Literature Review

Back :: Next

2.5 Literature Review (วรรณกรรมหรือเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง)

ความสำคัญ การใช้ภาษา

2.5.2 การใช้ภาษา

>>2.5.2.2 การนำเสนอข้อมูลและแหล่งอ้างอิง
	1.การอ้างอิง การอ้างอิงงานวรรณกรรมที่มีมาก่อนหน้าบทความหรืองานวิจัยที่จะเขียนนี้ อาจใช้วิธีอ้างอิงจากกว้างสู่เฉพาะเจาะจง จากไกลสู่ใกล้ โดยวิธีการเขียนดังต่อไปนี้ 1.1 เขียนข้อมูล ประเด็นที่นำเสนอก่อนตามด้วยแหล่งข้อมูล คือผู้เขียนที่ให้ข้อมูลนั้นๆ กรณีนี้ผู้เขียนต้องสามารถสรุปแนวคิดประเด็นต่างๆ ร่วมกันที่ผู้เขียนข้อมูลเหล่านั้นศึกษามา ตัวอย่างที่ 1 The accumulating evidence indicated that higher performing schools function as learning organizations (Fullan, 1995; Silins, Muford, & Zarins, 2002). การอ้างอิงตามระบบที่กำหนดในวารสาร เช่นระบบ APA ในวงเล็บใส่นามสกุล เครื่องหมาย comma ตามด้วยปีของงานนั้น หากอ้างหลายเล่ม ใช้เครื่องหมาย comma คั่น ระหว่างผู้เขียนใช้เครื่องหมาย semi colon (;) คั่น ตัวอย่างที่ 2 การอ้างอิงงานโดยสรุปประเด็นไว้ข้างต้นแล้วตามด้วยงานที่มีเนื้อหาตามที่แสดงในประเด็นนั้น ๆ Of the existing studies investigating Asian international graduate students’ experiences in US classrooms, many are survey-based (Chapman, Wan & Xu, 1988; Kao & Gansneder, 1995; Light, Xu, & Mossop, 1987; Liu & Kuo, 1996; Xu, 1991). 1.2 อ้างชื่อผู้เขียนก่อน และอ้างเพิ่มเติมตอนท้าย Louis (1994, 2006) argued that schools capacity for innovation and reform relies on their ability to collectively process, understand, and apply knowledge about teaching and learning( see also Kruse, 2003; Marks & Louis, 1999). 1.3 แทรกอยู่ระหว่างข้อความ The finding is consistent with Cumming’s (1990) study, which indicates that L2 proficiency was not associated with the metalinguisitic thinking while composing in L2.
	2. การใช้ tense ในการอ้างอิง 2.1 ใช้ present tense เมื่อจุดเน้นอยู่ที่ข้อมูล ทั่วไปและเป็นข้อเท็จจริง Rap music is performed and produced by African American (Dixon & Linz, 1997; Fried, 1996; Rose, 1994). 2.2 ใช้ present perfect tense 1) เมื่อจุดเน้นอยู่ที่ขอบข่ายเนื้อหาวิจัยของผู้เขียนหลาย ๆ คน ทั่วไป ตัวอย่างที่ 1 Although scholars across many disciplines have widely acknowledged that learning is of the utmost importance for organizations to achieve their professional mission, there appears to be an equally pervasive lack of agreement as regards the commonly accepted definition of the concept. ตัวอย่างที่ 2 A growing number of empirical studies have typically found that media exposure is related to greater endorsement of the thin ideal, less satisfaction with one’s own body, and greater tendency of exhibiting eating –disorder symptomatology (Botta, 1999; Harrison, 2001; Harrison & Cantor, 1997). 2) เมื่อกล่าวถึงข้อความทั่วไปของงานวิจัย Research in this field has suffered from conceptions that are excessively broad, encompassing almost every dimension of organizational change (Cohen & Sproull, 1991; Edmondson & Moingeon, 1998). 2.3 ใช้ past simple tense เมื่อกล่าวถึงงานวิจัยแต่ละงาน For instance, Kim (2008) found that correctly resolved LREs between the learners led to the acquisition of new vocabulary. การกล่าวถึงงานวิจัยแต่ละงาน อาจใช้คำกริยาต่อไปนี้ showed (แสดงว่า...), reported (รายงานว่า ...), noted (ตั้ง ข้อสังเกตว่า...), observed (สังเกตว่า...), argued (โต้แย้งว่า...), proposed (เสนอว่า...), acknowledged (รับรอง/ตระหนักว่า...)
	3. ทัศนคติ มุมมองและ tense ในการเขียนรายงานผลการวิจัยหรือข้อค้นพบ 3.1 ผลการวิจัยของงานวิจัยที่อ้างอิงนั้นเป็นที่ยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง (fact) Author(s) + reference number or date + verb of report (past tense-showed) + that + findings (present tense) Losee (2007) described the use and purposes of thesauri and ontologies and acknowledged that the information provided by these products is meant to be used by searchers. 3.2 ผลการวิจัยของงานวิจัยที่อ้างอิงนั้นจำกัดแต่เฉพาะงานนั้น แต่เป็นที่ยอมรับว่าเป็นจริงโดยทั่วไป Author (s) + reference number or date + verb of report (past tense-showed) + that + findings (past tense) Lucas and Topi (2004) found that when searchers interacted with a simple interface, even minimal training in Boolean logic improved search results. 3.3.ผู้เขียนงานวิจัยที่อ้างอิงนั้นรู้สึกว่าผลการวิจัยเพียงแต่อาจเป็นไปได้ (tentative) หรืออาจจะไม่ได้รายงานผลเพียงแต่บอกข้อเสนอแนะหรือข้อเสนอ Author (s) + reference number or date + verb of report (past tense-proposed/suggested/hypothesized) + that + findings (modal auxiliary + verb) Taljia et.al (1999) associated this viewpoint with the interpretative approach, suggesting that context should be understood as a carrier of subjectively interpreted meaning. (Sources: Weissenberg & Buker, 1990 : 54-56 ตัวอย่างค้นคว้าโดยผู้เขียนชุดฝึกอบรมฯ)
	4. การเตรียมผู้อ่านโดยบอกว่าในการศึกษาเรื่องนั้น ๆ ยังขาดข้อมูล การเตรียมผู้อ่านสำหรับบทความของผู้เขียน อาจทำได้โดยบอกว่าวรรณกรรมหรืองานวิจัยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่เพียงพอเพราะขาดประเด็นสำคัญ หรือยังมีประเด็นขัดแย้งที่ตกลงกันไม่ได้ อาจจะเป็นเชิงทฤษฎี หรือระเบียบวิธีวิจัย ทำให้ต้องมีการศึกษาเรื่องนี้โดยผู้เขียน หรือบอกว่าการศึกษาวรรณกรรมที่ผ่านมาทำให้มีประเด็นเกี่ยวเนื่องมาถึงหัวข้อหรือประเด็นคำถามวิจัยของผู้เขียน
	5. บอกวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เฉพาะเจาะจงที่สุดของบทความ ระบุโดยตรง The purpose of this paper is to… The aim of the present report is to… บอกวัตถุประสงค์ของงานวิจัยที่ได้ศึกษามา The purpose of this study was to…
	6. การกล่าวถึงคุณค่าของงาน การกล่าวถึงคุณค่าของบทความ อาจเขียนจากมุมมองต่อไปนี้ ประโยชน์การใช้งาน ความสำคัญในทางทฤษฎี

โครงสร้างของบทความ

การเขียนส่วนต่างๆ ของบทความ

Activities

Copyright 2010. by Alisa Vanijdee

Sukhothai Thammathirat Open University