คุณสมบัติเฉพาะ |
ผู้สมัครต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานอื่นที่สำนักงาน ก.พ. รับรอง และคุณวุฒิการศึกษาที่สภาวิชาชีพรับรอง จะต้องได้รับการรับรองจากสภาวิชาชีพนั้นๆ |
วุฒิการศึกษา |
|
|
|
|
|
1. |
สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่าตามที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง หรือ |
2. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ ศิลปหัตถกรรม หรือ |
3. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม เกษตรกรรม คหกรรม หรือ |
4. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม หรือบริหารธุรกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ศิลปกรรม หรือ |
5. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสิ่งทอ คหกรรมเกษตรกรรม ประมง และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ |
6. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือประกาศนียบัตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตร 1 ปี (เช่น ป.ผู้ช่วยทันตแพทย์ ป.ผู้ช่วยเภสัชกร ป.ผู้ช่วยแพทย์ ป.ผดุงครรภ์อนามัย ป.พนักงานอนามัย ป.พนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์) หรือ |
7. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตร 1 ปี หรือ |
8. |
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรีทางด้านสังคมศาสตร์ หรือเทียบเคียง หรือ |
9. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี (เช่น รังสีเทคนิค เซลล์วิทยา พยาธิวิทยา พยาธิวิทยาคลินิก โลหิตวิทยา และธนาคารเลือด หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) หรือ |
10. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพที่เป็นงานสนับสนุน ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี (เช่น เวชระเบียน โสตทัศนศึกษา โสตทัศนูปกรณ์ ส่งเสริมสุขภาพ สุขศึกษา หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) หรือ |
11. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางการแพทย์แผนไทย หรือเทียบเคียง ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ |
12. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางสาธารณสุขศาสตร์ แต่ไม่ใช่สาธารณสุขศาสตร์โดยตรง ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี (เช่น ทันตาภิบาล ทันตสาธารณสุข เจ้าพนักงานเภสัชกรรม เทคนิคเภสัชกรรม) หรือ |
13. |
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ (เช่น วิศวกรรมศาสตร์สิ่งแวดล้อม หรืออื่นๆ) หรือ |
14. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรทางการพยาบาล หรือสำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางเวชกิจฉุกเฉิน หลักสูตร 2 ปี ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ |
15. |
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่หลักสูตรไม่มีการเรียนและฝึกปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในชุมชน (เช่น สัตวแพทย์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด รังสีเทคนิค หรืออื่นๆ) หรือ |
16. |
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรีด้านแพทย์แผนไทย หรือเทียบเคียง หรือ |
17. |
สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาทางสาธารณสุขศาสตร์ ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายและศึกษาในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 2 ปี (เช่น สาธารณสุขชุมชน พนักงานอนามัย นักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าทหารแพทย์ หรือเทียบเคียง) หรือ |
18. |
สำเร็จการศึกษาสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต วิชาเอกอาชีวอนามัยและความปลอดภัย หรือวิชาเอกอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือ |
19. |
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางการพยาบาลหรือสูงกว่า หรือสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่าทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ (เช่น แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกรรม ส่งเสริมสุขภาพ สุขศึกษา หรือสาขาวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) |
หมายเหตุ |
1) กรณีผู้สมัครใช้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่มิใช่ทางสาธารณสุขศาสตร์ ให้ศึกษาชุดวิชาศึกษาทั่วไปตามประกาศมหาวิทยาลัย เรื่องเกณฑ์การกำหนดชุดวิชาศึกษาทั่วไป สำหรับบุคคลที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ.2556 |
|
2) สำหรับผู้เข้าศึกษาโดยมีวุฒิการศึกษาตามข้อ 7 19 อาจได้รับยกเว้นหรือเทียบโอนรายวิชาที่ได้ศึกษามาแล้ว ในระดับประกาศนียบัตร/อนุปริญญา/ปริญญาตรี ตามโครงสร้างและรายละเอียดของหลักสูตรที่กำหนดไว้ |
|
3) ผู้มีสิทธิเข้าศึกษาซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ 1 19 ต้องไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา หรือเคยถูกถอนสถานภาพการเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเนื่องจากความประพฤติเสื่อมเสีย บุคคลซึ่งเคยถูกถอนสถานภาพการเป็นนักศึกษา
ของมหาวิทยาลัย เนื่องจากความประพฤติเสื่อมเสียจะกลับเข้าศึกษาใหม่ได้เป็นรายกรณี หากสภาวิชาการพิจารณาเห็นสมควร ให้เข้าศึกษา เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันประกาศถอนสถานภาพการเป็นนักศึกษา หรือเป็นนักศึกษาโครงการความร่วมมือ
ในการจัดการศึกษาให้พิจารณาเป็นรายกรณี |