Parts of Speech

เมนู
ย้อนกลับ
ต่อไป

2.1 คำนาม (noun)

คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ และนามธรรม เช่น child, elephant, computer, love เป็นต้น

               2.1.1  ประเภทของคำนาม  คำนามอาจแบ่งออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

                    1)  Singular or Plural  คำนามที่เป็นเอกพจน์ หมายถึง เพียงสิ่งเดียว 
                     เช่น woman, dog, leaf เป็นต้น ส่วนคำนามที่เป็นพหูพจน์จะมีจำนวนสองสิ่งขึ้นไป เช่น
                     women, dogs, leaves เป็นต้น

SINGULAR

PLURAL

REMARKS

(1)  one girl
      one dog
      one bag

two girls
four dogs
six bags

คำนามส่วนใหญ่มักเติม -s เมื่อเป็นพหูพจน์

(2)  lady

ladies

ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + -y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -es

(3)  toy

toys

ลงท้ายด้วยสระ + -y เติม -s

(4)  life

lives

ลงท้ายด้วย f/fe ให้เปลี่ยน f/fe เป็น v แล้วเติม -es

(5)  dish
      watch
      glass
      box

dishes
watches
glasses
boxes

ลงท้ายด้วย -sh, -ch, -ss, -x
เติม -es

(6)  tomato

tomatoes

ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + -o เติม-es

(7)  radio

radios

ลงท้ายด้วยสระ + -o เติม -s

(8)  x

oxen

เติม -en

(9)  child

children

เติม -ren

(10) woman

women

เปลี่ยนรูปสระ (คำนี้เปลี่ยนการออกเสียงด้วยจาก ‘วูมั่น’ เป็น ‘วีมิ่น’)

(11) memorandum

memoranda

เป็นคำยืมจากภาษาอื่น รูปพหูพจน์
ใช้ตามภาษาเดิม

(12) deer

deer

ไม่เปลี่ยนรูป เมื่อเป็นพหูพจน์

        นอกจากนี้ คำนามบางคำจะเป็นพหูพจน์เสมอ เช่น shoes, eyeglasses, scissors, trousers  เป็นต้น
แต่คำนามบางคำถือเป็นคำนามเอกพจน์ แม้มีรูปเป็นพหูพจน์ คือ เติม -s เช่น news, mathematics, measles (โรคหัด) เป็นต้น

                    2)  Common or Proper  คำนามทั่วไป เช่น boy, owl, table เป็นต้น และคำนามที่เป็น
                     ชื่อเฉพาะอาจเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ เช่น Brad, Linping, Nike, Rome เป็นต้น

                          จะสังเกตว่า proper noun จะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ

                    3)  Concrete or Abstract คำนามที่เป็นรูปธรรม หรือคำนามวัตถุเป็นสิ่งที่จับต้องได้

                     เช่น doctor, house, car,  เป็นต้น
                     ส่วนคำนามที่เป็นนามธรรม หรืออาการนาม เช่น idea, happiness, taste เป็นต้น

                    4)  Countable or Uncountable   คำนามนับได้ เช่น teacher, bird, pen เป็นต้น

                       ส่วนคำนามนับไม่ได้ เช่น water, health, honesty เป็นต้น และคำเหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์

                    5)  Collective เป็นคำนามที่กล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ ในลักษณะเป็นกลุ่ม เช่น team, army,
                     committee เป็นต้น

 

ย้อนกลับ
ต่อไป