 
              เช่น วิธีการประหยัดไฟ การดำเนินชีวิตในยุคข้าวยากหมากแพง วิธีการประกอบคอมพิวเตอร์ 
              เป็นต้น
 2. บทความแสดงความคิดเห็นทั่วไป เป็นบทความที่มุ่งแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องที่น่าสนใจ 
              ทั้งประเด็นทาง
 สังคม เศรษฐกิจ หรือเป็นเรื่องที่ควรรู้ กำลังอยู่ในกระแสความสนใจ 
              โดยเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งนั้นในแง่มุมต่างๆ และแสดง
 ความคิดเห็น บทความประเภทนี้อาจเสนอแนวคิดใหม่ๆ ที่น่าสนใจที่แตกต่างจากเดิมก็ได้
 ความคิดเห็นที่เสนอในบทความนี้จะหนักเบาขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการเขียนและประเด็นเรื่องที่นำเสนอ 
              ซึ่งอาจมีตั้งแต่เรื่อง
 การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา สิ่งแวดล้อม สุขภาพ จนถึงเรื่องอื่นๆ 
              ทั่วไป บทความแสดงความคิดเห็นที่เผยแพร่
 ทางอินเทอร์เน็ตมักจะเชิญชวนให้ผู้ใช้แสดงความคิดเห็นได้ด้วย เป็นการสื่อสารแบบสองทาง
 3. บทความเชิงวิชาการ  
              เป็นบทความที่มุ่งถ่ายทอดความรู้ ความคิด หรือความคิดเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่อง
 หนึ่ง โดยนำเสนอข้อมูลที่เที่ยงตรง น่าเชื่อถือ การเขียนบทความประเภทนี้จำเป็นต้องมีการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสาร 
              หรือจากบุคคล
 ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ และความคิดเห็นที่นำเสนอต้องอ้างเหตุผลตามหลักวิชาการมารองรับ 
              มีการอ้างอิงหลักฐานหรือผล
 งานวิจัยประกอบการอธิบาย
 
               
                |  
 
                       
                        | ภาพจาก 
                            Web Site http://www.stou.ac.th/Thai/Offices/Oce/Knowledge/12-51/index12-51.html
 http://www.stou.ac.th/Thai/Offices/Oce/Knowledge/12-51/page4-12-51.html
 |  |   
                         บทความเชิงวิชาการที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจะมีลีลาในการนำเสนอที่ผ่อนคลายมากกว่าบทความวิชาการโดยตรง4. บทความวิเคราะห์ 
              เป็นบทความที่มุ่งวิเคราะห์เหตุการณ์ สถานการณ์ที่กำลังเป็นที่สนใจที่มีผลกระทบต่อคนในสังคม
 โดยการให้ภูมิหลัง เหตุผล ชี้ประเด็น แสดงความคิดเห็น บทความวิเคราะห์เป็นความคิดเห็นของบุคคลคนเดียว 
              ซึ่งถ้ามีความรู้และ
 เชี่ยวชาญในเรื่องที่เขียนจะได้รับความเชื่อถือ
  
                         การเขียนบทความขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการเขียน 
              ซึ่งก็มาจากความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการบทความประเภทใด
 หลักการเขียนบทความพิจารณาตั้งแต่โครงสร้างการเขียน 
              ซึ่งประกอบด้วยการตั้งชื่อเรื่อง ความนำ เนื้อเรื่อง และบทสรุป
 โครงสร้างการเขียนบทความ 
              ก็คือเป็นลักษณะทางกายภาพของบทความที่เป็นแนวทางสำหรับการนำเสนอข้อมูลความคิด
 ที่เป็นระบบเพื่อให้ผู้อ่านติดตามความคิดของผู้เขียน ซึ่งบทความที่ดีต้องประกอบด้วยส่วนสำคัญ 
              3 ส่วน นั่นคือสาระเนื้อหา ความคิด
 และภาษา โครงสร้างการเขียนจึงเปรียบเหมือนกรอบที่ผู้เขียนกำหนดเนื้อหา 
              แนวคิดที่น่าสนใจด้วยสำนวนภาษาที่ดีและเหมาะสม
 เพื่อให้ได้บทความแต่ละประเภทตามต้องการ
 โครงสร้างการเขียนบทความประกอบด้วย 
              ชื่อเรื่อง ความนำ เนื้อเรื่อง และบทสรุป แต่ละส่วนมีบทบาทหน้าที่ตาม
 วัตถุประสงค์ของการเขียนดังนี้
 1. 
              ชื่อเรื่อง  มีบทบาทในการดึงดูดความสนใจของผู้อ่านให้สนใจอยากอ่านบทความ 
              จึงเป็นข้อเขียนที่สื่อสารให้ผู้อ่านทราบ
 ว่าเรื่องที่จะเขียนเป็นเรื่องอะไร
 การตั้งชื่อเรื่องที่ดีต้องบอกใจความสำคัญ 
              ประเด็นหลักของเรื่อง เพื่อให้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน จึงควรสั้น
 กระชับ ได้ใจความ จดจำได้ง่าย กระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน 
              ชื่อเรื่องที่ดีต้องสนองวัตถุประสงค์ของการเขียน
 สะท้อนประเด็นปัญหาที่นำเสนอ นอกจากนี้เทคนิคการนำเสนอก็จะมีส่วนช่วยในการทำให้ชื่อเรื่องดูสะดุดตาอีกด้วย 
              การตั้งชื่อเรื่อง
 มีหลายลักษณะ เช่น
 - ชื่อเรื่องแบบสรุปเนื้อหา 
              เป็นชื่อเรื่องที่บอกถึงเนื้อหาของบทความว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
 - ชื่อเรื่องแบบคำถาม 
              เป็นชื่อเรื่องที่เป็นคำถาม เพื่อกระตุ้นให้คนอยากรู้
 - ชื่อเรื่องแบบคำพูด 
              เป็นชื่อเรื่องที่เป็นคำพูดซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่องที่จะเขียน
 - ชื่อเรื่องแบบอุปมาอุปมัย 
              เป็นชื่อเรื่องที่เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ
 2. ความนำ  มีบทบาทจูงใจความสนใจของผู้อ่านให้ติดตามเนื้อเรื่องต่อไปจนจบ 
              ด้วยลีลาภาษาที่กระชับ ไม่เยิ่นเย่อ เสนอ
 ประเด็นหลักของเรื่อง ความนำที่ดีต้องสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้อ่านให้อยากอ่านบทความต่อไป 
              ว่าเรื่องต่อไปจะเป็นอะไร
 มีความสำคัญและน่าสนใจตรงไหน นอกจากนี้ยังอาจบอกถึงประเด็นเรื่องที่จะเสนอในเนื้อหาด้วย 
              ความนำของบทความต้องสื่อ
 ความคิดของผู้เขียนทันทีเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
 การเขียนความนำมีหลายแบบ 
              เช่น แบบพรรณนา แบบบรรยาย แบบคำถาม แบบเปรียบเทียบ แบบสร้างความสงสัย
 3. เนื้อเรื่อง  มีบทบาทในการนำเสนอประเด็นเรื่องอย่างละเอียดโดยใช้เทคนิคที่ชวนให้ติดตาม 
              เนื้อเรื่องมาจากข้อมูลที่
 ผ่านการค้นคว้าจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ
 เนื้อเรื่องหรือประเด็นเรื่องเป็นส่วนที่สำคัญไม่น้อย 
              ฉะนั้นการกำหนดประเด็นเรื่องที่จะเขียนควรเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจ
 ของผู้อ่าน หรือมาจากความสนใจของผู้รับผิดชอบในการจัดทำสื่ออินเทอร์เน็ต 
              ซึ่งปกติถ้าเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่หรือ
 มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต คนจะสนใจ เมื่อได้เรื่องแล้วต้องผ่านการค้นหาข้อมูลหาแง่มุมเรื่องที่น่าสนใจ 
              เพราะเรื่องหนึ่งๆ มีหลาย
 แง่มุมที่สามารถนำมาเสนอได้
 การเขียนเนื้อเรื่องนั้นต่อเนื่องมาจากการเกริ่นนำในความนำ 
              และเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านต้องเสนอข้อมูล และข้อเท็จ
 จริงที่รวบรวมมาจากแหล่งต่างๆ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของผู้เขียนให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น 
              เนื้อหาในบทความควรมีสาระที่น่า
 สนใจ มีข้อมูลที่ชัดเจน โดยเฉพาะบทความวิชาการ ต้องมีหลักฐานสนับสนุนหรืออ้างอิงให้เกิดความน่าเชื่อถือ 
              ตัวอย่างการอ้างอิง
 เช่น
 จากเว็บไซด์
 www. presscouncil.or.th
 จากวารสาร
 สมสุข หินวิมาน วัฒนธรรมชนชั้นกลางในละครโทรทัศน์  รัฐศาสตร์สาร 
              ปีที่ 26 ( เดือนมกราคม  2543) : 35-38
 
               
                |  
 
                       
                        | ภาพจาก 
                            Web Site http://www.stou.ac.th/Thai/Offices/Oce/Knowledge/index.html
 http://www.stou.ac.th/Thai/Offices/Oce/Knowledge/information/Article2008/index.htm
 |  |   
                         4. 
              บทสรุปหรือบทลงท้าย มีบทบาทในการเสริมย้ำประเด็นสำคัญ 
              สรุปสาระสำคัญของเรื่อง สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านบทสรุปเป็นส่วนที่อยู่ท้ายสุดของเรื่องแต่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่านส่วนนี้ผู้เขียนต้องเน้นย้ำ
 ความคิดเห็นหรือจุดยืนอย่างชัดเจน ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญในเชิงสรุป 
              ถ้ามีการตั้งคำถามในตอนต้นหรือในส่วนนำของเรื่องเพื่อ
 เรียกร้องความสนใจก็ต้องแก้ปมและตอบคำถามนั้น บทสรุปจะมีประสิทธิภาพเพียงใดขึ้นกับลีลาการนำเสนอความคิดที่จะโน้มน้าว
 ความคิดเห็นให้คล้อยตามหรือเห็นแย้ง บทสรุปที่ดีต้องตอบสนองวัตถุประสงค์ของการเขียน 
              ทิ้งประเด็นข้อคิดเห็นให้ผู้อ่านคิดตามได้
 อย่างไรก็ตามการเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตนอกจากจะต้องคำนึงถึงหลักการเขียนบทความแล้วยังต้อง
 พิจารณาถึงคุณสมบัติของสื่ออินเทอร์เน็ตด้วย เนื่องจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะเป็นสื่อผสมผสานที่ประกอบด้วยข้อความ 
              รูปภาพ
 ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ดังที่กล่าวมาแล้ว ทำให้ข้อเขียนที่ปรากฏทางสื่ออินเทอร์เน็ตจึงมีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากการเขียน
 โดยทั่วไป
 
               
                | ลักษณะข้อเขียนที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต |   
                         ข้อเขียนที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตมีลักษณะเฉพาะ 
              กล่าวคือเป็นข้อความที่สั้น กระชับ เน้นประเด็นสำคัญของเนื้อหาข้อเขียนทางอินเทอร์เน็ตมีลักษณะ ดังนี้
 1. 
              เน้นประเด็นสำคัญที่เป็นจุดเด่นของเนื้อหา เพื่อให้ข้อความที่จะสื่อสารไม่ยาวเกินไปนัก 
              ข้อเขียนที่เผยแพร่ทาง
 อินเทอร์เน็ตจะนำเสนอประเด็นที่เป็นจุดเด่นของเนื้อหาโดยตรง ลักษณะข้อเขียนจึงเป็นหัวข้อเรื่องและจะอธิบายเกี่ยวกับหัวเรื่อง
 นั้นๆ ในสาระสำคัญเท่านั้น และจะใช้ภาพประกอบในการอธิบายเนื้อหาให้เห็นเป็นรูปธรรม 
              ทั้งนี้เพื่อช่วยไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย
 ในการอ่านข้อความยาวๆ
 2. 
              มีการเชื่อมโยงเนื้อหาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งที่เรียกว่า 
              การลิงค์ข้อความ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้อง
 การได้อย่างรวดเร็วและอ้างอิงเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้
 3. 
              มีสารบัญเนื้อหาปรากฏอยู่ทุกหน้าของจอภาพเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล 
              เนื่องจากการอ่านข้อความ
 ย้อนกลับไปกลับมาทำให้ไม่สะดวก การออกแบบหน้าจอจึงควรมีสารบัญเนื้อหาควบคู่ไปกับการแสดงข้อความต่างๆ 
              เพื่อช่วยให้
 ผู้อ่านสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้ทันที
 4. 
              ใช้สำนวนภาษาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และมีประเด็นเนื้อหาที่ชัดเจน 
              รูปแบบสำนวนภาษาที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต
 ต้องกระชับ ไม่เยิ่นเย่อ แต่เข้าใจง่าย และควรหลีกเลี่ยงศัพท์เทคนิคที่เข้าใจยาก
 5. มีภาพหรือแผนภูมิหรือภาพเคลื่อนไหวประกอบเนื้อหาที่นำเสนอ 
              เพื่อให้เกิดความสะดุดตา น่าติดตาม เรื่องนี้นับ
 เป็นจุดเด่นของการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต เพราะสามารถสื่อความหมายได้ดี 
              นับเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของข้อเขียนที่เผยแพร่
 ทางอินเทอร์เน็ต
 
 บรรณานุกรม..............................................................................................................................................................................
 มาลี บุญศิริพันธ์ การเขียนบทความในสื่อสิ่งพิมพ์ 
              เอกสารการสอนชุดวิชาการเขียนสำหรับสื่อ
 สิ่งพิมพ์ หน่วยที่ 7 นนทบุรี สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 
              2548.
 อภิชญา อยู่ในธรรม  การเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์ในสื่อสมัยใหม่ 
              เอกสารการสอนชุด
 วิชาการเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์ หน่วยที่ 9 นนทบุรี สำนักพิมพ์
 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 2549.
 Callahan, Christopher. A Journalists Guide To The Internet, The 
              Net as a Reporting
 Tool. Chestnut Hill Enterprises, Inc. USA. 1999.
 |