ประโยคย่อยอิสระซึ่งเป็นประโยคความเดียวที่มีความหมายเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมากกว่าหนึ่งประโยค
สามารถรวมให้เป็นประโยคเดียวโดยการใช้คำสันธานประเภท coordinating conjunction อาทิ and, but, yet, or, nor, for, so ซึ่งเป็นคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคที่สมบูรณ์สองประโยคเข้าด้วยกัน (นักศึกษาสามารถศึกษาทบทวนเกี่ยวกับ coordinating conjunctions ได้จากโมดูลที่ 6 Connectors) ในการใช้คำสันธานเชื่อมความเหล่านี้ นิยมใส่เครื่องหมายจุลภาคหรือ comma (,) หน้าคำสันธานเชื่อมประโยคย่อยอิสระ เพื่อช่วยในการแบ่งข้อความแต่ละส่วนให้เกิดความชัดเจนและอ่านเข้าใจง่าย บางกรณีการละเครื่องหมาย comma อาจทำให้สับสนและเข้าใจเนื้อหาสาระ
คลาดเคลื่อนได้
1) connecting sentences with ‘and’ (showing addition = และ) เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะของการเสริมความกัน คล้อยตาม หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
My mother does not like ham, and eggs make her sick.
(แม่ของฉันไม่ชอบแฮมและไข่ก็ทำให้เธอรู้สึกคลื่นเหียนด้วย)
The negotiations went quite well, and they will accept our price.
(การเจรจาต่อรองเป็นไปได้ด้วยดีทีเดียวและพวกเขาจะตกลงยอมรับราคาของเรา)
Everything is ready at the new offices, and we’re moving in next week.
(ทุกสิ่งทุกอย่างที่สำนักงานแห่งใหม่พร้อมแล้วและเรากำลังจะย้ายเข้าในสัปดาห์หน้านี้)
Bill went with us to the movie, and Nancy joined us later at the cinema.
(บิลไปชมภาพยนตร์กับเราและแนนซี่ก็ตามไปที่โรงภาพยนตร์ด้วย)
We made a loss last year, and we decided to review our policy.
(เราขาดทุนเมื่อปีที่ผ่านมาและเราก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทบทวนนโยบายของเรา)
2) connecting sentences with ‘but’ (showing contrast = แต่) เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะของการขัดแย้งกันหรือเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกัน
I understood it, but it was hard to explain.
(ฉันเข้าใจมัน แต่มันก็ยากที่จะอธิบาย)
Natalie looked for her watch, but she couldn’t find it.
(นาตาลีมองหานาฬิกาข้อมือของเธอ แต่เธอก็หามันไม่พบ)
It’s a very attractive offer, but I’m going to have to turn it down.
(มันเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมาก แต่ว่าฉันก็จะต้องปฏิเสธมันไป)
I like working fixed hours, but my staff prefer working flexitime.
(ฉันชอบการทำงานที่มีการกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอนตายตัว แต่เจ้าหน้าที่/บุคลากรของฉันชอบ
การทำงานที่สามารถเลือกเวลาการทำงานได้เองมากกว่า คำว่า flexitime เป็นการใช้คำตามแบบอังกฤษ
อเมริกันจะใช้ flextime)
They will accept our price, but they refused the 30-day clause of the payment term.
(พวกเขาจะตกลงยอมรับราคาของเรา แต่พวกเขาได้ปฏิเสธเงื่อนไขการชำระเงินภายใน 30 วัน)
3) connecting sentences with ‘yet’ (showing contrast = ถึงกระนั้นก็ตาม แต่ก็ แต่กระนั้น) เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความที่ขัดแย้งกัน
Frank was discouraged, yet he did not give up.
(แฟรงก์รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ยอมแพ้)
We have reduced our price, yet sales are still down.
(เราได้ลดราคาลงแล้ว แต่กระนั้นยอดขายก็ยังต่ำอยู่)
This hospital lacks nurses, yet it provides excellent service to its patients.
(โรงพยาบาลแห่งนี้ขาดแคลนพยาบาล แต่กระนั้นก็ยังสามารถให้บริการที่ยอดเยี่ยมแก่คนไข้ได้)
My mother is always very busy with her work, yet she takes great care of me.
(แม่ของฉันงานยุ่งมากอยู่เสมอ ถึงกระนั้นก็ตาม ท่านก็ดูแลฉันเป็นอย่างดียิ่ง)
I was so exhausted last night, yet I tried to finish writing up my new project proposal.
(ฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากเมื่อคืนนี้ แต่กระนั้นฉันก็ได้พยายามเขียนข้อเสนอ
โครงการใหม่จนแล้วเสร็จ)
4) connecting sentences with ‘or’ (giving a choice = หรือ หรือมิฉะนั้น)
เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะที่เป็นการให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง กล่าวคือ หากไม่เป็นไปตามประโยคหรือข้อความแรก ก็จะเป็นไปตามประโยคหรือข้อความหลัง
You can go with them, or you can stay here.
(คุณจะไปกับพวกเขาหรือคุณจะอยู่ที่นี่ก็ได้)
We must study hard, or we may fail the final examination.
(เราต้องเรียนหนักหรือมิฉะนั้นเราจะสอบไล่ไม่ผ่าน)
I will arrange a taxi for you, or one of my colleagues will.
(ฉันจะจัดการเรียกรถแท๊กซี่ให้คุณหรือมิฉะนั้นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของฉันจะจัดการให้)
5) connecting sentences with ‘nor’ (showing negative of both events = และไม่)
เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะที่เป็นเชิงปฏิเสธทั้งสองประโยค ขอให้สังเกตว่า เมื่อใช้ nor ซึ่งเป็นคำสันธานเชิงปฏิเสธนำหน้าประโยคที่สองเพื่อเชื่อมความเข้ากับประโยคแรกแล้วนั้น ในประโยคที่สองจะต้องอยู่ในโครงสร้างแบบประโยคคำถาม กล่าวคือ มีการสลับที่ระหว่างประธานกับกริยา กรณีที่มีกริยาช่วย กริยาช่วยจะวางไว้หน้าประธาน
He will not go abroad, nor will he further his studies. ( He will not go abroad. He will not
further his studies. เขาจะไม่ไปต่างประเทศและเขาจะไม่ศึกษาต่อ)
I did not have breakfast today, nor did I stop for lunch. (
I did not have breakfast today.
I did not stop for lunch. ฉันไม่ได้รับประทานอาหารเช้าวันนี้และฉันก็ไม่ได้หยุดเพื่อ
รับประทานอาหารกลางวัน)
I can’t remember his name, nor can I remember his nationality. ( I can’t remember
his name. I can’t remember his nationality. ฉันจำชื่อของเขาไม่ได้ และฉันก็จำสัญชาติ
ของเขาไม่ได้ด้วย)
Alice will not study her lessons, nor will she do her homework. ( Alice will not study her
lessons. Alice (She) will not do her homework. อลิซจะไม่ศึกษาบทเรียนและเธอก็จะ
ไม่ทำการบ้านของเธอ)
6) connecting sentences with ‘for’ (giving a cause = because เพราะ)
เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะที่เป็นเหตุเป็นผลแก่กัน ข้อความในประโยคแรกแสดงผล ข้อความที่นำหน้าด้วยคำสันธาน for แสดงเหตุ
Tony is rich, for he saves a lot.
(โทนี่รวย เพราะเขาออมเงินไว้มาก)
I stopped working on the report, for I was tired.
(ฉันหยุดทำรายงาน เพราะฉันรู้สึกเหนื่อย)
We must do something about Cathy, for she seems very unhappy.
(เราต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับแคธี่ เพราะเธอดูไม่มีความสุขมากนัก)
The matter creates some difficulty, for present-day scholars are not in accord with it.
(เรื่องนี้ก่อให้เกิดความยุ่งยากบางประการ เพราะนักวิชาการในปัจจุบันนี้ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว)
I’m afraid you can’t speak to Mr. Griffiths now, for he’s in a meeting.
(ฉันเกรงว่าคุณจะไม่สามารถพูดกับคุณกริฟฟิธส์ได้ในตอนนี้ เพราะเขากำลังประชุมอยู่)
7) connecting sentences with ‘so’ (showing result = ดังนั้น)
เป็นการเชื่อมประโยคที่มีข้อความในลักษณะที่เป็นเหตุเป็นผลแก่กัน ข้อความในประโยคแรกแสดงเหตุ ข้อความที่นำหน้าด้วยคำสันธาน so แสดงผล
He cheated on her, so she broke up with him.
(เขานอกใจเธอ ดังนั้นเธอจึงได้เลิกกับเขา)
This matter is not urgent, so we can discuss it at our next meeting.
(เรื่องนี้ไม่ด่วน ดังนั้นเราสามารถหารือเรื่องนี้ในการประชุมคราวหน้าได้)
This is a very busy period for us, so we need to speed up production.
(นี่เป็นช่วงที่ยุ่งมากสำหรับเรา ดังนั้นเราจำเป็นต้องเร่งการผลิต)
My husband has just received the bad news, so I’ve got to see him right away.
(สามีของฉันเพิ่งได้รับข่าวร้าย ดังนั้นฉันจะต้องรีบไปดูเขาทันที)